ลาว ไปกี่ครั้งก็ม่วนหลาย!

ลาว ไปกี่ครั้งก็ม่วนหลาย!

ลาว ไปกี่ครั้งก็ม่วนหลาย!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ท่าแขก สปป. ลาว : ตัวเมืองนครพนมอยู่ติดชิดริมฝั่งโขง แค่มองไปยังฝั่งกระโน้นของลำน้ำโขงก็เห็นเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน ประเทศลาว ซึ่งมีเทือกเขาสูงต่ำสลับซับซ้อนทอดยาวกว้างไกลสุดตาแล้ว ถ้าถามชาวบ้านร้านถิ่นว่าที่ท่าแขกมีอะไรเที่ยวไหม หลายๆ คนจะบอกว่า "ไม่มีอะไรหรอก"


แต่ในเมื่อมาจนใกล้ขนาดนี้ แล้วจะไม่ข้ามไปด้วยเชื่อตามที่เขาบอก ก็ดูคล้ายอาจพลาดบางสิ่งบางอย่างไป เพราะเป็นได้ว่า "อะไร" ของคนตอบ อาจไม่ตรงกับ "อะไร" ของคนถาม  ที่แน่ๆ ก่อนไป เราคงต้องการอะไรที่สำคัญอย่างพาสปอร์ต หรือไม่ก็ต้องทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราว ณ จุดบริการออกหนังสือผ่านแดนชั่วคราว ที่ท่าเทียบเรือการท่องเที่ยว โดยใช้หลักฐานคือ สำเนาบัตรประชาชน รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว 2 รูป ค่าทำบัตร 30 บาท (ด่านตรวจคนเข้าเมืองนครพนม โทร. 0-4251-1235) ผู้ถือหนังสือฯ จะอยู่ในแขวงคำม่วนได้นาน 3 วัน เฉพาะในเมืองท่าแขก หินบูน หนองบก มะหาไซ ยมมะลาด นากาย เซบั้งไฟ และไซบัวทอง ปรกติการทำบัตรผ่านแดนใช้เวลาเพียง 10 นาที จากนั้นก็ไปซื้อตั๋วเรือข้ามฟากราคา 60 บาท ที่มีบริการตั้งแต่ 08.00-18.00 น. ได้เลย เรือออกทุกครึ่งชั่วโมง

13.50 น. เป็นเวลาที่พวกเราออกเดินทางไปต่างประเทศ หลังจากกินมื้อเที่ยงจากฝั่งไทยกันอิ่มท้องก่อน เพราะหลายเสียงบอกมาว่าของกินฝั่งนู้นรสชาติไม่ค่อยคุ้น อีกทั้งราคาค่อนข้างแพง

ซิ่ง "สกายแล็บ" ท่องเมือง


นั่งเล่นๆ อยู่บนเรือแป๊บเดียว เราก็ข้ามไปถึงเมืองท่าแขก ผ่านด่าน ตม. ยื่นหนังสือผ่านแดนชั่วคราวพร้อมจ่ายค่าเหยียบแผ่นดินคนละ 50 บาทกันเรียบร้อย ตอนรับบัตรผ่านแดนชั่วคราวกลับคืนมา อย่าลืมตรวจสอบกันอีกครั้ง ด้วยเพราะอาจจะมีของคนอื่นติดมา จากนั้นก็ออกท่องแผ่นดินลาวกันด้วยรถสกายแล็บ ซึ่งมีคนขับรถคอยท่าอยู่แถวด่าน ตม. แล้ว  รถสกายแล็บจุคนได้ 8-10 คนสบายๆ อยากไปไหนก็ตกลงกับคนขับได้ แต่หากศึกษาเส้นทางที่เที่ยวมาก่อนก็ดี เพราะจะได้วางแผนถูกว่าที่ไหนควรไป หรือที่ไหนไกลเกิน อย่างถ้ำนางแอ่นที่ชาว "นายรอบรู้" ตกลง (กันแบบปุบปับ) ว่าจะไป ก็ดูจะออกนอกตัวเมืองไปไกลโข ใช้ถนนหมายเลข 12 ผ่านเขาหินปูนเสียหลายลูกกว่าจะถึง ยิ่งระยะทางไกลก็ยิ่งรู้สึกว่ารถเราเป็นสกายแล็บคันเดียวในหมู่มวลรถบรรทุกที่วิ่งสวนมาหลายคัน ทำให้หวั่นใจนิดๆ

ถ้าไปตรงวันพระ ระหว่างทางจะเห็น "ขันหมากเบ่ง" ที่มีลักษณะเหมือนกระทงใบตองประดับดอกไม้วางขายอยู่ ชาวลาวเขานำไปถวายพระเหมือนที่คนไทยถวายพวงมาลัย ส่วนใหญ่แล้วค่ารถสกายแล็บมักไม่รวมค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อีกทั้งบางสถานที่ยังเก็บค่าเข้าแบบซ้ำซ้อน เช่นที่ถ้ำนางแอ่น แม้จะเสียค่าผ่านทางไปแล้ว แต่พอจะเข้าถ้ำก็ยังต้องจ่ายค่าเข้าชมอีกต่างหาก ดังนั้นถ้าไม่แน่ใจเรื่องค่าเข้าชมสถานที่ ให้สอบถามคนขับรถให้ชัดเจนเสียก่อน จะได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ และไม่ต้องรู้สึกว่าถูกโกงภายหลัง

เขาว่าอยากรู้จักคนให้ไปเดินตลาด


แดดร่มลมตก ตลาดหลัก 2 หรือตลาดเย็นของเมืองท่าแขกกำลังคึกคัก ที่นี่ไม่ใช่เพียงสถานที่ขายของสดขนาดใหญ่ที่มีแต่คนซื้อคนขาย ทว่ามีสิ่งอื่นให้เห็นด้วย เช่น การแต่งกายของหญิงลาวที่นิยมนุ่งซิ่น ความสัมพันธ์ของชาวลาวกับกลุ่มชนอื่นที่เห็นได้จากอาหาร เช่น เฝอ อาหารของคนเวียดนาม บาแก็ตต์ ขนมปังฝรั่งเศสจากยุคอาณานิคม และที่อวลอยู่ทั่วไปก็คือบรรยากาศความมีชีวิตชีวาและอัธยาศัยไมตรีที่ต่างคนมีให้กัน ใครที่อยากหาอะไรเติมพลังยามเย็น ในตลาดนี้มีของกินหลายอย่างให้เลือก ตั้งแต่ข้าวจี่ เฝอ ของหวาน และยังมีของแปลกอย่างตัว "ขยุก" ที่วางขายในตลาด ดูคล้ายกระรอกหน้าตาน่ารักแต่ชาวลาวนำไปประกอบอาหาร แม่ค้าบอกว่ามันมีรสชาติติดขมนิดๆ เอาไปต้มกินหรือไปทำลาบก้อยก็ได้ชอปปิงที่ตลาดหลัก 2 ควรแลกเงินกีบไว้ล่วงหน้า เพราะไม่ใช่ทุกร้านจะรับเงินบาท หรือบางทีก็อาจไม่มีเงินทอน

ไหว้พระธาตุสีโคตบูน


จากตลาดหลัก 2 เราเดินทางต่อไปยังพระธาตุสีโคตบูน ระหว่างทางผ่านโรงเรียนหลายแห่ง เป็นเวลาเลิกเรียน เห็นเด็กๆ เดินกันขวักไขว่ดูมีชีวิตชีวาในยามแดดร่มลมโชย จนเลยเขตเมืองออกไปราว 6 กม. จึงถึงที่ตั้งของพระธาตุสีโคตบูน ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง บรรยากาศสงบสมกับเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่พระธาตุนี้ไม่ต้องเสียค่าเข้าชม แต่สำหรับแม่หญิงไทยที่สวมกางเกงมา ต้องเช่าผ้าถุงมานุ่งให้เรียบร้อยจึงจะเข้าไปสักการะพระธาตุได้ตามตำนานเล่าว่า พระเจ้าสุมิตธรรมวงศาแห่งอาณาจักรสีโคตบอง โปรดให้สร้างพระธาตุนี้ขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 12 เดิมเป็นเพียงอูบมุงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สร้างครอบบริเวณที่พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาประทับรับบิณฑบาตโปรดพระยาสีโคตบองที่เมืองสีโคตร ล่วงถึงรัชกาลพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช พระองค์โปรดให้ก่อพระธาตุใหม่โดยการก่ออิฐถือปูนครอบอูบมุงเดิม พระธาตุสีโคตบูนจึงกลายเป็นพระธาตุสูงใหญ่ดังปัจจุบัน องค์พระธาตุมียอดธาตุเป็นทรงบัวเหลี่ยมตามแบบสถาปัตยกรรมล้านช้าง ทว่ามีลักษณะพิเศษคือมีเรือนธาตุสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองรองรับดอกบัวอยู่ด้วย

* หมายเหตุ : พระธาตุสีโคตบูน เขียนตามป้ายชื่อที่ปรากฎอยู่ที่สถานที่จริง เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ชักภาพย่าน "ตึกฝรั่งช่างญวน"


ตอนเย็นแสงเหลืองนุ่มนวล เป็นเวลาทองของการถ่ายรูปบรรดาตึกเก่ารูปทรงคลาสสิกสีสันสวยงามที่หมายตากันไว้ตั้งแต่อยู่ฝั่งไทย จากพระธาตุสีโคตบูน ตึกเหล่านี้ก็อยู่ระหว่างทางกลับไปด่าน ตม. เมืองท่าแขกนั่นเอง ตึกตั้งอยู่บริเวณน้ำพุกลางเมืองท่าแขก เป็นตึกแถวสมัยฝรั่งเศสปกครองลาวในยุคล่าอาณานิคม สร้างขึ้นช่วงปี พ.ศ. 2453 หรือปลายรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่พักอาศัยและสถานที่ราชการ อาคารเป็นแบบตะวันตก แต่สร้างโดยช่างญวนและลาว จึงมีชื่อเรียกอย่างพื้นบ้านว่า "ตึกฝรั่งช่างญวน" ก่อนพระอาทิตย์ตก ท้องฟ้าเป็นสีชมพูแล้วเปลี่ยนเป็นม่วงเข้มขึ้น ฝั่งไทยอีสานบ้านเฮามีแค่แม่น้ำโขงที่เรือข้ามฟากกำลังตีโค้งมารับผู้โดยสาร กรีดผืนน้ำเป็นวงคลื่นสวยงามจนต้องรัวชัตเตอร์
ถ่ายรูปไม่หยุด กระทั่งเริ่มรู้สึกตัวว่านั่นอาจเป็นเรือเที่ยวสุดท้ายของวันนี้แล้ว จึงพากันเดินกึ่งวิ่งไปผ่านด่าน ตม. ในขณะที่คนอื่นเขาทยอยลงเรือกันแล้ว

ความที่เลยเวลา 16.00 น. ไปแล้ว ทำให้ต้องถูกเรียกเก็บค่าล่วงเวลาอีกคนละ 40 บาท จึงจะกลับประเทศไทยได้ กลับถึงฝั่งไทย มองกลับไปเมืองท่าแขกที่ใครๆ บอกว่า "ไม่มีอะไร" คิดๆ ดู อย่างน้อยที่นั่นก็มีสิ่งที่เราไม่รู้จัก มีชีวิตชีวาอย่างที่แตกต่างจากที่อื่น เป็นไปได้ว่า การจะ "เห็น" อะไร บางทีก็ขึ้นอยู่กับว่า "มอง" อย่างไร

เรื่องน่ารู้...สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน)
สะพานมิตรภาพไทย-ลาว นอกจากแห่งที่ 1 (หนองคาย-เวียงจันทน์) และแห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) แล้ว ที่บ้านห้อม ต. อาจสามารถ อ. เมือง จ. นครพนม ก็กำลังมีการก่อสร้างสะพานแห่งที่ 3 กันอยู่ โดยเริ่มสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 เชื่อมต่อเมืองนครพนมกับเมืองท่าแขก ในแขวงคำม่วน กำหนดแล้วเสร็จวันที่ 11 พ.ย. 2554

เรื่อง : วีรวรรณ ภิญญรัตน์ ภาพ : วิจิตต์ แซ่เฮ้ง

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ ลาว ไปกี่ครั้งก็ม่วนหลาย!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook