ท่องเที่ยวในมุมต่างเริ่มต้นที่อีสานต่อไปลาว

บินทริปเดียว เที่ยวสองประเทศ ใคร...ใคร ก็บินได้

นครพนม-คํามวน ลาว, อุดรธานี-หนองคาย-เวียงจันทน์,  อุบลราชธานี-เมืองปากเซ ลาว

คุณอาจเคยมีประสบการณ์สุดประทับใจกับภาคเหนือและภาคใต้ในช่วงหน้าหนาวและหน้าร้อน แต่จะมีสักกี่คนที่ได้สัมผัสกับประสบการณ์สุดพิเศษบนดินแดนที่ราบสูง ซึ่งกําลังสวยงามที่สุดด้วยมวลบุปผา และนํ้าตกสวย ในห้วงยามที่สายฝนโปรยปราย วันนี้เครื่องบินลําใหม่ป้ายแดงจาก แอร์เอเชีย พร้อมแล้วที่จะพาคุณมุ่งหน้าสู่ 3 จังหวัด บนดินแดนที่ราบสูง ใกล้ประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยเที่ยวบินตรงวันละ 2 เที่ยวบินสําหรับอุบลราชธานี กับอุดรธานี และ 1 เที่ยวบินสําหรับจังหวัดนครพนม ตลอดทั้งสัปดาห์ ว่างวันไหน เบื่อเมืองกรุงวันใด ก็สามารถแพ็คกระเป๋าพร้อมตีตั๋วราคาสุดพิเศษแล้วกระโดดขึ้นเครื่อง เพื่อสัมผัสกับบริการสุดประทับใจทั้งอาหาร และเครื่องดื่มที่คุณสามารถคลิ๊กสั่งได้ล่วงหน้าจากอินเตอร์เน็ต โดยนางฟ้าชุดแดงที่เต็มไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดการเดินทางได้ทันที ถ้าพร้อมแล้ว เรามาเริ่มเที่ยวกันเลย

นครพนม สู่คำม่วน

นมัสการพระธาตุพนม เที่ยวชมดินแดนอารยธรรม

เส้นทางท่องเที่ยวแห่งแรกที่หยิบมาแนะนำ ใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินถึงยังท่าอากาศยานนครพนมซึ่งเป็นที่หมาย เพียง 1 ชั่วโมง 20 นาที เท่านั้น และทันใดที่ล้อหลังสัมผัสพื้นรันเวย์ ความสนุกและน่าตื่นตาก็จะเริ่มถือกำเนิดขึ้น เพราะนอกจากคุณจะได้เที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวเด่นในจังหวัดซึ่งมีอยู่มากมายจนตาลายในแผนที่แล้ว คุณยังสามารถข้ามฝั่งไปเยี่ยมชมสถานที่น่าสนใจมากมายที่เี่มืองท่าแขก แขวงคำ ม่วน สปป.ลาว ได้อีกด้วย

สำหรับกิจกรรมท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดก็มีอยู่หลากหลาย เช่น การไปชมความงามของ พระธาตุพนม โบราณสถานสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคอีสานที่สร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1200-1400 โดยภายในบรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ ตามด้วยการแวะเที่ยวชม พระธาตุเรณูนคร พร้อมนมัสการพระองค์แสนพระพุทธรูปซึ่งมีน้ำหนักกว่า 1,200 กิโลกรัม ซึ่งอยู่ถัดไปไม่ไกล ส่วนงานสถาปัตยกรรมตั้งแต่ปี ค.ศ. 1926 ที่วิหารที่วัดนักบุญอันนาซึ่งเป็นโบสถ์คริสต์ก็ดูงดงามและน่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน จบที่เที่ยวเด่นในเมืองใครรักการผจญภัยและนิยมธรรมชาติสามารถเลือกเดินทางท่องเที่ยวต่อที่ อุทยานแห่งชาติภูลังกา เพื่อชมปฏิมากรรมหินรูปร่างแปลกตา ดอกไม้สวยที่กำลังผลิบานและความงามของ นํ้าตกตาดโพธิ์ ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากถนนสายนครพนม-หนองคายยามวสันตฤดู

ขอบอกทุกท่านว่าอย่าลืม อีกหนึ่งไฮไลท์ คือการนั่งเรือข้ามลำนํ้าโขงชมวิวกินลมเย็นไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตเรียบง่ายในเมืองที่เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างแปลกตาสไตล์โคโลเนียลและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เมืองท่าแขกแขวงคำม่วน สปป.ลาว รับรองได้ว่าหากคุณได้มาเยี่ยมเยือนแขวงคำม่วนแห่งนี้แล้ว จะต้องม่วนชื่น ม่วนใจ อยากกลับมาใหม่อย่างแน่นอน

 

อุดรสู่เวียงจันทน์

เยี่ยมเยือนถิ่นมรดกโลก ชมชื่นความงามขององค์ธาตุหลวงคู่เมือง

เส้นทางที่สองอยากนํามาแชร์นี้ สนุกเดินศึกษาธรรมชาติคุ้มค่าไม่แพ้ทริปแรกแน่นอน เพราะคุณจะได้เที่ยวทั้งในจังหวัดอุดรฯ และหนองคายซึ่งอยู่ห่างไปเพียง 30 กิโลเมตร ใครมีจุดหมายที่ เวียงจันทน์ พอลงเครื่องที่อุดรฯปุ๊บ เดินทางเพียง 30 กิโลเมตร ก็ถึงตัวเมืองหนองคาย และเดินทางต่อไปอีกเพียง 25 กิโลเมตร ก็ได้เที่ยวเมืองนอกที่นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาวอย่างง่ายดายกําลังสวยที่สุด

หากคุณตั้งใจแวะเที่ยวอุดรธานีก่อน ไม่ควรพลาดที่จะเที่ยวชมแหล่งมรดกโลกอย่างบ้านเชียง ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมศิลปโบราณวัตถุ และวัฒนธรรมอายุกว่า 4,000-7,500 ปี รวมถึง อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท เพื่อแวะเก็บภาพประทับใจของพระพุทธบาทบัวบกสวนหินสุดพิศวงรูปทรงต่างๆ และทิวทัศน์อันงดงาม ที่กําลังจะได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกในเร็ววันนี้ ส่วนใครที่ชอบแนวธรรมชาติจัดๆ หน้าฝนแบบนี้ยิ่งเหมาะสุดๆ เพราะที่อุทยานแห่งชาตินายูง นํ้าโสม ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองราว 110 กิโลเมตร นํ้าตกยูงทอง และทางเดินศึกษาธรรมชาติกําลังสวยที่สุด ส่วนที่ จุดชมวิวผาแดง นั้น ร่มรื่นด้วยผื่นป่าอันเขียวขจีและทิวทัศน์ของท้องไร่ท้องนาเบื้องล่าง

จบจากอุดรฯ หากมีเวลามากพอแนะนําให้แวะเที่ยวต่อที่เมืองหนองคายก่อนข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เข้าสู่ นครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อชมความยิ่งใหญ่ของ ประตูชัย พระธาตุหลวง และวัดสีสะเกด โดยในตัวเมืองหนองคายนั้นเป็นที่ตั้งของสองพระธาตุดัง นามว่าพระธาตุบังพวนเจดีย์เก่าแก่คู่เมือง ทรงสถูปแบบอินเดีย และพระธาตุหนองคาย อายุกว่า 200 ปีที่ตั้งอยู่ริมนํ้าโขง แต่สําหรับใครที่เน้นธรรมชาติก็มีทั้งนํ้าตกชะแนน ซึ่งมีความสูงกว่า 300 เมตร และนํ้าตกเจ็ดสี ที่สวยงามสุดตอนกระทบแสงแดดยามบ่าย รวมถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ซึ่งกําลังสวยงามที่สุดในช่วงหน้าฝน ส่วนท่านที่ชอบขับรถเที่ยวและมีเวลามากขึ้นไปอีกอยากให้ลองแวะเวียนไปเยี่ยมเยือนอําเภอสังคม เพราะมีที่เที่ยวเด่นอีกสองแห่งที่สวยงามไม่แพ้ที่ใดคือ นํ้าตกธารทอง ซึ่งตกจากหน้าผาสูงประมาณ 30 เมตร ลดหลั่น

ลงมาสู่แอ่งนํ้าขนาดใหญ่ และ นํ้าตกธารทิพย์ ไหลลดหลั่น มาจากหน้าผา 3 ชั้น สูงรวมกว่า 240 เมตร หากมาเที่ยวหนองคายในช่วงวันออกพรรษา ปลายเดือนตุลาคม คุณยังจะได้ชมปรากฎการณ์ธรรมชาติสุดพิศวงที่ลํานํ้าโขง ณ อําเภอโพนพิสัย นั่นคือปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาคอีกด้วย

อุบลราชธานี สู่ปากเซ

สัมผัสวัฒนธรรมล้ำค่า เที่ยวชมปราสาทขอมบนแผ่นดินลาว

ต้นเดือนสิงหาคม อุบลฯ มีงานบุญใหญ่ที่มีชื่อเสียงรู้จักกันดี นั่นคือมหกรรมแห่เทียนพรรษา นอกจากจะได้มาร่วมงานบุญนี้แล้ว ยังไม่ควรพลาดที่จะแวะไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติผาแต้มเพื่อชม ภาพเขียนสีอายุกว่า 4,000 ปี ฝีมือมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์และ นํ้าตกรู ที่มีลักษณะเป็นสายนํ้าไหลผ่านช่องหินรูปวงกลมตกลงสู่เบื้องล่าง และเพลิดเพลินกับการเก็บภาพมวลไม้ดอกละลานตาบนลานหิน ไปอีกนิดอุทยานแห่งชาติภูจองนายอยที่นั่นนํ้าตกห้วยหลวงหรือนํ้าตกบักเตวสุดยิ่งใหญ ที่มีความสูงราว 40 เมตร กําลังงดงามด้วยแผงนํ้าผืนใหญ่ที่ตกลงสู่หน้าผาหรือจะแวะเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะในท้องที่อําเภอโขงเจียม ที่มีลักษณะเป็นโขดหินน้อยใหญ่ขนาดมหึมากลางลํานํ้ามูลเพื่อถ่ายรูปเล่นบนสะพานเชือกข้ามแม่นํ้ามูล แล้วหาร้านอร่อยนั่งกินปลาชมบรรยากาศก็อิ่มท้องอิ่มใจอย่าบอกใคร

ส่วนใครที่ชอบเดินทางผจญภัยในต่างแดน ที่เมืองปากเซและแขวงจําปาสักของฝั่งลาวก็มีที่เที่ยวน่าสนใจหลากหลายให้คุณได้ค้นหาและเยี่ยมชม ยกตัวอย่าง นํ้าตกฝาแฝดชื่อ ตาดฟาน นํ้าตกสวยงามนาม ตาดเยื้อง อุทยานบาเจียงติดกับนํ้าตกตาดผาส้วมก็มีหมู่ชนเผ่าให้เยี่ยมชม เดินทางไกลอีกหน่อยลงแพข้ามฝั่งโขงเที่ยวเมืองจําปาสัก ชมปราสาทขอมในเมืองลาวที่ วัดพู แล้วลงเรือล่องนํ้าโขงชมสี่พันดอนเยี่ยมเยือนเกาะใหญ่กลางนํ้า นามดอนโขงชมสวนหินระเกะระกะกลางลํานํ้าโขงที่ นํ้าตกหลี่ผี ก่อนปิดท้ายด้วยการเที่ยวชมนํ้าตกกลางแม่นํ้าโขงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่าง คอนพะเพ็ง

มาเติมชีวิตชีวาให้กับหน้าฝน สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ กับทริปอีสานสุดประทับใจที่ airasia.com

 

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

 

อัพเดตเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวสนุกๆ มากมายได้ที่ http://travel.sanook.com/

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!