เที่ยว 10 โครงการพระราชดำริ สัมผัส “ความรัก” ที่พระราชินีทรงมีให้เรา
นับเป็นเวลากว่า 60 ปี ที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปทั่วผืนแผ่นดินไทย เพื่อทรงช่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุข ให้พสกนิกรของพระองค์มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การได้สัมผัสกับประชาชนอย่างใกล้ชิด ทำให้สมเด็จพระราชินีทรงรับรู้ถึงปัญหาของประชาชนอย่างลึกซึ้ง รวมถึงทรงเห็นว่าทรัพยากรธรรมชาติ และเอกลักษณ์ไทยกำลังเลือนหายไปทุกที จึงทรงทำโครงการพระราชดำริต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาปากท้อง และช่วยรักษามรดกสำคัญของชาติเอาไว้ ปัจจุบันมีโครงการพระราชดำของพระองค์ท่านถึงราว 2,000 โครงการ โครงการเหล่านี้นอกจากช่วยแก้ปัญหาแล้ว หลายโครงการยังมีเรื่องราวน่าสนใจ มีทัศนียภาพที่สวยงาม ที่น่าแนะนำให้นักเดินทางหาโอกาสไปสัมผัสด้วย
ในวาระที่ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษา ในปี 2555 นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงถือเป็นมงคลฤกษ์ในการจัดโครงการเทิดพระเกียรติ "ด้วยเพราะรักจากพระราชินี" เชิญชวนนักท่องเที่ยวไปสัมผัสความรักของพระองค์ท่านที่มีต่อพสกนิกร ผ่าน 10 โครงการพระราชดำริของพระองค์ โดยจัดงานแถลงข่าวโครงการนี้ที่ห้างสรรพสินค้าเซนทรัลเวิร์ล เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
10 เส้นทางโครงการพระราชดำริ "ด้วยเพราะรักจากพระราชินี" ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คัดสรรมาแนะนำ ได้แก่
1.เส้นทางรักรวมไทย ที่โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) จ. แม่ฮ่องสอน ในอดีตพื้นที่บริเวณปางอุ๋ง เป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม มีชาวเขาเข้ามาปลูกฝิ่นและใช้เป็นเส้นทางขนส่งยาเสพย์ติด รวมถึงลักลอบตัดไม้อย่างต่อเนื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี จึงทรงพระราชดำริให้พัฒนาพื้นที่ ทั้งปลูกป่า สร้างอ่างเก็บน้ำ และจัดตั้งหมู่บ้านรวมไทยขึ้น เพื่อสร้างความมั่นคงชายแดน ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง มีผู้ขนานนามว่า "สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย" นักท่องเที่ยวต่างนิยมไปเดินชมดอกไม้เมืองหนาว และนั่งแพชมทัศนียภาพอ่างเก็บน้ำยามเช้าที่ปกคลุมด้วยสายหมอก
2.เส้นทางคืนรอยยิ้มหลังน้ำลด ที่โครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ และศูนย์ตุ๊กตาชาววังบางเสด็จ จ. อ่างทอง หลังจากราษฎรชาวอ่างทองเดือดร้อนจากอุทกภัยในปี 2549 พระองค์ทรงให้จัดทำโครงการฟาร์มตัวอย่างนี้ขึ้น เพื่อช่วยให้ราษฎรที่ประสบภัยมีงานทำ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมการปลูกผัก ผลไม้ปลอดสารพิษ แปลงเพาะเห็ด สวนป่า ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีศูนย์ตุ๊กตาชาววัง ที่พระองค์ทรงให้ทำโครงการส่งเสริมอาชีพเนื่องจากเห็นว่าที่นี่มีดินเหนียวที่สามารถปั้นตุ๊กตาชาววังได้งดงาม
3.เส้นทางสร้างบ้านเล็กในป่าใหญ่ ที่สวนป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ อ.สวนผึ้ง จ. ราชบุรี ความตั้งใจของพระองค์ คือการสร้างป่าโดยให้คนสามารถอยู่ร่วมกับป่า และช่วยดูแลรักษาป่าได้ จึงเกิดโครงการนี้ขึ้น ในปี 2535 ปัจจุบันพื้นที่โครงการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม มีพันธุ์ไม้นานาชนิด รวมทั้งพันธุ์ไม้แปลกตาที่หาชมยาก อย่างต้น "ส้มแม้ว" และมีแก่งหินกลางน้ำที่สวยงาม คือ "แก่งส้มแม้ว"
4.เส้นทางรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ อ. สัตหีบ จ. ชลบุรี สมเด็จพระราชินี ทรงมีพระราชหฤทัยห่วงใยเต่าทะเล ที่นับวันจะลดจำนวนลงจนใกล้สูญพันธุ์ จึงเกิดโครงการนี้ขึ้น เพื่อเป็นแหล่งอนุรักษ์ เพาะพันธุ์เต่าทะเลกลับคืนสู่ธรรมชาติ ศูนย์แห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมความน่ารักของเต่าทะเลอย่างใกล้ชิดที่อควาเรียม บ่ออนุบาลลูกเต่า และมีทิวทัศน์ชายทะเลที่งดงามให้ไปพักผ่อน
5.เส้นทางสวนสวย ดอกไม้สวย ที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ. แม่ริม จ. เชียงใหม่ สมเด็จพระราชินีทรงสนพระทัยในกล้วยไม้ หลายหน่วยงามจึงร่วมมือกันจัดทำโครงการนี้ขึ้น เพื่อรวบรวมและอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้ ภายในพื้นที่ป่ากว่า 6,500 ไร่แห่งนี้ มีอาคารเรือนกระจกขนาดใหญ่บนยอดเขา เป็นที่รวบรวมกล้วยไม้กว่า 350 ชนิด ซึ่งมีสีสันสวยงาม ส่งกลิ่นหอม และผลัดกันออกดอกสวยให้ชมตลอดปี
6.เส้นทางพลิกฟื้นคืนชีวิตป่าชายเลน ที่ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี อ. ปราณบุรี จ. ประจวบคีรีขันธ์ ในปี 2539 ป่าชายเลนบริเวณปากน้ำปราณเสื่อมโทรมหนักจากการทำนากุ้ง สมเด็จพระราชินี จึงทรงมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้กรมป่าไม้เลิกต่อสัญญาใบอนุญาตการใช้พื้นที่ อีกทั้งมีหน่วยงานชุมชนและบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เข้ามาร่วมกันสร้างศูนย์แห่งนี้ขึ้น และปลูกป่าเพื่อพลิกฟื้นพื้นที่นี้ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ ปัจจุบันเปิดศูนย์เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเรียนรู้วิถีชีวิตป่าชายเลน ทั้งพันธุ์ไม้และสัตว์ป่าชายเลน เช่น ปูแสม ปลาตีน นกชายเลน
7.เส้นทางจากฝีมือชาวบ้านสู่วิจิตรศิลป์ของชาติ ที่พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร พระราชินีมีพระราชดำริให้ส่งเสริมงานอาชีพแก่ราษฎร เพื่อเป็นรายได้เสริมกับครอบครัว ทำให้เกิดมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพขึ้นทั่วประเทศ ทั้งพิพิธภัณฑ์ผ้า และพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน ที่พระที่นั่งอนันตสมาคมนี้ เป็นแหล่งอนุรักษ์และรวบรวมงานฝีมือชาวบ้าน ที่ได้รับการพัฒนาและฝึกฝนในโครงการส่งเสริมศิลปาชีพ จนสามารถสร้างงานวิจิตรศิลป์ระดับชาติออกมาได้
8.เส้นทางรักป่ารักน้ำ ที่โครงการป่ารักน้ำ บ้านถ้ำติ้ว อ. ส่องดาว จ. สกลนคร ด้วยเล็งเห็นว่า ป่าเป็นเหมือนฟองน้ำที่ดูดซับน้ำเอาไว้ที่ราก ทำให้เกิดน้ำซับใต้ดินเป็นต้นกำเนิดของลำธาร สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ จึงทรงชักชวนให้ประชาชนปลูกป่า และร่วมกันอนุรักษ์ป่า ทำให้เกิดโครงการนี้ขึ้น การเที่ยวโครงการป่ารักน้ำ อาจเริ่มต้นที่อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก ซึ่งเป็นป่าเบญจพรรณที่อุดมสมบูรณ์ และมีน้ำตกที่สวยงาม
9.เส้นทางพลิกพื้นที่เสี่ยงภัยสู่ชุมชนหัวใจพอเพียง ที่โครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงและฟาร์มตัวอย่าง อันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ บ้านรอตันบาตู ต. กะลุวอ อ. เมือง จ. นราธิวาส ผลจากความไม่สงบใน 3 จังหวัดภาคใต้ ทำให้ประชาชนในพื้นที่จำนวนไม่น้อยสูญเสียผู้นำครอบครัว สมเด็จพระราชินีจึงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อที่ดิน และจัดทำโครงการนี้ขึ้น เพื่อพัฒนา "หมู่บ้านแม่หม้าย" แห่งนี้ ให้กลายเป็น "หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง" ทำให้ชาวบ้านมีอาชีพ สามารถเลี้ยงตนเองได้ ซึ่งอาจช่วยให้ความสุขที่หายไปกลับคืนมา
10.เส้นทางศิลปะไทยสร้างอาชีพ ที่โครงการส่งเสริมศิลปาชีพบ้านสมพรรัตน์ อ. บุณฑริก จ. อุบลราชธานี ในปี 2537 ราษฎรใน อ. บุณฑริก ทูลเกล้าถวายผลิตภัณฑ์ผ้าไหม เครื่องจักรสาน พระองค์ท่านจึงพระราชทานเงินเป็นทุนให้กลุ่มเกษตรกรดังกล่าว จนเกิดเป็นโครงการส่งเสริมศิลปาชีพ ให้คนในพื้นที่มีรายได้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของชาวบ้านที่นี่ ทั้งผ้าไหม ผ้าลายกาบบัว นับเป็นงานศิลป์ชั้นดีที่มาจากฝีมือชาวบ้านล้วนๆ
ในงานแถลงข่าวโครงการนี้ ท่านผู้หญิงสุภรเพ็ญ หลวงเทพ รองราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ กล่าวถึงความรักของพระองค์ท่านว่า "ท่านไม่เคยนึกถึงพระองค์เองเลย ทรงคิดถึงประชาชน ประเทศชาติ และบ้านเมืองก่อนเสมอ ท่านพยายามคิดอยู่ตลอดว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนลืมตาอ้าปาก ยืนบนลำแข้งของตัวเองได้ ทำอย่างไรจึงจะอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเอาไว้ให้ได้ ทรงรักประเทศไทย ทรงทุ่มเวลาในชีวิตของพระองค์ท่านให้กับประเทศไทย"
นอกจากไปอิ่มตาอิ่มใจกับทัศนีภาพของโครงการหลวงแล้ว เราคงจะได้สัมผัสความรักและความห่วงใย ที่พระองค์ทรงมอบให้กับพสกนิกรอย่างเราด้วยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.tourismthailand.org/queenprojects หรือสอบถามได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โทร. 1672
เรื่อง/ภาพ: ปณัสย์ พุ่มริ้ว
(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!