ไหว้พระ สะสมบุญ เสริมบารมีให้ชีวิต ที่พม่า
พอเคลียร์คิวว่างจากงานแสดงได้ สาว "ส้ม" ธัญสินี พรมสุทธิ์ ก็ไม่รอช้าชวนคุณแม่ไปเที่ยวพร้อมกับทำบุญ โดยทั้งส้มและคุณแม่เห็นพ้องใจตรงกันเลือกไปที่ ประเทศพม่า เพราะไม่เคยไปมาก่อน และทริปนี้ก็เป็นทริปทำบุญจริงๆ
เพราะวันแรกที่ไปถึงก็ตรงไปยังเมืองหงสาวดีเลย ไปไหว้ พระธาตุมุเตา ที่ไกด์บอกกับส้มว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก แม้แต่องค์บุเรงนองยังต้องไหว้ทุกคืน และไหว้ก่อนออกรบทุกครั้งด้วย จากนั้นเดินทางกันต่ออีก 2 ชั่วโมง ไปที่ พระธาตุอินทร์แขวน ขอบอกว่ากว่าจะเดินทางมาถึงเล่นเอาเหนื่อยมากๆ เพราะต้องขึ้นเขาสูงมาก และต้องนั่งรถท้องถิ่นเป็นรถ 6 ล้อ เพื่อความชำนาญ ตอนนั่งรถส้มกับแม่ก็เกร็งกันสุดๆ เพราะทางคดเคี้ยวมากแถมที่เกาะก็มีแค่ริมๆ ยังไม่ทันถึงก็เริ่มปวดตัวซะแล้ว นั่งรถใช้เวลา 45 นาที แต่ยังไม่ถึงที่หมายหรอกนะ ต้องขึ้นเสลี่ยงต่อไปอีก แหม...อันนี้ทำเอาส้มรู้สึกเหมือนเป็นเจ้านางเลยทีเดียว เพราะมีคนแบกตั้ง 4 คน แต่ก็น่าสงสารคนแบกเหมือนกัน เพราะทั้งสูงและชันกว่าจะถึง แต่พระธาตุอินทร์แขวนก็สวยเหลือเกินคุ้มค่ากับการเดินทางมาชม เพราะเป็นอะไรที่แปลกมหัศจรรย์ที่หินก้อนใหญ่ขนาดนั้นถึงจะเอียงแต่ไม่ตกลงมา และอีกสิ่งหนึ่งที่อัศจรรย์คือ พระนางชเวนันจิน ที่ชาวพม่าเชื่อว่าเจ็บป่วยตรงไหน ให้เอาเงินไปวางไว้ แล้วนวดนางตรงนั้นและขอให้หายก็จะหายจริง ซึ่งแม่ส้มก็ทำ เหลือเชื่อมากรุ่งขึ้นแม่ส้มรู้สึกว่าอาการปวดข้อที่เรื้อรังหาย แต่อันนี้ขอบอกว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ ถ้าใครอยากรู้ว่าจริงหรือไม่ต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเองค่ะ
จากพระธาตุอินทร์แขวนไปต่อกันที่ วัดไจ๋คะวาย และที่ วังบุเรงนอง ซึ่งสวยงามอลังการงานสร้างจริงๆ ในขณะที่ วัดพระหินอ่อน ก็มีพระพุทธรูปรอยพระพุทธบาทที่สวยงามมากทำมาจากหินอ่อน ส่วนที่ วัดพระยิ้มหวาน ก็จะเป็นพระนอนที่ยิ้มหวานมาก และพระตาหวาน ถ้ามองใกล้ๆ จะเห็นว่ามีขนตาที่สวยงามมาก โดยไกด์เล่าว่าเป็นฝีมือของช่างชาวญี่ปุ่น แต่กว่าจะสร้างได้ก็หาช่างหลายคนก็ทำไม่สำเร็จ จนมาช่างคนนี้บอกท่านว่าจะกินมังสวิรัติ และอยู่ที่นี่ตลอดจึงทำสำเร็จ
และที่พลาดไม่ได้เมื่อมาที่พม่าคือ เจดีย์ชเวดากอง ขอบอกว่าสวยงามมากๆ ส่วนที่ เจดีย์เยเลพญา เป็นเจดีย์กลางน้ำ อยู่ที่เมืองสิเรียม มีความแปลกตรงที่เจดีย์อยู่กลางน้ำแต่น้ำไม่เคยท่วม ซึ่งตามตำนานบอกว่า มีการอธิษฐานไว้น้ำก็เลยไม่ท่วมจริงๆ แต่ที่น่าชื่นชมคือ การเดินทางไปวัดของที่นี่ต้องนั่งเรือ ซึ่งค่อนข้างลำบาก แต่ความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของคนที่นี่ยังมีอยู่มาก วัดทุกวัดที่ส้มได้ไปคนจะเยอะทุกวัด แถมผู้หญิงต้องแต่งกายสุภาพเท่านั้นถึงจะเข้าได้
ส่วนอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ส้มมาพม่า คือ เจดีย์โปตาทาวน์ หรือ วัดเทพทันใจ ที่คนไทยชอบไปเยอะมาก เพราะมีพระพุทธรูปที่สวยงาม อีกทั้งมีเทพทันใจที่ขอพรอะไรก็มักจะได้ทันใจอย่างชื่อ ส้มก็เลยไม่รีรอที่จะขอพร เพราะเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายในการมาพม่า และก็เพิ่งรู้ว่าชื่อทันใจ มาจากคนไทยเรานี่แหละตั้งให้ท่านเอง และใกล้ๆกันมี เทพกระซิบ ซึ่งสวยมากเลย และพอเข้าไปใกล้ท่านตัวท่านก็หอมมาก แต่การขอพรมีข้อแม้ว่าต้องกระซิบห้ามให้ใครได้ยิน ไม่อย่างงั้นจะไม่ได้ตามที่ขอไว้ ส้มกับแม่ก็เลยกระซิบขอพรกับท่านโดยไม่มีใครยอมบอกใครว่าขอพรเกี่ยวกับอะไร
ไหว้พระขอพรสมใจก็ไปที่ เจดีย์พระเขี้ยวแก้ว ซึ่งอัญเชิญท่านมาจากประเทศจีน ส่วนภายในสถานที่ก็ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม แทบจะเป็นทองทุกที่เลย ก่อนกลับส้มกับแม่ไปที่ วัดบารมี ไปพบ หลวงพ่อปารมี ซึ่งเป็นที่เคารพนับถืออย่างมากของคนไทยและคนพม่า โดยหลวงพ่อปารมีได้เอาพระเกศาของพระพุทธเจ้ามาวางบนหัวและสวดให้กับทุกคน เป็นสิริมงคลมากๆ
เป็นทริปที่เรียกได้ว่าอิ่มบุญอิ่มใจ นอกจากได้ทำบุญตลอดทั้งทริปแล้วยังได้ไปดูสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ถึงแม้จะเหนื่อยแต่ก็สบายใจ
(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)