เที่ยวญี่ปุ่น Yufuin (ยูฟูอิน) เมืองเล็กๆ แต่น่ารัก
ช่วงนี้เห็นแสงแดดอ่อน ๆ เกี่ยวก้อยก้อนเมฆสีขาวมาสร้างสายฝนชุ่มฉ่ำอยู่บ่อยครั้ง หัวใจก็พลอยเบิกบานร่ำร้องว่าถึงเวลาแล้วสินะ ที่ต้องออกเดินทางกันเสียที คิดได้แบบนี้เลยจัดรวมพลชาวแก๊งค์ มานั่งคุยกันว่า เราจะไปเที่ยวที่ไหนกันดี คุยกันอยู่นาน สุดท้ายทุกคนก็สรุปว่า ...ทริปนี้ต้องไป "ญี่ปุ่น"
กว่า 5 ชั่วโมงของการนั่งเครื่องบินเหินฟ้า ระหว่างมาถึงมิกินั่งคิดเพลิน ๆ ว่ามาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที จะมีอะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านบ้างหนอ? เครื่องสำอางค์ เสื้อผ้า ขนม ตุ๊กตา กระเป๋า รองเท้า ฯ คิดแล้วคงหมดไปมากโข ก่อนมาคุณพ่อของมิกิบอกว่า เพราะประเทศนี้เปลี่ยนคุณพ่อให้กลายเป็นคนละคนจาก หนุ่มน้อยเจ้าสำราญ ใช้เงิน ใช้ชีวิตเที่ยวเล่นไปวัน ๆ เพราะเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว แต่พอมาเรียนปริญญาตรีด้านวิศวกรรมยานยนต์ที่นี่ ความเปลี่ยนแปลงของชีวิตหน้ามือเป็นหลังมือก็เกิดขึ้น เพราะต้องทำทุกอย่างเองทั้งหมด วางแผนการเรียน ค่าใช้จ่ายที่มีจำกัด ตลอดจนระเบียบวินัย ด้วยประเทศนี้ที่มีระเบียนวินัยในตัวเองสูง คนที่เฉื่อยชาก็เลยการเป็นคนแอ็กทีฟ รวมไปจนถึงเรื่องแปลกของหัวใจที่เริ่มต้นจากความแตกต่าง ตรงกันข้าม และไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้ ...จนมีสาวน้อยลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น หน้าตาจิ้มลิ้มอย่างมิกิค่ะ!!
Yufuin (ยูฟูอิน) คือจุดมุ่งหมายของการเดินทางครั้งนี้
เราตัดสินใจนั่งรถบาส จากสถานี Fukuoka สู่สถานี Oita ระหว่างทางเต็มไปด้วยความความสนุกสนาน สะดวกสบาย รื่นเริงบันเทิงก้นกบอย่างมาก ภายในรถสวยงามสะอาดเอี่ยม ไม่ต่างจากวิวด้านนอก อาคารบ้านเรือน ธรรมชาติ ภูเขา ต้นไม้ ทุ่งหญ้า ดอกไม็ นั่น...ยอดเขายุฟุดาเกะเขียวชอุ่มลิบ ๆ ด้านหน้ามีปุยเมฆขาวโอบล้อมไว้อย่างจงใจ ตัดกับฟ้าครามใต้เงาแดดเป็นฉากหลัง เห็นแล้วถึงกับร้อง โอ้วววว สวยสุด ๆ จนมิกิต้องรีบฉวยกล้องขึ้นมาถ่ายแทบไม่ทันกว่า 2 โมง ในที่สุด เราชาวแก๊งค์ก็ถึงสถานีสไตล์คันทรี่ของยูฟูอิน ขณะเดียวกันหากใครจะเลือกใช้บริการชมวิวรอบด้านได้มากกว่า รถไฟก็ดูจะเป็นคำตอบที่ถูกใจไม่น้อย รถไฟเดินทางสู่ Yufuin เริ่มต้นจาก Hakata-yufuin/oita ก็มีให้เลือก 3 แบบด้วยกัน
-Yufuin no Mori รถไฟตัวอ้วนกลมสีเขียวแมงทับ จากสถานี Hakata ถึง yufuin ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที
-Yufu รถไฟสีแดง จากสถานี Hakata ถึง iota
-Sonic รถไฟสีฟ้า น่านั่ง จากสถานี Hakata ถึง oita
แต่ถ้านั่งรถโดยสารด่วน จากฝั่งสถานีเป็ปปุไป Yufuin จะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 50 นาที
Yufuin เป็นเมืองที่หลายคนชื่นชอบ ตั้งอยู่บนที่ราบกลางหุบเขา ของจังหวัดโออิตะ บนเกาะคิวชู ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ระยะทางดูเหมือนจะไม่ห่างเมืองฟุคุโอกะ หรือ เมืองเบ็ปปุ มากเท่าไหร่ แต่ด้วยภูมิประเทศที่อยู่กลางเทือกเขาสูง ทำให้ต้องนั่งรถวนวนไต่ระดับสันเขา ลอดอุโมงค์ จนดูระยะทางห่างกัน แต่ก็อารมณ์ดีได้ด้วยการปลอบขวัญของวิวทิวทัศน์รอบด้าน ซึ่งช่วยคลายความไกลให้เป็นใกล้ลงได้ และว่ากันว่าความงามของเมืองนี้จะเปลี่ยนไปตาม 4 ฤดูกาล แต่ที่เด่นสุดเห็นจะเป็นการได้ชื่อว่าเป็น Onsen อันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น ตลอดจนมีทะเลสาป Kinrinko ใสแจ๋วเย็นเจี๊ยบ จุดชมใบไม้แดงเปลี่ยนสี ตัดสลับผิวน้ำวับแววยามต้องแสงแดด และแม้ว่าฉันกับชาวแก๊งค์จะเคยมาเยียนญี่ปุ่นแล้วหลายครั้ง เกียวโต โตเกียว ฮอกไกโด แต่ก็ไม่เคยมองว่าประเทศนี้สวยน้อยลงเลยสักนิดเดียว ตรงกันข้ามญี่ปุ่นยิ่งมองยิ่งสวย ยิ่งพิศยิ่งแจ่ม (แจ่มขั้นเทพ) ยิ่งสัมผัสยิ่งหลงรักมากขึ้นเรื่อย ๆ
บางคนขนานนามใหม่ให้ "เมืองยูฟูอิน" ว่าเป็นฝาแฝด "เมืองปาย" ของไทย บางคนรู้จักในฐานะเป็นเมืองต้นแบบหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ จะว่าไปแล้วนับเป็นความโชคดีของเมืองยูฟูอิน ที่มีผู้นำชุมชนมองการณ์ไกล เล็งเห็นถึงคุณประโยชน์ของทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้เอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง Onsen ยังคงความเป็นดั้งเดิมเอาไว้ จนกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่พร้อมเปิดประตูบ้านต้อนรับการมาเยือนของผู้คนแบบพอเพียง ไม่ถือโอกาสกอบโกย ดังนั้นโรงแรมที่พักจึงมีจำนวนจำกัด การเช่าจักรยานปั่นเที่ยวชมเมืองดูจะเป็นกิจกรรมที่ใครมาถึงก็ต้องทำ เพราะทุกซอกทุกมุมของยูฟูอินน่าค้นหาแบบละเมียดละไมทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นถนน yu no tsubo ที่เป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านขนม ร้านกาแฟ ร้านขายของฝาก Craft Shop ที่มีสินค้าพื้นเมืองทำจากไม้สวย ๆ เนี้ยบ ๆ ให้เลือกเพียบ หรือไปจิบบรรยากาศเก๋ ๆ อย่างพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Yufuin Trick Art Meikyuukan ที่เมื่อถ่ายภาพแล้ว จะเห็นเหมือนภาพมีมิติแตกต่าง ต่อด้วยโบสถ์กว่าร้อยปีของชาวอังกฤษ ที่ล้วนระลานตาน่าดูน่าชมทั้งนั้น จนเวลานี้ชาวแก๊งค์เราทุกคนต่างอดที่จะทำตัวเกาะแกะความสุนทรีย์ ซึ่งอัดแน่นกองเท่าภูเขาเลากาของยูฟูอินอย่างเสียไม่ได้
อย่างไรเพื่อเป็นการเก็บแรงไว้เยอะ ๆ ไม่อยากเมื่อยตุ้ม การใช้บริการรถลากชมเมืองก็ดูจะเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ พร้อมกันนี้หนุ่มรถลากยังบรรยายเรื่องราว รอบข้างด้วยสำเนียงภาษาอังกฤษตามแบบฉบับชาวญี่ปุ่น ซึ่งก็ดูน่ารักไปอีกแบบ ค่านั่ง 30 นาที 18,000 เยนต่อคน ในใจอาจจะรู้สึกว่าแพงจัง แต่ถ้าเจอยัยมดน้อย (กว่าหมี) สาวสวยหุ่นจ้ำหม้ำเข้าไป ก็ดูท่าว่าค่าจ้างจะสมน้ำสมเนื้อซะด้วยซ้ำ หรือถ้าจะใช้บริการนั่งรถม้าชมเมือง เขาก็มีบริการไว้คอยรองรับเต็มที่ แต่ที่ถูกใจมิกิมากที่สุดก็น่าจะเป็นบรรยากาศการทำนาปลูกข้าวด้านหลังบ้านของคนที่นี่ แถมยังมีลำธารใสสะอาดไหลตัดผ่านหมู่บ้าน ซึ่งต้นธารมาจากน้ำแร่ธรรมชาติบนภูเขา กลิ่นอายธรรมชาติต่าง ๆ ช่างเนรมิตให้ที่นี่ดูผ่อนคลายจนน่ามานอนพักผ่อนสักครึ่งปี สอดรับกับผู้คนท้องถิ่นที่ดูเหมือนภาคภูมิใจในความเป็น "ยูฟูอิน" อย่างเห็นได้ชัด
แว๊บหนึ่ง...ชวนให้มิกินึกถึงการ์ตูนเรื่องโปรด "โตโตโร่ เพื่อนรัก" ฉากธรรมชาติต่าง ๆ ที่สื่อออกมาล้วนคล้ายคลึงกับที่นี่ จำได้ว่าแม่เป็นคนเช่ามานั่งดูกับมิกิ เมื่อ 3 ปี ที่แล้ว โดยไม่พูดอะไรมากแค่บอกว่า ...มิกิต้องดู ตอนแรกก็เห็นว่าเป็นแค่การ์ตูนเพื่อความบันเทิง ดูเพลิน ๆ แต่พอดูอย่างลึกซึ้งจะเข้าใจว่าการ์ตูนเรื่องนี้มีมากกว่าความน่ารัก เพราะเป็นเรื่องราวที่สอนให้เด็กมีความรับผิดชอบ การเรียนรู้มิตรภาพระหว่างคนกับสัตว์ ความขยันขันแข็งในการทำสิ่งต่าง ๆ และความรักรักธรรมชาติ หรือจะเลือก ไปนั่งรถชมทุ่ง ทางเหนือของเมือง ที่เราแค่นั่งรถออกจากสถานียุฟุอิน ไปประมาณ 15 นาที ก็จะได้สัมผัส ทุ่งหญ้ากว้างท่ามกลางการโอบกอดของขุนเขา แต่ถ้าใครเกิดนึกสนุกอยากขี่ม้าเล่น ล้อลม ดมดอกไม้ ดอกหญ้า ที่นี่เขาก็มีไว้คอยบริการ หรือจะเลือกไปแช่ Onsen ในบรรยากาศแบบญี่ปุ่น ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง ที่เราแค่นั่งรถออกจากสถานียุฟุอิน ไปประมาณ 20 นาที จะพบกับ Onsen โบราณ 5 แห่ง ตั้งเรียงรายอยู่บนเนินถนนแผ่นหิน และอื่น ๆ ซึ่งเราสามารถเลือกใช้บริการได้ตั้งแต่ระดับธรรมดา ไปจนถึงหรูหรา
...มีอาจารย์ญี่ปุ่นท่านหนึ่งกระซิบบอกว่า ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าหากใครไม่สบาย ห้ามแช่ Onsen เด็ดขาด เพราะจะยิ่งไม่สบายเข้าไปใหญ่เที่ยวมาทั้งวันแล้ว เงยหน้าขึ้นอีกที พระอาทิตย์ก็แอบไปงีบหลังภูเขาลูกใหญ่ซะแล้ว สายลมเย็นเริ่มพัดมากระทบแก้ม ค่ำคืนนี้เราร่ำลาความงามรอบด้าน ด้วยการนั่งซุกตัวในผ้าห่มหนา มองดวงดาวน้อยใหญ่ที่กำลังส่องแสงระยิบระยับเต็มท้องฟ้า คล้ายกับว่ากำลังโบกมือร่ำลาให้พวกเรา...พรุ่งนี้ต้องเดินทางต่อแล้วสินะ ...ลาก่อน "ยูฟูอิน" เมืองเล็ก ๆ แต่ทรงเสน่ห์ด้วยความน่ารัก ในความเรียบง่าย และมิกิว่านี่เป็นความ "งดงาม" หยั่งลึกในความรู้สึก เกินกว่าที่ใครจะมาสัมผัสแบบผิวเผิน!