นอร์เวย์ เสน่ห์ไวกิ้งที่หนาวเหน็บจับใจ

นอร์เวย์ เสน่ห์ไวกิ้งที่หนาวเหน็บจับใจ

นอร์เวย์ เสน่ห์ไวกิ้งที่หนาวเหน็บจับใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประเทศนอร์เวย์ หรือราชอาณาจักรนอร์เวย์ ตั้งอยู่ที่ทวีปยุโรปทางตอนเหนือ เป็นประเทศที่อยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือ จึงทำให้มีภูมิอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี ซึ่งคนไทยที่ได้ไปเยือนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ประเทศนี้มีแค่สองฤดูเท่านั้น คือ หนาวมาก กับหนาวมากที่สุด ซึ่งจริงๆ แล้วประเทศนอร์เวย์มีอยู่ 4 ฤดูกาล แต่ฤดูหนาวจะยาวนานถึง 6 เดือน อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ ลบ 40 องศาเซลเซียส หากอยากไปเยือนดินแดนแห่งนี้ควรไปช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงซัมเมอร์ของที่นั่น อุณหภูมิจะอยู่ที่ 20-25 องศาเซลเซียส ก็พอเย็นสบาย อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของประเทศนอร์เวย์ทั้งปีอยู่ที่ 8 องศาเซลเซียส ฉะนั้นหากใครที่ชอบท้าทายความหนาวเย็นจับจิตก็ควรไปเยือนนอร์เวย์สักครั้ง


ประเทศนอร์เวย์จะมีกลางวันที่สั้นกว่าเวลากลางคืน ซึ่งเป็นที่ขนานนามว่าเป็นดินแดนแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืน หากอยากสัมผัสบรยากาศและไปให้เห็นกับตาต้องขึ้นไปทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งความจริงแล้วพระอาทิตย์ไม่ได้อยู่ค้างเติ่งแบบนั้นตลอด แต่มันจะลดระดับลง แล้วก็ขึ้นมาใหม่ โดยที่ไม่ลับขอบฟ้า ซึ่งมันก็เป็นภาพที่น่าประทับใจไม่น้อย นอร์เวย์มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายพร้อมรอนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชม เพื่อเก็บความรู้สึกที่ประทับใจมิรู้ลืมเริ่มจากเมืองหลวงคือ ออสโล หรือ อูสลุ (Oslo) ตามสำเนียงชาวนอร์เวย์ ออสโลเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ การปกครอง อุตสาหกรรมการเดินเรือ และการค้าทางทะลในยุโรปเหนือ เป็นผู้ผลิตอาหารทะเลรายใหญ่ติดอันดับท็อปเท็นของโลก แต่ที่คนไทยรู้จักเป็นส่วนใหญ่ก็คือ ปลาแซลมอน ประเทศนอร์เวย์มีสถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างเช่น บ้านเรือนไม้ที่มักจะทาสีสันสวยสดใส ซึ่งจะสลับกันไปมาดุจดั่งภาพถ่ายที่เราคุ้นตา 

แบร์เกน เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของนอร์เวย์ ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ มี Fish Market ที่ค้าขายปลากันแบบสดๆ ตัวเป็นๆ บนท่าเทียบเรือ เมืองนี้เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญของภูมิภาค จึงเรียกกันแบบไม่เป็นทางการว่า เป็นเมืองหลวงของนอร์เวย์ทางตะวันตก สิ่งที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดที่จะไปเยือนในเมืองนี้คือ บรีเก็น (Bryggen) ซึ่งเป็นท่าจอดเรือเก่าแก่ เป็นสิ่งเตือนความจำในครั้งอดีตที่เคยมีความสำคัญในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรการค้าของฮันเซียติก ลีก (Hanseatic League) กลุ่มเมืองที่เป็นพันธมิตรทางการค้าในยุโรปเหนือ ความสวยงามคือบ้านไม้ที่เรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ และลักษณะคล้ายกันทั้งเมือง มีอายุกว่า 900 ปี ซึ่งชาวชุมชนยังมีการอนุรักษ์ไว้ให้คงรูปแบบเดิม ไกรังเชอฟยอร์ดและนาเรยฟยอร์ด (Geirangerfjord and Nærøyfjord) คือความงามทางธรรมชาติที่โดดเด่นและน่าประทับใจที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งเกิดจากผนังหินที่มีความแคบ ชัน มีผิวผลึกที่สูงขึ้นมาจากทะเล และมีน้ำตกหลายสายที่ไหลทอดยาวมาตามผนังของฟยอร์ด

ในขณะที่แม่น้ำก็ต่างไหลผ่านป่าไม้ผลัดใบและป่าสนไปยังทะเลสาบน้ำแข็ง หรือธารน้ำแข็ง ฟยอร์ดทั้งสองจัดเป็นฟยอร์ดที่ยาวและลึกที่สุดในโลก (ฟยอร์ดคือ อ่าวเล็กๆ ที่มีความแคบและยาว ลักษณะเป็นชายฝั่งเว้าแหว่ง เนื่องจากถูกธารน้ำแข็งกัดเซาะเข้าไปในหุบเขาที่สูงชันในระดับที่ลึก เมื่อน้ำแข็งละลายจึงมีน้ำทะเลเข้ามาแทนที่) Urnes Stave Church โบสถ์ไม้แห่งอูร์เนส หรือ สตาฟเชิร์กยา (Stavkirke) ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางธรรมชาติแห่งขุนเขาที่งดงามของ ซอง ออก ฟิวดานา (Sogn og Fjordane) สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 12 และ 13 มีความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมไม้แบบสแกนดิเนเวีย โบสถ์แห่งนี้มีการผสมผสานศิลปะเคลติก (Celtic) ซึ่งเป็นประเพณีนิยมของชาวไวกิ้ง กับโครงสร้างแบบโรมาเนสก์เข้าด้วยกันอย่างสวยงามและกลมกลืน

 

นอร์เวย์ ดินแดนแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่งดงามและฟยอร์ดที่เลื่องชื่อ บวกกับเสน่ห์ความหนาวที่ท้าทาย อีกทั้งประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของชาวไวกิ้ง คุณสมบัติเพรียบพร้อมที่กำลังรอผู้มาเยือน

Article by Omyim

(Click ที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ นอร์เวย์ เสน่ห์ไวกิ้งที่หนาวเหน็บจับใจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook