ตามรอยโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ ตอน...ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร

ตามรอยโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ ตอน...ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร

ตามรอยโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ ตอน...ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วงนี้ฝนเริ่มโปรยปรายลงมาให้ชุ่มฉ่ำ เปลี่ยนแสงแดดร้อนๆ ให้กลายเป็นสายฝนเย็นๆ เมื่อนั่งอยู่ในออฟฟิศ สายฝนที่ตกลงมาทำให้นึกถึงทุ่งนาสีเขียวสดที่กำลังตั้งท้อง รอการเก็บเกี่ยว นึกถึงภูเขาสีเขียวเข้ม และดอกไม้บานชนิดกำลังเริ่มต้นโชว์สีสัน หลายคนคงนึกถึง จ.แม่ฮ่องสอน แต่สำหรับฉันแล้ว จู่ๆ ก็นึกถึง จ.สกลนคร ที่มีคนบอกว่า ไม่ได้แล้งอย่างที่คิด แถมยังมีโครงการพระราชดำริที่สำคัญตั้งอยู่บนเทือกเขาที่ชื่อว่า ‘ภูพาน' อีกด้วย งานนี้ต้องพิสูจน์


ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร ขอสารภาพเลยว่า หลงทาง! ขับรถผ่านศูนย์ฯ ไปหน้าตาเฉย หากใครจะไปต้องสังเกตดีๆ หากมาจากทางตัวเมือง ศูนย์ฯ จะอยู่ก่อนพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จากปากทางสู่ตัวโครงการด้านใน ลึกใช้ได้ เพราะว่าเนื้อที่พื้นที่สาธิตเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม ก็ปาเข้าไปกว่า 2,000 ไร่ รวมกับพื้นที่พัฒนาป่าไม้อีก 1,100 ไร่ และพื้นที่หมู่บ้านรอบศูนย์ฯ อีก 22 หมู่บ้าน จำนวน 11,000 ไร่ ทั้งหมดก็หมื่นกว่าไร่ กว้างมาก ภายในศูนย์ฯ แบ่งเป็นงานศึกษา 10 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีวัตถุประสงค์เหมือนกันคือ การขยายผลสู่เกษตรกรรอบศูนย์ฯ และเกษตรกรทั่วประเทศ ดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระองค์พระราชทานแนวพระราชดำริต่างๆ เพื่อให้ศูนย์ศึกษาพัฒนาภูพานฯ แห่งนี้ เป็นแบบจำลองของภาคอีสาน เพื่อให้เป็นพื้นที่ส่วนย่อ ให้สอดคล้องกับการแก้ปัญหาและศึกษาวิธีการพัฒนาของภูมิภาคได้อย่างเหมาะสม

 
เพลินกับการเกษตรในส่วนงานต่างๆ

คุณนาตยา พลเศษ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ศูนย์พัฒนาภูพานฯ ได้เป็นผู้พาเราชมพื้นที่ส่วนงานต่างๆ อาทิ แปลงนาข้าวเกษตรอินทรีย์ ซึ่งยามนี้เป็นนาสีเขียวแก่อีกไม่นานก็จะกลายเป็นสีทองให้ได้เก็บเกี่ยว และมีข้าวพันธุ์สกลนครที่โดดเด่น ซึ่งฉันก็ซื้อข้าวกล้องงอกกลับบ้านเหมือนเคย ของดีแบบนี้ต้องอุดหนุน จากนั้นก็ไป ชมงานศึกษาและพัฒนาป่าไม้ เมื่อเดินเข้าไปก็จะพบกับกรงอนุรักษ์นกหายาก พันธุ์ไม้ต่างๆ ฝายชะลอน้ำ และพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า อาทิ เนื้อทราย หมูป่า เป็นต้น จุดนี้ยังทำเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ให้เด็กๆ ได้เข้ามาจัดกิจกรรมค่ายพักแรมได้

แล้วเราก็ไปชม พื้นที่สาธิตเกษตรทฤษฎีใหม่ ดูแปลงผักเกษตรอินทรีย์ ซึ่งคุณนาตยาบอกว่า หากมาที่นี่ตอนเช้าๆ จะสามารถซื้อผักที่เก็บกันสดๆ จากแปลงได้เลย แถมราคายังถูกซะด้วย แล้วก็พาเดินไปที่สวนส้มโอและลิ้นจี่ที่คุณนาตยาบอกว่า อร่อยกว่าจังหวัดอื่นๆ โดยไฮไลท์สำคัญอีกที่ งานปศุสัตว์ กับ เรื่องราวของสามดำมหัศจรรย์ คือ โคเนื้อภูพาน (วัวสีดำหรือทาจิมะภูพาน ซึ่งในอนาคตหากพัฒนาสายพันธุ์ จะสามารถขายเนื้อวัวชนิดนี้ได้ ก็จะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละเป็นหมื่นบาท) สุกรภูพาน (หมูดำ) และไก่ดำภูพาน ต่อมาก็ได้ไปชมคุณยายทอผ้า ที่โรงทอผ้าไหม ที่นี่ยังมีอะไรให้ชมอีกมากมาย หากคนที่จะมาแล้วต้องการแค่เที่ยว ขอบอกว่า เสียดาย เพราะการได้มาท่องเที่ยวเชิงความรู้กับโครงการพระราชดำริ จะทำให้เราได้เห็นวิถีชีวิตของคนไทยจริงๆ รวมทั้งการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระราชประสงค์ให้อยู่อย่างยั่งยืน ซึ่งคุณนาตยา

บอกเราว่า จากการจัดตั้งศูนย์พัฒนาฯ แห่งนี้มา เกษตรกรและชาวบ้านรอบศูนย์ฯ มีรายได้เพิ่มมากขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีความรักสามัคคีในการรวมกลุ่มผลิตสินค้า สามารถกระจายรายได้เสริมสู่ชุมชนได้อีกทาง รวมทั้งเกษตรกรสามารถนำสินค้าที่ผลิตได้มาจำหน่ายที่ศูนย์ฯ ได้อีกด้ว


ข้อมูลเพิ่มเติม การเดินทางไปยังศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร หากต้องการศึกษาดูงาน ควรติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ล่วงหน้า สามารถติดต่อและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 4274 7458-9 ต่อ 113 หรือ
ชมรายละเอียดได้ที่ http://royal.rid.go.th/phuphan

ขอขอบคุณ คุณนาตยา พลเศษ และ คุณดวงพร ชัยปัญหา เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร

เรื่อง : ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ / ภาพ : กฤตภาส สุทธิกิตติบุตร

 

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook.. ได้ที่นี่เลย!!

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ ตามรอยโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ ตอน...ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook