เชียงใหม่ ... ฤดูไหนๆ ก็น่ารักอ่ะ

"เชียงใหม่" อาจเป็นจังหวัดที่อยู่ไกลสำหรับคนกรุงเทพฯ แต่สำหรับฉันแล้วมันใกล้มากหากใจเราอยากเดินทาง ที่สำคัญจังหวัดนี้ยังเป็นดินแดนที่ฉันไปหาบ่อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นช่วงหน้าร้อน หน้าฝน หรือหน้าหนาว เพราะฉันอยากจะรู้จักเชียงใหม่ในทุกฤดู และแม้ว่าจะมาบ่อยแค่ไหนแต่ก็ยังเที่ยวไม่หมดสักที และในทุกครั้งที่ฉันไปเชียงใหม่ สิ่งที่ทำให้ฉันหยุดเดินและแวะพักเสมอๆ นั่นก็คือ ตัวเมืองเชียงใหม่ พัก...ก่อนที่จะเดินทางไปยังอำเภออื่นๆ และในแต่ละครั้งที่ไปขอบอกว่า ความสนุก ความตื่นตาตื่นใจ ก็ใม่เคยเหมือนกันเพราะเชียงใหม่น่ารักทุกครั้งที่เจอ

สวัสดีจ้าว... เชียงใหม่
ฉันเลือกออกเดินทางตอนกลางคืน เพื่อให้ถึงเชียงใหม่ในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น เพราะฉันอยากจะสูดกลิ่นเชียงใหม่ยามเช้าให้เต็มปอด ก่อนที่จะเลือกเช่ามอเตอร์ไซค์สักคัน แล้วขี่ชมเมืองเชียงใหม่อย่างจุใจ แต่ก่อนอื่นต้องขอเอาของไปเก็บที่บ้านพักเสียก่อน บ้านพักที่ฉันเลือกไป ก็คือ "บ้านเส-ลา" อยู่ในนิมมานเหมินทร์ ซ.5 ที่ฉันมานอนที่นี่ เพราะราคาไม่แพง เพื่อนๆ ที่เคยมานอนที่นี่ต่างก็ยกนิ้วชมว่า น่ารักและสมราคา  วันนี้ได้แวะมาบ้านเส-ลา น่ารักสมใจ การตกแต่งออกแนวเรโทรผสมปูนเปลือยและงานไม้ ชั้นบนสุดมีระเบียงพร้อมชุดเก้าอี้นอนไว้เอนชมวิวสวยๆ ที่สามารถเห็นดอยสุเทพอยู่ไกลๆ ฉันอ้อยอิ่งอยู่ที่บ้านเส-ลา พักใหญ่ จึงนั่งสองแถวแดงออกไปที่ร้านบิ๊กเกม ย่านเชียงใหม่ไนซ์บาซาร์ เพื่อไปเช่ามอเตอร์ไซค์ราคาเบาๆ มาสักคัน แล้วฉันจึงออกลุยเชียงใหม่ ณ เวลานี้ทันที

อากาศช่วงนี้แดดแรงสักพักอีกไม่ช้าฝนก็ตก เริ่มงงกับสภาพอากาศ เช้านี้เรามุ่งทะยานไปยังชุมชนวัดอุโมงค์ ให้ใช้เส้นทางไปจากตลาดต้นพยอม ผ่านสี่แยกคลองชลประทานไปทางด้านหลัง ม.เชียงใหม่ จุดแรกที่ตั้งใจไป คือ "วัดอุโมงค์" วัดเก่าแก่และมีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ รวมทั้งศูนย์รวมจิตใจและการปฏิบัติธรรมได้ ในวัดจะมีอุโมงค์โบราณเป็นกำแพงภายในเป็นทางเดินหลายช่องทะลุกันได้ และมีพระพุทธรูปมาให้กราบไหว้ ส่วนด้านบนอุโมงค์นั้นจะเป็นเจดีย์ที่มีอายุเก่าแก่ของล้านนาเป็นเจดีย์ทรงระฆัง มีชั้นทรงกลมประมาณ 3 ชั้นเหมือนกลีบบัวซ้อนกันอยู่ ด้านบนมีปลียอดสวยมาก และบริเวณด้านหน้าของอุโมงค์มีเศียรพระพุทธรูปหินสลักสกุลช่างพะเยาอยู่หลายเศียรให้ได้ชมอีกด้วย

ออกจากวัดอุโมงค์ แวะร้าน Paper Spoon ร้านกาแฟสไตล์บ้านสองชั้นออกแนวเหมือนห้องเรียนประถมสมัยก่อน แถมยังมีสโคนและพายทำสดใหม่ไว้ต้อนรับคนเดินทางที่แวะผ่านมาทางนี้ พี่แป้ม เจ้าของร้านออกมาต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม บอกกับเราว่าที่นี่ยังมีโปสการ์ดน่ารักๆ ของจุกจิกแฮนด์เมด และหนังสือแฮนด์เมดแผนที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่อย่างละเอียดยิบไว้ให้เลือกซื้อกันอีกด้วย จากนั้นมีพรายกระซิบมาบอกว่า อยากรู้หรือเปล่าว่าร้านกาแฟแห่งแรกของย่านนี้อยู่ที่ไหน ด้วยความที่อยากรู้จึงขอเส้นทางอย่างด่วนๆ ซึ่งขี่เลยไปอีกไม่ถึง 500 เมตร ร้านหลวงพระบาง กาแฟสด อยู่ตรงข้ามวัดโป่งน้อย กาแฟสดทีเด็ด หน่อปี๊ก็ทีเด็ด ที่เสิร์ฟใส่โหลแก้วขนาดใหญ่ แถมยังให้เก็บเองอีกต่างหาก ขอบอกว่า พี่เจี๊ยบ เจ้าของอย่างฮา แต่จะฮาอย่างไรต้องไปชิมกาแฟกันเอง

จากนั้นก็ขึ้นมอเตอร์ไซค์กลับมาเรื่อยๆ ผ่านร้านกาแฟอีกหลายร้าน แต่จะให้เข้าทุกร้าน คืนนี้คงไม่ต้องนอนกันเลยทีเดียว วนกลับมาย่านนิมมานเหมินทร์ แวะกินขนมปังเย็นชาดำเย็น ชามพูน นมสดแก้วโต ตรงข้ามร้านกาแฟวาวี ใกล้ๆ นิมมานฯ ซ.5 ยังเย็นสะใจไม่พอขอต่อด้วยไอติมโฮมเมดใน ซ.5 ฉันเรียก ไอติมร้านนี้ว่า ร้านไอติมกดกริ่ง เพราะเวลาจะซื้อต้องกดกริ่งเรียกเจ้าของร้านนั่นเอง รสชาติไอติมขอบอกว่า อร่อยขนาด! มีให้เลือกกว่า 20 รสชาติ มีไอติมผลไม้ตามฤดูกาลด้วย 15 บาท/ถ้วย ก็อร่อยได้สะใจ

ตกกลางคืนยังไม่อยากนอน คืนวันเสาร์แบบนี้ต้องลุย ถนนคนเดินวัวลาย กันสักหน่อย เดินเล่นชมของพื้นเมืองและของกินมากมาย เพลินๆ เริ่มตั้งแต่ 5 โมงเย็นถึงประมาณ 5 ทุ่มนะจ๊ะ ขากลับถึงบ้านเส-ลา ฝนก็กระหน่ำลงมาไม่ยั้ง ฉันยิ้มนอนฟังเสียงฝน ฉันตั้งใจไว้ว่า วันรุ่งขึ้นฉันจะเดินไปซื้อเบเกอรี่โฮมเมดร้านตรงข้ามบ้านเส-ลา แล้วไปชิลต่อที่ร้านเล่า ร้านหนังสือใน ซ.1 หาหนังสืออ่าน เขียนโปสการ์ดส่ง จิบกาแฟสดที่ชอบ เพียงแค่นี้ทริป กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ 2 วัน 1 คืนของฉัน ก็มีความหมายมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องมากมายกับชีวิต ก่อนกลับกรุงเทพฯ แวะกาดวโรรสซื้อของฝากสักหน่อย แค่นี้ก็สวัสดีเชียงใหม่ได้โดยไม่ต้องลางานแล้ว

การเดินทาง
รถทัวร์ กทม.-เชียงใหม่ มีให้เลือกหลายบริษัทราคา 500 บาทขึ้นไป หรือจะนั่งรถไฟฟรีรอบ 14.20 น. ก็ได้นะ (มีรอบเดียว) ซึ่งเสียเวลามาก แต่ก็ได้รสชาติอีกแบบ มาลงขนส่งอาเขต แล้วต่อรถสองแถวแดง ให้ไปตามที่ต้องการ แต่ระวังอย่าไปในราคาเหมานะ เพราะมันแพง แนะนำ : อินทราทัวร์ สามารถลงที่จุดลงรถซึ่งอยู่ใกล้กับไนซ์บาซาร์ สามารถเดินไปหาร้านบิ๊กเกม ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ในย่านนั้นต่อได้

เรื่อง : ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ / ภาพ : นวมินทร์ กุลประดิษฐ์