ตาม “ยุวกวีศรีศิลป์” เยือนถิ่นกำเนิดนิราศพระบาท รำลึกถึงสุนทรภู่ครูกวี
เนื่องในโอกาสที่โครงการ "ยุวกวีศรีศิลป์" จัดโดยสำนักเสริมศึกษาและบริการสังคม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินมาถึงรุ่นที่ 21 แล้ว "นายรอบรู้" จึงไม่พลาดที่จะพาทุกท่านไปตามติดกิจกรรมในโครงการนี้ถึง จ.สระบุรีกันเลยทีเดียว
โครงการยุวกวีศรีศิลป์ จัดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2535 และจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีจนถึงปีนี้ เป็นปีที่ 21 แล้ว มีจุดประสงค์เพื่อรำลึกถึงท่านสุนทรภู่ครูกวี ผู้ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นกวีเอกของโลก และเพื่อให้เยาวชนรวมทั้งหน่วยงานต่างๆได้ตระหนักถึงความสำคัญของบทร้อยกรองของไทย สำหรับปี พ.ศ. 2555 นี้ โครงการยุวกวีศรีศิลป์จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 มิถุนายน พ.ศ.2555 ที่จังหวัดสระบุรี เพื่อตามรอยนิราศพระบาท นิราศของสุนทรภู่ที่ได้กล่าวถึงการเดินทางตามเสด็จพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ไปนมัสการพระพุทธบาทที่ จ. สระบุรี
ก่อนนัดพบผู้เข้าร่วมกิจกรรมยุวกวีศรีศิลป์ "นายรอบรู้" ขอแอบพาทุกท่านไปไหว้พระที่ "วัดป่าสว่างบุญ" ต.ชะอม อ.แก่งคอย กันก่อน วัดป่าสว่างบุญสร้างโดยหลวงพ่อสมชาย ปุญญมโน ในเนื้อที่กว่า 400ไร่ สิ่งที่เห็นโดดเด่นเป็นสง่าตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบย่างเข้ามาในวัดก็คือ องค์พระมหารัตนโลหะเจดีย์ศรีศาสนโพธิสัตว์สว่างบุญ หรือ พระมหาเจดีย์ 500 ยอด มหาเจดีย์ที่มีองค์เจดีย์ประธานองค์ใหญ่อยู่ตรงกลางและเจดีย์รายล้อมรอบฐานวงกลมรวมทั้งสิ้นถึง 500 ยอด ตัวเจดีย์เป็นปูนปั้นเคลือบสีทองและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุทั้งหมดทุกองค์ จึงเป็นทั้งสถานที่ที่สวยงามและมีความศักดิ์สิทธิ์ นอกจากพระมหาเจดีย์ 500 ยอด ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปแกะสลักจากหินและไม้จำนวนมาก รวมทั้งศาลาขนาดใหญ่สำหรับปฏิบัติธรรม ใครที่แสวงหาสถานที่ปฏิบัติธรรมที่สงบ ร่มรื่น และสวยงาม ต้องแวะมาวัดนี้ให้ได้สักครั้ง
จากนั้นจึงได้เวลาเดินทางไปที่ "หอวัฒนธรรมไทยวน สระบุรี" บน ถ.สายสระบุรี-ปากบาง หมู่บ้านเรือนไทยโบราณ ที่ใช้เป็นสถานที่แลกเปลี่ยน-เรียนรู้วัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยวน จังหวัดสระบุรี ที่นี่เราจึงได้พบกับกลุ่มเยาวชนในโครงการ "ยุวกวีศรีศิลป์"และผู้ใหญ่ใจดีที่ร่วมสนับสนุนโครงการ นอกจากสัมผัสบรรยากาศร่มรื่นของแมกไม้และบ้านเรือนไทย เรียนรู้วิถีชีวิตวัฒนธรรมของชาวไทยวน คณะยุวกวีศรีศิลป์และ"นายรอบรู้" ยังได้ลิ้มรสอาหารเหนือสไตล์ไทยวนและชมการแสดงหลากหลายชนิดของทางล้านนา ชนิดที่ไม่ต้องไปไกลถึงภาคเหนือก็ได้ชมในแบบฉบับของแท้ดั้งเดิม ชมการแสดงไปพร้อมๆกับนั่งทอดสายตามองแม่น้ำป่าสักไหลเอื่อยเชื่องช้า จังหวะชีวิตที่เร่งรีบก็ดูจะผ่อนคลายลงได้อย่างน่าอัศจรรย์
มาถึงสระบุรี แต่ไม่ได้เดินทางไปนมัสการพระพุทธบาทก็ดูจะกระไรอยู่ "นายรอบรู้" จึงตามติดคณะยุวกวีศรีศิลป์ไปยัง "วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร" วัดพระอารามหลวงชั้นเอก สร้างขึ้นเมือปี พ.ศ. 2167 เพื่อร่วมกันนมัสการรอยพระพุทธบาทให้เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต รอยพระพุทธบาทนี้เป็นรอยพระพุทธบาทที่ประทับไว้บนแผ่นหินเหนือไหล่เขาสุวรรณบรรพต หรือเขาสัจจพันธคีรี มีความกว้าง 21 นิ้ว ยาว 60นิ้ว และลึกถึง 11นิ้ว ค้นพบในสมัยพระเจ้าทรงธรรม และได้มีการสร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาทไว้ตั้งแต่ในครั้งนั้น เยาวชนในโครงการยุวกวีศรีศิลป์ต่างตั้งใจนมัสการรอยพระพุทธบาท ทั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล ทั้งเพื่อตั้งใจตามรอยท่านกวีเอซกสุนทรภู่ ดังที่ท่านได้เคยบรรยายลักษณะของรอยพระพุทธบาทไว้อย่างประณีตงดงามว่า
"พื้นผนังหลังบัวที่ฐานปัทม์ เป็นครุฑอัดยืนเหยียบภุชงค์ขยำ
หยิบขยุ้มกุมวาสุกรีกำ กินนรรำรายเทพประนมกร
ใบระกาหน้าบันบนชั้นมุข สุวรรณสุกเลื่อมแก้วประภัสสร
ดูยอดเยี่ยมเทียมยอดยุคุนธร กระจังซ้อนแซมใบระกาบัง
นาคสะดุ้งรุงรังกระดึงห้อย ใบโพธิ์ร้อยระเรงอยู่เหง่งหงั่ง
เสียงประสานกังสดาลกระดึงดัง วิเวกวังเวงในหัวใจครัน"
เรื่อง/ภาพ : ปฐวี พรหมเสน
(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!