อิ่มบุญที่ “วัดห้วยมงคล” แล้วไปเยี่ยมชม “ตลาดน้ำหัวหิน”
ผ่านไปผ่านมาหลายครั้ง ยังไม่มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมชมและสักการะ "หลวงพ่อทวด วัดห้วยมงคล" สักที วันนี้มีโอกาสดี เราจะพาชาว e-magazine.info ไปเยี่ยมชมพร้อมๆกันครับ
การเดินทาง มาได้หลายเส้นทางนะครับ ถ้าเอารถไปเอง แนะนำเส้นทาง กรุงเทพ - ปราณบุรี โดยมาถึงถนนเส้น bypass (ซ้ายไปผ่านชะอำ หัวหิน ตรงไปเป็น bypass) ให้วิ่งเส้น bypass ไปประมาณ 29 กิโลเมตร จะเจอสี่แยกที่บอกว่าทางซ้ายไปหัวหิน ทางขวาไปน้ำตกป่าละอู ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับ วัดห้วยมงคล ก็ให้เลี้ยวขวาเข้าเส้นนี้มาประมาณ 7 กิโลเมตร เจอแยก เลี้ยวซ้าย วิ่งเข้าไปอีกหน่อย ก็จะถึงวัดห้วยมงคลครับ เมื่อเราขับรถ เส้นทาง จะสังเกตเห็นทั้งสองข้างทาง เต็มไปด้วยไร่อ้อย สุดลูกหูลูกตา ถนนเล็ก ๆ สองเลน แต่ก็มีรถวิ่งผ่านไปมา ไม่ขาดสาย แสดงให้เห็นว่ามีนักท่องเที่ยว แวะเข้ามาเยี่ยมชมที่วัดเป็นจำนวนมาก โดยสังเกตจากรถบัสขนาดใหญ่ ที่จอดเรียงรายกันอยู่หน้าวัด สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล สามารถเข้าไปจอดในวัดเลย มีที่จอดรองรับเป็นอย่างดี จากสายตาที่เห็นในวันนี้ ผู้คนจำนวนมาก พร้อมใจกันมาสักการะ หลวงพ่อทวด กันอย่างคับคั่ง ยิ่งเป็นวันหยุดด้วยแล้ว ยิ่งเยอะเป็นพิเศษ
"วัดห้วยมงคล" เป็นวัดที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก แต่เดิมใช้ชื่อว่า "วัดห้วยคต" ตั้งอยู่ในชุมชนบ้านห้วยคต ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานนามใหม่จากห้วยคตเป็นห้วย"มงคล"ซึ่งปัจจุบัน ใช้เป็นทั้งชื่อหมู่บ้าน วัด โรงเรียน และอื่นๆ อีกมากมาย กว่าสี่สิบปีแล้วที่หมู่บ้านห้วยมงคล เป็นที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จมาเยี่ยมประชาชนด้วยโครงการต่างๆที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับผสกนิกรได้มีฐานะดีขึ้น ประชาชนมีสุขกันทั่วหน้า ซึ่งโครงการต่างๆ ก็ดำเนินไปได้ด้วยดี เพราะมีส่วนราชการให้การดูแล รวมทั้งทรงอุปถัมภ์วัดห้วยมงคลไว้ให้เป็นที่พึ่งทางใจสำหรับชาวบ้าน ต่อมาพระครูปภัสรวรพินิจ หรือพระอาจารย์ไพโรจน์ ปภัสสโร เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคลองค์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นพระนักพัฒนา ที่มีศีลจารวัตที่ดีงามเป็นที่เคารพบูชาของคนในชุมชนบ้านห้วยมงคล และพลเอกวิเศษ คงอุทัยกุล รองสมุหราชองครักษ์ ได้มีโครงการที่จะสร้าง "หลวงพ่อทวด" องค์ใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพนะชนมพรรษาครบ ๖ รอบ
ด้วยความที่พุทธศาสนิกชนในภาคใต้ ให้ความเคารพเลื่อมใสมาเป็นเวลานาน และรู้จักกันเป็นอย่างดี จึงก่อเกิดการร่วมมือร่วมใจจากหลายองค์กรทั้งทางภาครัฐและเอกชนในการสร้างประติมากรรมองค์จำลองหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก โดย สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร เททองหล่อองค์หลวงพ่อทวด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2547 และพระราชทานพระราชานุญาตให้คณะกรรมการจัดสร้างอันเชิญพระนามาภิไธยย่อ ส.ก. ขึ้นประดิษฐานที่หน้าองค์รูปหล่อองค์หลวงพ่อทวด ภายในวัด มีส่วนบริการอยู่หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นโรงทานขนาดใหญ่ สามารถเข้าไปรับประทานอาหารได้ฟรี โดยรับบริจาคปัจจัยตามศรัทธา ส่วนของ พุทธบูชาต่างๆ สำหรับคนที่ต้องการนำไปสักการะที่บ้าน หรือเป็นของฝาก ก็มีให้บริการอยู่หลายซุ้มเหมือนกัน แต่จุดเด่นที่เป็นสง่า ท่ามกลางความวุ่นวายของผู้คน คือ องค์หลวงพ่อทวด ขนาดใหญ่ ที่หล่อด้วยโลหะผสม หน้าตักกว้าง 9.9 เมตร สูง 11.5 เมตร บนฐานสูง 3 ชั้น ชั้นล่างกว้าง 70 เมตร ยาว 70 เมตร ตั้งตระหง่าน ตัดกับขอบฟ้า สงบนิ่งอยู่ใจกลางของวัด มองขึ้นไปแล้วจะรู้สึกได้ถึงบารมีของท่าน ที่แผ่ลงมาสู่ประชาชน ที่เลื่อมใสในศรัทธา ในความดี และคำสอนของท่าน ที่ทิ้งเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้นำปฎิบัติต่อไป
ด้านล่างจะมี " ช้างเอราวัณสามเศียร " ตั้งอยู่สองฝั่ง ซ้าย ขวา มีคนนำพวงมาลัยไป สักการะจนเต็ม หลายคนพยายามโยนเหรียญ ให้เข้าปากของช้างเอราวัณ หลายคนเดินลอดท้องช้างเอราวัณกันอยู่ หลายรอบ ด้วยความเชื่อ ความศรัทธา ที่ตัวช้างเอราวัณ ได้ถูกสร้างจากไม้ 9 ชนิด ไม้สัก ไม้รัก ไม้พยุง ไม้ขนุน ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เต็งรัก ไม้ตะเคียน แล้วก็ไม้จันทร์ชะมด ซึ่งจะช่วยปกป้องคุ้มครองตามลักษณะไม้แต่ละชนิด นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ คงจะงงกับสิ่งที่เห็น แต่สำหรับชาวไทยแล้ว คงเป็นสิ่งที่ชาวไทย คุ้นเคยกันมาเป็นอย่างดี ไม่่ว่าจะเป็นความเชื่อจากสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ถ้าเราตั้งจิตที่ดี และพึ่งปฎิบัติแต่สิ่งดีๆ แล้ว คิดว่าผลที่ดี คงเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน
ออกจากวัดห้วยมงคลแล้ว เราออกเดินทางต่อไปยัง "ตลาดน้ำหัวหิน" สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ อ.หัวหิน โดยการเดินทางจากวัดห้วยมงคลไปก็ไม่ไกล โดยตรงย้อนกลับมาที่เส้น บายพาส แล้วก็ข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม ตรงไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตร ก็จะเห็นตลาดอยู่ทางขวามือ มีที่จอดรถขนาดใหญ่ พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวบรรยากาศของ ตลาดน้ำหัวหิน เนื่องจากเป็นสถานที่เปิดใหม่อยู่ ดังนั้น ตัวอาคารจึงดูสะอาด สวยงาม โดยการวางฝังของตลาด จะมีบึงขนาดใหญ่ อยู่ตรงกลางของตลาดน้ำ แล้วก็มีตัวร้านค้า ตั้งล้อมรอบ ตัวบึง และเชื่อมต่อแต่ละโซน ถึงกันหมดด้วยสะพานไม้ แต่ละโซน จะตั้งชื่อตามชื่อตามอำเภอต่างๆ ของจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ดูน่าสนใจไปอีกแบบนึง เป็นการโปรโมท อำเภอต่างๆ ของจังหวัดไปด้วย
สภาพร้านค้าโดยทั่วไป ก็จะมีของที่นำมาขาย หลากหลายประเภท ตั้งแต่ ของกิน ยันของตกแต่งบ้าน ของที่ระลึก ขนมนมเนยต่างๆ ก็มีให้เลือกกันอย่างมากมาย คนที่เข้ามาเดินส่วนมาก ก้จะเป้นนักท่องเที่ยว ซะส่วนใหญ่ รวมถึงร้านค้าที่มาเปิด ก็เป็นกรุงเทพซะเยอะเหมือนกัน บางคนก็เดินถ่ายรูป มีมุมสวยๆ ให้หยุดถ่ายกันอยู่เรื่อยๆ บางคนก็นำ น้องหมา น้องแมวมาเดินเล่น รับลม และ แสงแดด กันอย่างสนุกสนาน เดินไปเดินมาเหนื่อย ก็หยุดพักกินอาหาร ขนมาขายอยู่บนเรือพายริมน้ำ (ถ้าไม่มี เดี้ยวจะดูว่าไม่ใช่ ตลาดน้ำครับ อิอิ ) ไม่ว่าก๋วยเตี๋ยว บะหมี่เกี้ยว หรือ ผัดไข่ปลาหมึก และอื่นๆ อีกมากมาย ที่จอดเรียงรายกันอยู่ริมน้ำ จากการที่ได้สัมผัสแล้ว การนำรูปแบบของวัฒนธรรมสมัยก่อน เช่น ตลาดน้ำของไทย มาประยุกต์เข้ากับรูปแบบของร้านค้าสมัยใหม่ สินค้าสมัยใหม่นั้น ก็ดูเป็นเทรนใหม่ของแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังเกิดขึ้นมากมาย ในประเทศ มองในแง่ดีแล้ว ก็เป็นการผสมผสานวัฒนธรรม ที่ดี ซึ่งดีกว่าการที่เรารับวัฒนธรรมใหม่ๆ เข้ามาโดยไม่รู้ตัวหรือหลงลืม วัฒนธรรมเก่าๆของตัวเองไปเสียหมด
แต่สิ่งที่น่าห่วงของที่ท่องเที่ยวใหม่แบบนี้ คือเรื่องของการจัดการ และ นิสัยมักง่ายของคนไปเที่ยว เช่น เรื่องของ ถังขยะ ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะเพียงพอกับจำนวนนักท่องเที่ยว รวมไปถึงนิสัยคนไทย คือ ง่ายๆ กินเสร็จแล้ววางตรงไหนก็ได้ กลับจะเป็นตัวทำลายความสวยงาม และ ความน่าประทับใจ ของสถานที่เหล่านี้เสียเอง ฝากเพื่อนๆ ที่เข้าไปเที่ยวกัน ช่วยกันดูแล เพื่อให้สถานที่เหล่านี้ ยังคงน่าท่องเที่ยว และเป็นที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติได้อย่างภาคภูมิใจ สมกับจุดประสงค์ ที่ตั้งขึ้นมาครับ :)
สุดท้ายนี้ เพื่อนๆ ชาว e-magazine.info ที่จะไปเที่ยว ขอให้เที่ยวให้สนุก เก็บภาพสวยๆ กลับมาเป็นของฝาก เป็นความทรงจำดีๆ ครับ แล้วอย่าลืม ช่วยกัน ซื้อของไทย เที่ยวเมืองไทย รักเมืองไทยนะครับ
เกร็ดความรู้
เส้นทางการเดินทางไปวัดห้วยมงคล
1.รถยนต์ส่วนตัว : ใช้เส้นทางจาก กรุงทพ - หัวหิน เมือถึงหัวหินแลว ใช้เส้นทางหนองพลับ-ป่าละอู(ทางหลวงหมายเลข 3218) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ถึงตำบล ทับใต้เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกหนองตะเภา แล้วเข้าไปตามทางจนถึงวัดห้วยมงคล
2. รถสาธารณะ : วัดห้วยมงคลไม่มีรถสาธารณะเข้าถึง ต้องเหมารถสองแถวจากหัวหินไป หรืออาจจะเช่ารถมอเตอร์ไซต์จากรีสอร์ท ที่พักแล้วขับไปที่นั่นจะคุ้มกว่า เพราะว่าระยะทางค่อนข้างไกลจากหัวหินพอสมควรครับ
3. เวลาการเข้าเยี่ยมชม : เปิดระหว่างเวลา 05.00-22.00 น.
(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ