เกาะเสม็ด ท่องทะเลวันฟ้าใส จ.ระยอง
เกาะเสม็ด เป็นเกาะในตำบลเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด อยู่ห่างจากชายฝั่งบ้านเพประมาณ 6 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 3,125 ไร่ ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมกว้างใหญ่ทางด้านทิศเหนือ แล้วค่อยๆ ยาวเรียวแหลมไปสุดปลายเกาะทางทิศใต้ เชื่อกันว่าเป็น "เกาะแก้วพิสดาร" ในวรรณคดีเรื่อง "พระอภัยมณี" ของท่านสุนทรภู่ อาจด้วยเพราะมีหาดทรายขาวละเอียดอยู่ทั่วไป และมีต้นเสม็ดขาวและเสม็ดแดงขึ้นอยู่มาก จึงเป็นที่มาของชื่อ "เกาะเสม็ด" บนเกาะนี้ไม่มีแม่น้ำลำคลอง พื้นที่ส่วนใหญ่โดยเฉพาะทางด้านตะวันตกของเกาะเป็นภูเขาและป่าประมาณ 80% ส่วนด้านตะวันออกเป็นพื้นราบมีชายหาดสวยงาม จึงเป็นแหล่งที่พักอาศัยของชาวบ้านและรีสอร์ท ที่พักต่างๆ บนเกาะ
สำหรับพฤษภาคมอันเป็นเดือนปลายร้อนก่อนฝนมาเยือน เราเชื่อว่าน่าจะมีหลายๆ คนที่ยังฝันค้างจากการพลาดโอกาสไปท่องเที่ยวยังถิ่นทะเลไกลในที่ต่างๆ เราจึงขอแนะนำทริปคลายร้อนกับท้องทะเลงาม ใกล้ๆ กรุงเทพฯ อย่าง "เกาะเสม็ด" ให้ได้รู้จักกับเสน่ห์มัดใจของเกาะแห่งนี้อันมีมากมายหลากหลายรูปแบบให้เลือกท่องเที่ยวได้ตามรสนิยมของแต่ละคน เพราะไม่ว่าจะเป็นชายหาดขาวสะอาด น้ำทะเลเย็นใสน่าสัมผัส ในย่านเงียบสงบ สำหรับผู้รักธรรมชาติ ต้องการพักผ่อน ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง หรือจะเป็นชายหาดงามน้ำใสในย่านที่มีกิจกรรมให้สนุกทั้งกลางวันและกลางคืน บนเกาะเสม็ดแห่งนี้ก็มีให้ทั้งนั้น นั่นแหละ จึงไม่ผิดนักจากที่เค้าเล่าลือกันว่า "มาเสม็ด..เสร็จ(ความสุข)ทุกราย"
การเดินทางมาเกาะเสม็ดหากนับจากท่าเรือบ้านเพที่มีให้เลือกมากมายหลายท่า เช่นท่าเรือนวลทิพย์ ท่าเรือศรีบ้านเพ ท่าเรือสะพานปลาบ้านเพ ท่าเรือเพ ท่าเรือโชคกฤษดา ฯลฯ มีทั้งเรือเมล์ที่ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง มายังท่าเรือหน้าด่านของเกาะเสม็ด ในราคาเพียง 50 บาท/คน หรือมายังอ่าววงเดือน ในราคา 60 บาท/คน หรือจะเลือกแบบเช่าเหมาลำเรือสปีดโบ๊ทตรงไปยังหาดต่างๆ ที่ต้องการก็ได้ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สนนราคาก็เป็นไปตามระยะทาง ตั้งแต่ 1,500-2,500 บาท และนอกจากบริการเรือไป-กลับแล้ว แต่ละท่าเรือยังมีตัวแทนจองที่พักต่างๆ แทบทุกหาดในหมู่เกาะเสม็ด รวมไปถึงทริปทัวร์ต่างๆ ด้วย สำหรับผู้ที่มาขึ้นเรือที่ท่าหน้าด่านแล้วจะเดินทางต่อไปยังอ่าวต่างๆ บนเกาะ ก็มีบริการรถปิ๊กอัพโดยสารและรถแท๊กซี่ ราคาขึ้นอยู่กับระยะทาง สำหรับท่านใดที่รักการผจญภัยสนุกตื่นเต้นกับการขับรถบนทางวิบาก การขับรถบนเกาะเสม็ดนี้ถือว่าใช้ได้เลย รับรองว่าท่านจะไม่ผิดหวัง โดยท่านสามารถเช่ามอเตอร์ไซค์ หรือรถเอทีวีมาขับทัวร์ทั่วเกาะได้ด้วยตัวเอง ในราคา 500 - 1,200 บาทต่อวัน แต่ขอเตือนก่อนว่าต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงถึงสูงที่สุดกันเลยทีเดียว!
ทีนี้ก็มาเริ่มต้นทัวร์ทั่วเกาะกับเราตามเส้นทางรถยนต์สายวิบากอันหลากหลายที่ว่านี้ โดยนับจาก ท่าเรือหน้าด่าน จุดตั้งต้นบนเกาะเสม็ด ขึ้นมาจากเรือก็แวะสักการะ พ่อปู่ดำ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพนับถือของคนบนเกาะเสม็ด เพื่อขอลาภขอพรจากท่านให้เป็นศิริมงคลกันซะก่อน โดยอยู่ใกล้กับ อ่าวกลาง และเป็นที่ตั้งของชุมชนขนาดใหญ่บนเกาะ มีที่ทำการอุทยานฯ มีเซเว่นฯ มีร้านค้าขายข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า จิปาถะ ของที่ระลึก ไปถึงเอเจนซี่ขายทริปทัวร์ทั่วเกาะ ทั้งทางบกและทางทะเล หรือจะจองรถ จองเรือ จองที่พัก ที่นี่ก็มีให้เลือกเพียบ และยังเป็นศูนย์กลางคิวรถปิกอัพโดยสาร รถปิกอัพแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ แนะนำว่าถ้าคุณยังมีแรงหอบของกิน ของใช้ ขนมขบเคี้ยว นม น้ำ ฯลฯ ได้ ให้ซื้อซะจากย่านนี้ เพราะส่วนใหญ่ยังมีราคาไม่ต่างจากบนฝั่ง หากไปซื้อที่ย่านอื่นอาจจะมีการบวกค่าขนส่งเพิ่มอีกราวๆ 50%
จากนั้นเราก็ขับรถขึ้นเหนือซึ่งมีถนนเลียบตามแนวชายหาดไปยัง อ่าวน้อยหน่า อ่าวนี้มีลักษณะใกล้เคียงกับอ่าวกลางเพียงแต่อยู่ห่างจากชุมชน จึงมีความเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน หรือเล่นน้ำ อาบแดด อ่านหนังสือ แบบเป็นส่วนตัว อ่าวน้อยหน่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการพัมนาในอันดับแรกๆ มีรีสอร์ทและบ้านพักขนาดใหญ่ ค่อนข้างหรูเน้นจุดขายที่ความเงียบสงบ ปลายสุดของอ่าวน้อยหน่าเป็นแหลมหิน มี ไม่มีเส้นทางรถยนต์เข้าถึง จากนั้นก็ขับย่านท่าเรือหน้าด่านเพื่อเดินลงไปสำรวจ อ่าวป่าช้า และ อ่าวลูกโยน ทั้งสองอ่าวเป็นอ่าวเล็กๆ เงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน ห่างจากท่าเรือหน้าด่านประมาณ 200 เมตร ชายหาดมีโขดหินน้อยใหญ่ เล่นน้ำได้ ถัดมาเป็น อ่าวสับปะรด เป็นที่ตั้งหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปตั้งแคมป์พักแรมได้ ดูเหมือนเป็นพื้นที่ไม่กี่แห่งบนเกาะเสม็ดที่สามารถเข้าไปกางเต็นท์ได้ เพราะหาดและอ่าวอื่นๆ จะมีบริการบ้านพักและรีสอร์ทของเอกชนจับจองพื้นที่จนเต็มหมดแล้ว เราสามารถเดินเลาะตามแนวชายหาด จากอ่าวสับปะรดมาสู่ อ่าวกล้วย ซึ่งติดกับหาดทรายแก้วได้ โดยมี แหลมใหญ่ กั้นอยู่ ระยะทางเดินไม่ไกลนัก แหลมใหญ่เป็นจุดชมวิวและถ่ายภาพพระอาทิตย์ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะ และยังเป็นจุดที่สามารถชมวิวโค้งอ่าวหาดทรายแก้วได้ทั้งหาดอีกด้วย
หาดทรายแก้ว เป็นหาดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของเกาะเสม็ด มีลักษณะเป็นโค้งอ่าวขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร หาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสสะอาด ที่ท้ายหาดมีรูปปั้นนางเงือกและพระอภัยมณี ที่ชาวบ้านบนเกาะช่วยกันสร้างไว้เพื่อเป็นการรำลึกถึงบทกวีของท่านสุนทรภู่เรื่องพระอภัยมณี ห่างจากท่าเรือหน้าด่านมาราวๆ 800 เมตร เหมาะแก่การเล่นน้ำและกิจกรรมสันทนาการทุกประเภท มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารริมหาด ผับ บาร์ แสงสียามค่ำคืน มีที่พักให้เลือกหลากหลายราคา เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในบรรยากาศคึกคักเฮฮาปาร์ตี้ดริ๊งค์แอนด์แดนซ์กระจายใต้แสงจันทร์
เมื่อเดินเลียบชายหาดต่อลงไปก็จะพบกับ อ่าวไผ่ เป็นอ่าวเล็กๆ มีแนวหินสลับไปกับแนวหาดทรายอย่างกลมกลืน น้ำทะเลใส เป็นหาดที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมหาดหนึ่ง บ้านพักและร้านอาหารที่ตั้งอยู่หน้าอ่าวไผ่ มีการออกแบบอย่างสวยงามลงตัวกับสภาพแวดล้อม ซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งบนหาดแห่งนี้
ถัดไปคือ อ่าวพุทรา เป็นอ่าวเล็กๆ ที่เงียบสงบเช่นกัน เหมาะแก่การนอนอ่านหนังสือ อาบแดด และจิบกาแฟเบาๆ
อีกหนึ่งอ่าวที่ได้รับความนิยม อ่าวทับทิม เป็นอ่าวที่มีพื้นที่ติดกันกับอ่าวพุทรา อ่าวนี้เป็นอ่าวที่เงียบสงบและก็ไม่ไกลมากนักสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินไปชมแสงสียามค่ำคืน ณ หาดทรายแก้วได้ เหมาะมากสำหรับการมาเที่ยวแบบยกแก๊งเพื่อนฝูง จากอ่าวทับทิมลงมาคือ อ่าวนวล เป็นอ่าวเล็กๆ ที่ไม่อยากให้มองข้ามเพราะเหมาะสำหรับคนที่รักความสงบ ประเภทกินลมชมความเงียบ ต้องที่อ่าวนวลเพราะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาที่นี่น้อย แถมยังมีบังกาโลเพียงแห่งเดียวที่เปิดรองรับนักท่องเที่ยว แต่ถ้าเหงาจะข้ามไปเที่ยวอ่าวช่อหรืออ่าววงเดือนก็เดินมาได้ไม่ไกลมากนัก
ขยับลงใต้มาอีกนิดก็ถึงคิว อ่าวช่อ หรือ อ่าวลุงหวัง เป็นอ่าวที่นักท่องเที่ยวรู้จักมาช้านาน มีชื่อเสียงเทียบเท่ากับอ่าววงเดือนและหาดทรายแก้ว โค้งอ่าวลุงหวังมีความยาวประมาณ 300 เมตร หาดทรายขาวละเอียด สภาพความลาดชันของแนวชายหาดเหมาะกับการเล่นน้ำทะเล มีรีสอร์ทที่พักหลายแห่ง ผู้คนไม่พลุกพล่าน เงียบสงบกำลังดี
เมื่อเดินทางมาได้ประมาณกึ่งกลางเกาะเราก็จะได้พบกับ อ่าววงเดือน เป็นอีกหนึ่งอ่าวใหญ่ที่มีท่าเรือรับ-ส่งนักท่องเที่ยว ลักษณะเป็นอ่าวโค้งมนคล้ายวงเดือนจึงเป็นที่มาของชื่ออ่าวแห่งนี้ นอกจากจะเป็นหาดที่มีทรายขาวละเอียดสะอาดตามสไตล์ของเกาะเสม็ดแล้ว ความลาดชันของพื้นทะเลในหาดแห่งนี้มีไม่มากนัก จึงเหมาะแก่การพาครอบครัวที่มีเด็กๆ มาเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย มีร้านค้า ร้านอาหาร สถานีตำรวจ และหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ อยู่ที่บริเวณอ่าวนี้ด้วย อีกหนึ่งอ่าวที่เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการปลีกวิเวก รักความสงบ และต้องการมาพักผ่อนอย่างจริงจัง
อ่าวแสงเทียน เป็นอ่าวไม่ใหญ่นัก แต่มีความงามของน้ำทะเลที่ใสมาก และมีโขดหินใหญ่น้อยแทรกสลับกับพื้นทรายตลอดแนวหาด จึงอาจไม่เหมาะกับการว่ายน้ำมากนัก แต่ถ้ามานอนแช่น้ำรับไอเย็นใต้ร่มไม้ หรือนอนเปลอ่านหนังสือเงียบๆ แล้ว หาดนี้นับว่าใช่เลย ที่นี่มีบ้านพักมากมายให้เลือกพักทั้งที่ตั้งอยู่บนเนินเขาและแบบอยู่ติดชิดริมทะเลในราคาสบายๆ มีร้านค้า ร้านอาหารบริการ นอกจากนั้นยังมีจุดกางเต้นท์ที่ท้ายอ่าวติดกับอ่าวลุงดำอีกด้วย
อ่าวลุงดำ ก็เป็นอีกหนึ่งอ่าวที่รู้จักกันดีในหมู่ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เพราะมีความเงียนสงบและราคาที่พักก็ไม่สูงมากนัก บริเวณต้นหาดมีโขดหินจึงไม่เหมาะกับการเล่นน้ำ ส่วนบริเวณกลางหาดไปจนถึงปลายหาดมีหาดทรายขาวสวยงามและสะพานไม้ทอดยาวไปในทะเล เหมาะกับการตกปลา หรือดูฝูงปลาที่แหวกว่ายอยู่ใต้สะพาน สะพานไม้แห่งนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม ในยามเย็นสามารถเดินตัดไปทางด้านหลังเขาสู่ฝั่งตะวันตก ด้วยระยะทางประมาณ 100 เมตร เราก็สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินได้
ต่อกันที่อ่าวเกือบสุดท้ายปลายเกาะจะเป็น อ่าวหวาย มีลักษณะเป็นโค้งอ่าวขนาดเล็กกว่าอ่าววงเดือนเล็กน้อย มีความร่มรื่นทางธรรมชาติ และมีความเป็นส่วนตัวสูง ลักษณะของน้ำทะเลและหาดทรายมีความใกล้เคียงกัน คือสามารถเล่นน้ำทะเลได้เกือบตลอดแนวชายหาด ผ่านอ่าวหวายมาจะเป็น อ่าวกิ่ว ซึ่งอยู่ห่างจากอ่าวหวายเป็นระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร สามารถเดินไปได้ แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากต้องเดินตัดขึ้นเขาที่บางช่วงเป็นทางชัน หรือเดินเลาะตามชายฝั่งที่เป็นโขดหินขนาดใหญ่ซึ่งบางจุดจะเป็นทางแคบและหน้าผา ที่อ่าวกิ่วนี้นับว่าเป็นความเป็นสุดยอดทางธรรมชาติของทะเลเกาะเสม็ดที่เหลืออยู่ ด้วยหาดทรายขาวเนียน น้ำทะเลใสแจ๋วชนิดกระจกเรียกพี่ บรรยากาศเงียบสงบ มีที่พักเป็นบังกะโลแบบง่ายๆ ไม่หรูหรา และมีน้ำจืดให้ใช้ค่อนข้างน้อย การเดินทางมาอ่าวนี้นับว่าไกลจากชุมชนทางต้นเกาะมาก จึงเป็นอ่าวที่เหมาะกับคนที่รักธรรมชาติโดยแท้และชอบความเงียบสงบอย่างจริงจังเท่านั้น นอกจากนี้อ่าวกิ่วยังมีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นทางด้านอ่าวกิ่วหน้านอก และสามารถเดินข้ามไปชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็นที่อ่าวกิ่วหน้าในได้ด้วย จบปิดท้ายเกาะกันที่ แหลมกุด และ อ่าวปะการัง ซึ่งมีขนาดเล็ก สภาพเป็นหาดหิน ไม่เหมาะในการเล่นน้ำทะเล แต่จุดเด่นของอ่าวแห่งนี้ คือ มีแนวปะการังน้ำตื้นที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ มีบ้านพักขนาดเล็กไว้บริการ พร้อมร้านอาหาร ในระดับดีพอสมควร มีหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ มีบ้านพักรับรองและลานสำหรับตั้งแคมป์ให้บริการนักท่องเที่ยว เป็นทางเลือกที่เหมาะกับคนรักความสันโดด หลีกหนีความวุ่นวาย
ส่วนอีกโปรแกรมเป็น ทัวร์ 4 เกาะ ใกล้ๆ เกาะเสม็ด โปรแกรมนี้อาจแตกต่างกันไปบ้างตามแต่บริษัทจัดทัวร์ผู้ให้บริการจะกำหนดขึ้น การข้ามฝั่งไปเที่ยวเกาะแก่งต่างๆ อาจถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงไปบ้างสำหรับบางท่าน แต่ก็มิใช่อุปสรรคที่ทำให้เราหมดโอกาสไปสูดโอโซนชื่นชมบรรยากาศทะเลเสียทั้งหมด เพราะไม่ไกลจากท่าเรือเพ ยังมี หาดสวนสน เรื่อยไปจนถึง หาดวังแก้ว ที่เราจะได้นั่งชมทะเลใต้ร่มเงาทิวสนตลอดแนวหาดอันยาวเหยียด มีร้านอาหารอร่อยๆ มากมายให้เลือกรับประทานกันหรือหากชอบสีสันความสนุกสนานก็สามารถแวะเล่นน้ำและเรือบานานาโบ๊ทได้ที่ หาดแม่พิมพ์ ที่พรั่งพร้อมทั้งอาหารและของที่ระลึกมากมายให้เลือกรื้อซื้อหากัน ก่อนกลับหากมีเวลาเราขอแนะนำให้ท่านแวะไปนมัสการ อนุเสาวรีย์สุนทรภู่ กวีเอกของไทย เจ้าของตำนาน เกาะแก้วพิสดาร หรือ เกาะเสม็ด แหล่งท่องเที่ยวของท้องทะเลฝั่งอ่าวไทยที่สวยงามและสร้างความประทับใจให้กับเราในทริปนี้เป็นอย่างมาก
ความสนุกและความสุขในการเดินทางท่องเที่ยวไม่ว่าใกล้หรือไกลจะเกิดขึ้นได้ ถ้าคุณได้ไปกับเพื่อนร่วมทางที่รู้ใจและมีความชอบอะไรที่คล้ายๆ กัน!
TIPS การเดินทาง
1. รถยนต์ส่วนตัว โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) จากกรุงเทพฯ หรือ ทางหลวงหมายเลข 7 (สายมอเตอร์เวย์) หรือ ทางหลวงหมายเลข 34 (ถนนบางนา-ตราด) เริ่มจากตรงจุดสิ้นสุดทางด่วนด่านเฉลิมนคร จังหวัดสมุทรปราการ หรือ ทางหลวงหมายเลข 36 (บายพาส 36) ผ่านอำเภอบางปะกง เข้าจังหวัดชลบุรี มาทางอำเภอเมือง จังหวัดระยอง แล้วไปตามถนนสุขุมวิท มีทางแยกขวามือเข้าไปตลาดบ้านเพ จากตลาดจะมีถนนเลียบหาดตัดไปที่ท่าเรือบ้านเพ
2. รถโดยสารประจำทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด มีรถออกจากสถานีขนส่งเอกมัยทุกวัน สอบถามรายละเอียดและตารางเดินรถได้ที่ Call Center โทร.1490 เรียก บขส. หรือ www.transport.co.th
การเดินทางไปเกาะ: มีเรือออกจากท่าเรือบ้านเพ บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ค่าโดยสารระหว่างบ้านเพ-เกาะเสม็ด (ไป-กลับ 100 บาท/ท่าน) ใช้เวลาเดินเรือประมาณ 40 นาที ส่วนเรือ speed boat อยู่ที่คนละ 250 บาท หรือ เหมาลำประมาณ 1,500 - 2,500 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ท่าเรือนวลทิพย์ โทร.038 651508
ท่าเรือศรีบ้านเพ โทร.038 651901-2,
ท่าเรือสะพานปลาบ้านเพ โทร.038 651441
ท่าเรือเพ โทร.038 896155-6
ท่าเรือเสรีบ้านเพ โทร.038 6511134-5
ท่าเรือโชคมานะ โทร.038 653577
ท่าเรือโชคกฤษดา โทร.038 652040
การเดินทางบนเกาะ: มีรถปิกอัพโดยสาร และรถแท๊กซี่ ให้บริการไปตามหาดต่างๆ ค่าโดยสารประมาณ 10-500 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยและสนใจมอเตอร์ไซต์เช่า หรือรถเอทีวีราคาอยู่ที่ 500-800 บาทต่อวัน
(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!