“Pai” Again จากเวียงใต้ สู่ดอยกิ่วลม
เมื่อปีที่แล้ว "กอดปายกับฝน" ต้นปีนี้ขอกลับไป "กอดปายหน้าหนาว" กันอีกครั้ง เพราะมีคนบอกว่า ป่านนี้ทุ่งดอกบัวตองที่ดอยแม่อูคอโรยราหมดแล้ว แต่มีทุ่งดอกปอเทืองสีเหลืองอร่ามให้ดูแทน แม้จะไม่เยอะเท่าดอยแม่อูคอ แต่ก็ยิ้มแก้มปริได้เหมือนกัน สนใจหรือเปล่า หากสนใจก็เก็บกระเป๋า แล้วออกเดินทางกันเลย
ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
ลงจากรถตู้สายเชียงใหม่-ปาย ด้วยอาการมึนเหมือนไมเกรนขึ้น มาถึงขนส่งปายก็บ่ายโมง มีสารถีรุ่นพี่แสนดี มารับถึงที่ขนส่ง พวกเขาบอกกับฉันว่า มาปายครั้งนี้จะแตกต่างออกไป ใครบอกว่า ปายช้ำแล้ว สำหรับคนที่อยู่ที่ปาย ยอมรับว่า นักท่องเที่ยวเยอะ การเปลี่ยนแปลงหลายอย่างจึงรวดเร็ว แต่ก็มีอีกย่านหนึ่งที่ยังคงหลงเหลือ บรรยากาศของห้วงวันเวลาเก่าๆ อยู่บ้าง นั่นก็คือ "ย่านเวียงใต้" ซึ่งเป็นเขตรอบนอกของ อ.ปาย ที่ที่ทำให้ฉันยิ้มจนแก้มปริ กับบรรยากาศสงบๆ พร้อมทุ่งโล่งกว้าง และภูเขาสูงที่สลับกันหลายลูก เพียงแค่เปิดประตูหน้าบ้านออกมาก็เห็นทุกอย่างเต็มตา และเพิ่งรู้ว่า ย่านนี้ก็มีร้านขายของแฮนด์เมดน่ารัก อย่าง ฮ.นกฮูก ปาย ซ่อนตัวอยู่ ร้านกาแฟโพธิ์ร่มรื่น และมีเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กๆ อยู่ในเนอสเซอรี่เด็กที่ติดกับร้าน ฮ.นกฮูก ปาย ได้อย่างอดยิ้มไม่ได้
อากาศคืนนี้เย็นราวๆ 16 องศาฯ เราก่อกองไฟ กินเมี่ยงปลาทูที่ทำขึ้นมาเองอย่างเพลิดเพลิน และปฏิเสธการเข้าไปเดินในเมือง แต่ขอนอนดูพระจันทร์ ชมดาวอยู่หน้าบ้านแห่งนี้ และหยิบสัปปะรดสดแช่เกลือเย็นๆ เข้าปาก สำหรับฉันแบบนี้ดีที่สุด โปรแกรมแบบนี้ต้องลองทำกันดู แล้วจะรู้ว่า ความสุขที่ขึ้นมาตั้งไกลมันเป็นแบบไหน เช้าวันรุ่งขึ้น อากาศลดลงไปอยู่ที่ 14 องศาฯ เปิดประตูบานเฟี้ยมไม้ออกมาก็พบกับหมอกหนาอยู่รอบตัว ปลุกคนข้างกายขึ้นมา เพื่อขึ้นไปชมทะเลหมอกบน "วัดพระธาตุแม่เย็น" พร้อมไหว้พระขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล แล้วกลับลงมากินโจ๊กหมู โจ๊กผัก ใกล้ๆ ขนส่งปายสักถ้วย เตรียมท้องแล้วเดินทางต่อ เพิ่มดีกรีความอึดให้กับร่างกายด้วยเอสเพรสโซ่เย็นไม่หวานเหมือนเดิมที่ "ร้านเข้าท่า" ร้านกาแฟแนวเรโทร ที่แอบเล็งไว้ตั้งแต่มาถึงเมืองปายคราวที่แล้ว
ไร่สตรอเบอรี่ แม่น้ำปาย ทุ่งดอกปอเทือง และดอยกิ่วลม
มาปายใครว่า ไม่มีไร่สตรอเบอรี่ ต้องแวะไปที่บ้านกุงแกง ทุ่งโป่ง จะเจอ "ไร่สตรอเบอรี่สีเขียว 2010" เป็นไร่สตรอเบอรี่ขนาดเล็ก ตรงข้าม "แม่น้ำปาย" ที่ยามนี้ตื้นเขินผิดจากหน้าฝนอย่างสิ้นเชิง ที่ไร่มีร้านขายน้ำสตรอเบอรี่เป็นขวด วอดก้า กลิ่นสตรอเบอรี่ สตรอเบอรี่สดลูกเล็ก และลูกใหญ่ สตรอเบอรี่กวน และสตรอเบอรี่พริกเกลือในแก้ว คนที่นี่ใจดี ให้ชิมสตรอเบอรี่แทบจะเท่ากับซื้อกลับบ้าน จากร้านค้ามองไปฝั่งตรงข้าม เห็นสะพานไม้ไผ่สานยาวลงไปจนเกือบถึงแม่น้ำปาย ด้านข้างเป็นนาข้าวที่เก็บเกี่ยวแล้ว อีกฝั่งของแม่น้ำ เห็นชาวไร่กำลังง่วนอยู่กับแปลงต้นหอม เบื้องหลังคือภูเขาลูกใหญ่สีเขียว สวยมาก แต่ไฮไลท์ที่รุ่นพี่จะพาไปอยู่ที่ระหว่างทางไปโป่งน้ำร้อนท่าปาย นั่นก็คือ "ทุ่งดอกปอเทือง" สีเหลืองอร่าม งามชูช่ออวดโฉมอยู่ท่ามกลางทุ่ง (นาที่เก็บเกี่ยวแล้ว) เจ้าของทุ่งนี้เล่าให้ฟังว่า ที่ปลูกดอกปอเทือง เพราะว่าเป็นการปรับหน้าดินก่อนที่จะทำนาอีกครั้งในช่วงประมาณเดือนเมษายนนั่นเอง ไหนๆ ก็ไม่ทันดูทุ่งดอกบัวตอง มาชมทุ่งดอกปอเทืองแทนก็ชื่นใจไม่แพ้กัน
ดอกปอเทืองสีเหลือง ตัดกับ แปลงต้นกุยช่ายสีเขียว ที่อยู่ข้างๆ สดชื่นมาก ช่วงเช้าๆ หมอกลงจับเป็นน้ำค้างบนดอกปอเทือง หากมาช่วงเที่ยงๆ แดดแรง ดอกปอเทืองจะชูช่อรับตะวัน และแล้วเราก็เดินทางกันต่อ มุ่งหน้า "ดอยกิ่วลม ปาย-ปางมะผ้า" ผ่านโค้งแล้วโค้งเล่า สองข้างทางยังมีดอกบัวตองให้เห็นเป็นระยะๆ แต่เป็นขนาดย่อมๆ และกำลังเหี่ยวเฉา ไม่นาน ดอยกิ่วลม ปาย-ปางมะผ้า ก็อยู่เบื้องหน้า แบ่งเป็นสองฝั่งซ้าย-ขวา ฝั่งซ้ายเป็นจุดที่มองลงไปจะเจอกับเส้นทางคดเคี้ยวที่หากจะมุ่งหน้าไปถ้ำลอด ถ้ำปลา ปางอุ๋ง หรือตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ก็ต้องผ่านทางที่เราเห็นจากด้านบน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (แอบลุ้น และตื่นเต้นทุกครั้ง ที่ผ่านโค้งชันและโค้งหักศอก)
ที่นี่ลมหนาวพัดแรงมาก สังเกตดีๆ เวลาพูดจะมีควันจางๆ ลอยออกจากปาก อุณหภูมิตอนนั้นอยู่ประมาณ 16 องศาฯ และเมื่อเดินข้ามถนนไปสู่ฝั่งขวาที่มีตลาดขนาดย่อมๆ วิวหุบเขาสวยๆ ก็ทำให้ชื่นใจ พร้อมเสียงของเด็กชาวม้ง แต่งตัวเต็มยศ แล้วเดินมาบอกว่า "ถ่ายรูปไหม 20 บาท" ทุกคน
หากมีเวลาสามารถไปที่อื่นต่อได้อีกอย่าง "จุดชมวิวปางมะผ้า" อีกประมาณไม่เกิน 20 กิโลเมตร เพื่อพักเหนื่อย หรือจะไป "ถ้ำลอด" นั่งแพไม้ไผ่เข้าถ้ำ ให้อาหารปลาพวงตัวโต ชมหินงอกหินย้อย และโลงผีแมน (ผีเปรต)
ตลอดสองข้างทางมีแต่หุบเขา แปลงเกษตร เส้นทางขึ้นและลงเขาที่คดเคี้ยว ทางที่ดีต้องปิดแอร์ในรถ เปิดกระจก รับอากาศหนาวๆ และกินมันเผาร้อนๆ หรือไข่ปิ้งอุ่นๆ สุขอุราพาเพลินไปตลอดทางเสียจริง
Quote
"อย่าลืมแวะไปรับประกาศนียบัตรผู้พิชิต 1,864 โค้ง ที่หอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน ใบละ 20 บาท เพื่อเป็นที่ระลึกการเดินทางด้วยนะ"
เรื่อง / ภาพ : ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ
(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)