ลัดฟ้าไปปารีส ตามรอยเจ้าหญิงของเจ้าชาย “หมาก” ปริญ สุภารัตน์ ตอน 3
หลังจากมาถึง สเปน และรับประทานมื้อเย็นพออิ่มได้ที่เราก็เดินย่อยชมเมืองยามค่ำคืนกันที่จตุรัสเซบิเลส ขอบอกเลยว่าใครที่อยากมาเที่ยวสเปนให้รีบจองตั๋วแล้วมาด่วนเลยนะ บ้านเมืองนี้คึกครื้น ทำให้หัวใจคึกคักมากๆ เที่ยงคืนกว่าแล้วยังจูงลูกอุ้มหลานมาเที่ยวเล่นกันอยู่ หรือว่าเราไปตอนที่มีงานเทศกาลนักบุญของเขาด้วยก็ไม่รู้ แต่ยังไงก็แล้วแต่ สเปนก็เป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากจริงๆ แค่นั่งมองคนเดินไปมาอยู่หน้าโรงแรมก็สนุกแล้ว
แต่สงสัยจะเพลินไปหน่อย เช้าวันต่อมาทุกคนก็เลยพากันตื่นสาย แต่ก็ได้เดินช้อปปิ้งแถวนั้นเล็กน้อย ได้ยินว่าเจ้าชายของเราประทับใจเครื่องเสียงทรงโบราณในร้านนี้ ท่าทางจะชอบของเก่า เตรียมจะเล่นมุกหญิงเก่าอาวุโส ก็โดนดักคอเสียก่อนว่า ชอบแค่ของเก่า งานนี้เจ้าหญิงสูงวัยก็เลยอกหัก ต้องหนีไปซัดข้าวผัดสเปนปลอบใจ แต่สงสัยจะรู้ว่าข้าน้อยเจ็บช้ำในอุรามาก เลยเล่นเสิร์ฟอาหารมาเสียจานมหึมา จะกินอย่างไรไหวละจ๊ะเนี่ย คอนเซ็ปต์ของทัวร์นี้ "น้ำหนักไม่ขึ้น เราไม่กลับ" อย่ากระนั้นเลย เราไปสลายไขมันกันหน่อยดีกว่า ด้วยการเดินชม พิพิธภัณฑ์ปราโด้ มีงานศิลปะของ Goya ที่มีชื่อเสียง ภายในนั้นห้ามถ่ายรูป แต่ก็เป็นวิธีที่ดีสำหรับการรักษางานศิลปะ เราก็เลยได้แต่เก็บภาพที่ด้านหน้ามาฝากกัน
บ่ายแก่ๆ ที่ท้องฟ้าแจ่มใสราวกับตอนเที่ยง เราก็ไปเยือน สนามฟุตบอลซานติอาโก เบอร์นาบิว ของสโมสรรีล มาดริด จุดหนึ่ง เจ้าหญิงก็รู้จักแต่ลีซอ กับปิยะพงศ์ ผิวอ่อน แต่ก็พยายามตื่นเต้นร่วมไปกับเจ้าชาย โว้ว...ถ้วยรางวัล ว้าว...รองเท้านักฟุตบอล วิ้ว...สนาม วู้ว...ห้องน้ำ สักพักเจ้าชายเริ่มตีตัวออกห่างนะ เพราะรู้สึกว่าหญิงนางนี้ มันบ้าอย่างไรชอบกลนะ 5555 หลังจากเจ้าชายหายไป เจ้าหญิงก็ไปพบรักใหม่กับนักเต้นระบำฟลามิงโก้ ในโชว์พิเศษประจำมื้อค่ำ พี่นะจองที่พิเศษให้เราอีกแล้ว แทบจะเกยขอบเวที พี่จั๊ดกับพี่ธงที่เคยนั่งใกล้ชิดตอนโชว์ในลิโด้ชักขยาด เลยสลับให้พี่นักข่าวไปสัมผัสอรรถรสแบบนั้นดูบ้าง คาดว่าตอนนี้เสียงฝีเท้าของนักเต้นคงจะยังก้องอยู่ในหูของทุกคนอยู่เป็นแน่ มื้อนี้มีเรื่องเม้าท์พี่ธงธงอีกแล้ว (55 พี่ธงไม่โกรธหนูใช่ไหมคะ) เมื่อมื้ออาหารเสิร์ฟไวน์แดง แล้วนางได้ซัดไปหลายแก้ว จากพระนางเดซิเลเลยกลายเป็นนายแมทธิวได้ยังไงไม่รู้ เบิกบานอยู่กลางถนนสเปนด้วยการร้องเพลงฉ่ำอุรา ตอนจบคือการที่พี่จั๊ดได้ออกกำลังกายยามดึก ด้วยการพาร่างนางกลับโรงแรม เรียกได้ว่าพี่ธงขยันสร้างเสียงหัวเราะจนหยดสุดท้าย แม้เจ้าตัวจะจำอะไรไม่ได้ก็ตาม (แต่เจ้าหญิงก็ใช่ว่าจะได้เห็นภาพเหล่านั้นทั้งหมดนะ เพราะชิงกลับมาสลบเหมือดอยู่ในห้องพัก ก่อนนายแมทธิวซะอีก)
วันต่อมา ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมภาพของพี่ธงธงจึงหายไปจากกล้องของทุกคน ไม่ใช่เพราะเธอพักร่างอยู่ในห้องเพียงอย่างเดียว แต่เพราะวันสุดท้ายนี้พี่นะปล่อยให้เราช้อปปิ้งกันอย่างเต็มที่ ต่างคนต่างแยกย้ายไปหมุนเวียนเงินตรากันคนละทิศละทาง (สุดท้ายเจ้าชายก็ได้เครื่องเสียงที่ว่ามาครอบครอง) ก่อนจะปิดฉากทริปนี้ด้วยอาหารไทยในมื้อค่ำ หลังรับตับเป็ดและอาหารประชำชาติไปหลายมื้อ ไข่เจียวและกลิ่นหอมของแกงเขียวหวาน ก็ทำให้พวกเราฟาดข้าวสวยหมดไปหลายสิบหม้อ ถือเป็นการเดินทางที่ยิ่งกว่าประทับใจ มันตรึงตราอยู่ในความทรงจำ ไม่ได้โอเว่อร์...แต่มันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ แม้ไปเป็นเจ้าหญิง 8-9 วันแล้วจะต้องกลับมาเป็นนังแจ๋วเหมือนเดิมก็ตาม แต่จะมีนังแจ๋วสักกี่คนที่ได้มีประสบการณ์ชีวิตยอดเยี่ยมขนาดนี้ ใครที่บอกว่าอิจฉาๆ รีบไปเปิดวิทยุแล้วฟังคลื่น 90 รวมมิตรเรดิโอซะ เพราะถ้ามัวแต่ชักช้าก็จะไม่ได้ไปใกล้ชิดกับดาราในดวงใจไกลถึงประเทศในฝันอย่างนี้ แล้วจะมานั่งเสียดายทีหลังไม่รู้ด้วยน้า
สุดท้ายนี้ ก็ต้องขอกราบขอบพระคุณพี่ๆ ใจดีของ 90 รวมมิตรเรดิโอทุกคน พี่จั๊ดกับพี่ธงธง ที่สร้างสีสันให้กันแบบสุดๆ พี่หมาก (ขอเรียกพี่ได้ไหม 555) เจ้าชายสุดหล่อประจำทริป (พี่พลอยด้วยนะคะ) และพี่ๆ นักข่าวที่กระหน่ำช้อปปิ้งร่วมกัน ถ้าผลบุญที่เราเคยสร้างร่วมกันแต่ชาติปางก่อนยังคงเหลืออยู่ ขอให้เราได้พบกันใหม่ สวัสดี ^^
(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ