อร่อยหยุดไม่อยู่ YAKINIKU เนื้อย่าง สไตล์เกาหลี Feat.ญี่ปุ่น
ควันโขมงเข้าหน้า เข้าตา เนื้อหมู กุ้ง ไก่ และสารพัดอย่างกองพูนที่ใส่มาในจานเล็กๆ กินหมดไม่หมดไม่รู้ รู้แค่ว่าเอามาไว้ก่อน กับข้าวนานาชนิดถูกวางลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนอย่างต่อเนื่อง หนึ่งมือจับตะเกียบ หนึ่งมือจับช้อน เมื่อพร้อมแล้วก็ลุย! นี่คือ วัฒนธรรมการกินหมูกระทะ อิ่มเต็มพุง และกลิ่นติดเสื้ออันเป็นเอกลักษณ์ แต่ครั้งนี้ เราจะขอปฏิวัติการกินเมนูปิ้งย่าง ด้วยกันพาครอบครัวไปตะลุยกินปิ้งย่างสไตล์เกาหลี+ญี่ปุ่นกันดูบ้าง
เราเดินทางไปยังถ.สุขาภิบาล 1 ขาออก (ถ.นวมินทร์) จากบางกะปิมุ่งหน้ารามอินทรา ร้านจะอยู่หัวมุมสามแยกที่จะเลี้ยวเข้า ถ.โพธิ์แก้ว หรือจะใช้เส้นทางที่เข้าจากซ.ลาดพร้าว 101 แล้วเลี้ยวขวาที่สามแยกวัดบึงทองหลาง ตรงไปจนสุดถนนโพธิ์แก้ว ร้านจะอยู่หัวมุมซ้ายมือ บรรยากาศร้านเปิดโล่ง เน้น Open Air เพื่อรับลมจากทุกทิศทุกทาง ตรงกลางร้านมีสระน้ำเล็กๆ ให้ความชุ่มฉ่ำ โต๊ะไม้สีขาวสะอาดตา ที่เจาะกลางโต๊ะสำหรับวางเตาถ่าน เพื่อให้สามารถคีบชิ้นเนื้อได้อย่างสะดวก พร้อมปล่องดูดควันสีดำ บริเวณข้างๆ ไม่ให้ควันเข้าหน้าตัวเองและคนร่วมโต๊ะ
เจ้าของร้าน คุณสันติ์ เหมือนสังข์ เล่าให้ฟังว่า "ร้านแห่งนี้เพิ่งเปิดเมื่อเดือนธันวาคม 53 ตอนแรกเปิดเป็นร้านนั่งดื่ม ซึ่งอยู่ด้านหลังร้านปิ้งย่าง ต่อมาประมาณต้นปี 54 จึงเปิดเป็นโซนปิ้งย่างเต็มตัว เพราะเป็นคนที่ชอบอาหารสไตล์นี้ บวกกับเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วนก็ชอบและมีหุ้นส่วนอีก 2 คนที่เป็นชาวญี่ปุ่น การคัดสรรเนื้อและสูตรการหมักเนื้อต่างๆ กับซอส จึงมาจากความชอบและความถนัด เหมือนทำกินเอง ลูกค้าต้องได้ลิ้มรสแบบที่เราคิดว่าดีที่สุด"
สำหรับเมนูที่ต้องสั่งก็มีมากมาย ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 150 บาทขึ้นไปต่อจาน อาทิ เนื้อคารูบิ เนื้อซี่โครงสันในวัว ที่มีไขมันลายๆ แทรกตัวอยู่ ให้ความชุ่มฉ่ำของเนื้อยามโดนไฟปิ้ง สันคอหมูสูตรหมักเกลือ นุ่มๆ สุกได้ที่บนเตาถ่านร้อนๆ หรือจะเป็น หมูสันนอกเนยกระเทียม ที่เสิร์ฟพร้อมเนยละลายโรยกระเทียมหั่นเป็นแว่นๆ เอามาอังในเตาถ่านให้ร้อน กลิ่นหอมๆ ของเนยและกระเทียมเตะจมูก เมื่อหมูย่างได้ที่ก็ชโลมเนยที่ละลายแล้วลงบางๆ ส่งเนื้อเข้าปาก อร่อยเด็ด
นอกจากนี้ ยังมีเมนูเนื้อไก่หมักซอสต่างๆ หรือสูตรหมักเกลือ มีทั้งหมูและเนื้อวัวต่างๆ ให้เลือก ซึ่งเนื้อทั้งหมดเป็นเนื้อเกรดดีจากประเทศไทยของเรานี่เอง ไม่ต้องห่วงว่าจะเป็นเนื้อนำเข้าจากญี่ปุ่น หรือจะลิ้มรสเนื้อวัวพรีเมี่ยม อย่างเนื้อวัวโกเบ หรือเนื้อวัวมัตสึซากะ ที่มีราคาหลักพันบาทต่อจานต่อ 150 กรัม ให้ลองลิ้มรสชาติของเนื้อวัวแท้ๆ สุดๆ สักครั้ง
หากกลัวจะไม่อิ่มก็มีเมนูของกินเล่น อาทิ เกี๊ยวซ่าทอดสไตล์ทางใต้ของญี่ปุ่น คือ จะใช้แป้งห่อเครื่องปรุงแบบแบนๆ แล้วนำไปทอดให้กรอบ ทาโกยากิ กัดไปเจอเนื้อปลาหมึกเด้งๆ ชิ้นโต แก้เลี่ยนด้วยกิมจิรวม ที่มีส่วนผสมของหัวไชเท้าหั่นเป็นชิ้นๆ ผักกาดขาว และแตงกวา รสชาติกินง่าย ความกรุบกรอบของผักดอง ตามด้วยข้าวยำไข่กุ้ง ที่มีส่วนผสมของผักกวางตุ้ง ถั่วงอก หัวหอม ผสมไก่ปรุงรสคั่วจนแห้งเป็นผง ที่เสิร์ฟคู่กับซุปไข่ ในข้าวมีข้าวยำมีข้าวทอดกรอบๆ ให้เคี้ยวคำต่อคำ อร่อยดี
นอกจากนี้ ยังมีของกินเล่นอีกเยอะแยะให้เลือก ส่วนเครื่องดื่มของที่นี่มี เหล้าบ๊วย จะดื่มก่อนหรือหลังอาหารก็อร่อย รสชาติแบบเดียวกับ ICE VINE เบาๆ หอมๆ หรือจะแก้เลี่ยนแบบที่ชาวเกาหลีนิยม คือ การกินอาหารปิ้งย่างคู่กับการดื่มโซจู ก็มีให้เลือก แต่สำหรับคอแอลกอฮอล์บ้านเรา ต้องสั่งเบียร์มาแกล้ม ถึงจะเพลิน เมนูของที่นี่เป็นการผสมผสานระหว่างการกินปิ้งย่างสไตล์เกาหลีและญี่ปุ่นไว้ด้วยกัน สอดแทรกรสชาติให้เหมาะกับลิ้นของคนไทยได้อย่างลงตัว
ช่วงเวลาประมาณ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป อากาศกำลังดี นั่งคีบเนื้อนุ่มๆ เคี้ยวเพลินกับคนในครอบครัว อิ่มกำลังดี นับเป็นทางเลือกสำหรับการมาสังสรรค์อีกรูปแบบหนึ่ง นานๆ มาทีก็ดีเหมือนกันนะ
Menu
เนื้อคารูบิ (เนื้อซี่โครงสันในวัว) 165 บาท/จาน : 100 กรัม
สันคอหมู หมักเกลือ 79 บาท/จาน : 100 กรัม
หมูสันนอกเนยกระเทียม 95 บาท/จาน : 100 กรัม
เกี๊ยวซ่าทอด 89 บาท
ทาโกยากิ 95 บาท
ข้าวยำไข่กุ้ง + ซุปไข่ 185 บาท
กิมจิรวม 95 บาท
ขอขอบคุณร้าน YAKINIKU PARK โทร.084 331 3441
เรื่อง : ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ / ภาพ : สุตสาย สังหาร