ทริปคืนชีพกับจุดเปลี่ยนที่ชื่อ Budget

ทริปคืนชีพกับจุดเปลี่ยนที่ชื่อ Budget

ทริปคืนชีพกับจุดเปลี่ยนที่ชื่อ Budget
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทริปคืนชีพ กับจุดเปลี่ยนที่ชื่อ Budget โดย ครอบครัวนักเดินทาง

ผมก็เป็นคนเมืองที่เหมือนกับหลายๆ คน ชอบพาครอบครัวไปท่องเที่ยวในวันหยุด ยิ่งได้ขับรถไปเที่ยวถือเป็นกฏเหล็กส่วนตัว ที่ขัดใจแฟนเป็นอย่างยิ่ง 555 แต่วันหนึ่งมันก็มาถึงจุดเปลี่ยน เมื่อผมโดนงานด่วนที่เจ้านายขอร้องให้ช่วยทำ จนต้องเบียดบังวันลาพักร้อนไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ


นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมอยู่ในสถานการณ์นี้ ผมรู้ว่าจะจัดการกับมันยังไง ผมรีบบึ่งกลับบ้านด้วยความร้อนรน ก้มหน้าก้มตาวางแผนเดินทางใหม่ ปรับจุดเที่ยวให้น้อยลง วางแผนขับรถให้เร็วขึ้น ตัดสถานที่เที่ยว และกิจกรรมออกไปหลายอย่าง ระหว่างที่ง่วนๆ กับการวางแผน แฟนของผมก็โยนเอกสารมาตรงหน้า "ทริปนี้ไม่เอาอีกแล้ว เที่ยวแบบรีบๆ หยั่งกะอาม่าทัวร์ 9 วัด" ก่อนที่ผมจะอ้าปากเถียง แฟนผมก็ใส่ต่อ "ไม่อยากพาลูกไปเสี่ยง ขับรถเร็วๆ " "เอ่อ พี่ว่า" แฟนผมซ้ำต่อแบบไม่เว้นช่องไฟ "ชั้นจองที่พักใหม่หมดแล้ว นี่ตั๋วเครื่องบิน นี่รถเช่าจองไว้แล้ว" "เอ่อ ที่จริงแบบว่า..." "ปิดไฟนอนได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้า" เป็นอันจบข่าวผมต้องจำยอมขับรถเช่าครั้งแรกในชีวิต

เครื่องบินแตะรันเวย์สนามบินอุดรนานแล้ว แต่ใจผมยังลอยอยู่กับรถคู่ใจ ออกจากประตูสนามบินสมองถึงเริ่มสั่งการ มีพนักงาน Budget เข้ามาติดต่อดูท่างทางมืออาชีพ่ดี อืมม...รถเช่าของเค้ามีบริการถึงสนามบินด้วยแฮะ พวกเรารีบบึ่งไปดูรถทันที เอ๊ะ รถใหม่จังราคาคงแพงระยับ เหมือนผมมีบับเบิ้ลลอยอยู่บนหัว แฟนผมรีบพูดดักคอ "รถที่ให้เช่าใช้งานต้องไม่เกิน 18 เดือน รับรองราคาไม่แพง " ผมก็เลยต้องเงียบไป ทำหน้าที่พลขับที่ดีตามโปรแกรมที่วางไว้
จะว่าไปก็ดีไปอีกแบบ ทริปนี้ผมชิลๆ ไม่ต้องรีบเร่งแถมได้เวลาคืนมา ช่วงเช้าเติมพลังกับไข่กระทะร้านดัง ถ้าไม่กินเหมือนไม่มาถิ่นอุดรจากนั่นเราก็เริ่มเดินทางทันที จุดหมายแรกขอเรียกว่าจุดขัดใจเด็ก ผมเองอยากไปดู พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเชียง มานานแล้ว คิดว่าลูกชายเบื่อแน่นอน ต้องอาศัยลูกหลอกล่อเล็กน้อย...ที่นี่แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 เป็นแหล่งโบราณคดีแห่งแรกแสดงการขุดค้นทางโบราณ และศิลปวัตถุที่พบตามชั้นดิน ส่วนที่ 2 จัดแสดงเกี่ยวกับเรื่องราวและวัฒนธรรมของบ้านเชียงในอดีต พอได้เห็นของจริง ได้ซึมซับบรรยากาศ ก็ยิ่งตื่นตาตื่นใจ ส่วนเจ้าลูกชายก็ผิดคาดครับ เพลินไปหลุมขุดและนิทรรศการ จนผมต้องบอกว่าเจ้าไดโนเสาร์รอเราอยู่นะ ถึงได้ออกยอมมาจากบ้านเชียง

 

ตกเที่ยงเราตามลายแทงไปกินแหนมเนืองอุดรซึ่งอยู่ในแผนที่วางไว้แบบไม่ตกหล่น หลังจากเต็มพลังกันแล้วออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไปคือไฮไลท์ของทริปนั่นคือ พิพิธภัณฑ์สิรินธรที่กาฬสินธุ์ ระหว่างทางไปสหัสขันธ์แฟนผมได้สาธยาย Budget ให้ผมฟังแบบคร่าวๆ ว่าเป็นบริษัทบริการรถเช่าระดับโลก มีสาขาครอบคลุมกว่า 120 ประเทศ มีสาขามากที่สุดในประเทศไทยแถมยังมีรถเช่าให้เลือกหลากหลาย รถเก๋ง รถตู้ รวมทั้งบริการคนขับให้ด้วย ผมไปอยู่ไหนมาเนี่ยไม่เคยรู้มาก่อน

ก่อนถึงพิพิธภัณฑ์สิรินธรเราแวะถ่ายรูปปั้นไดโดเสาร์ข้างทางกันแบบจุใจ มีทั้งแบบเดี่ยว แบบหมู่ แบบสีลูกกวาด พิพิธภัณฑ์สิรินธรเป็นพิพิธภัณฑ์และศูนย์วิจัยเกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่สมบูรณ์แบบและใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีส่วนที่เป็นอาคารแบ่งเป็น 3 ส่วน และส่วนที่เป็นภายนอกที่มีหลุมขุดจริงๆ ให้ชม ลูกชายชอบมากดูไปวิ่งไป ถามโน่นนี่ชี้ชวนดูวุ่นวายไปหมด จบวันแรกแบบชิลๆ และรูปถ่ายเต็มความจุของการ์ด

 

วันที่สองเกิดอาการติดใจ เจ้าลูกชายอยากดูไดโนเสาร์ซะอีก แผนเลยต้องมีการปรับด่วนระหว่างหม่ำมื้อเช้า ผมเองมาอีสานเป็นครั้งแรกก็อาศัยเที่ยวตามแผนที่และจีพีเอส ระหว่างงมเส้นทางอยู่นั้นแฟนผมก็บังเกิดไอเดียให้ลองโทรสอบถามทาง Budget ก็ไม่ผิดหวังได้รับคำแนะนำเรื่องเส้นทางและสถานที่ท่องเที่ยว แถมยังได้ข้อมูลในการขับขี่บนเส้นทางที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ทันทีที่วางหูผมยังไม่ทันขมวดคิ้ว แฟนก็ได้บอกว่า "ไม่ต้องห่วงรถคันนี้ได้ทำประกันความคุ้มครองไว้แล้ว" บร๊ะเจ้าช่างรอบคอบจริงแฟนผม

 

ออกจากกาฬสินธุ์ช่วงสายแก่ๆ ขับมุ่งหน้าไปดูไดโนเสาร์ภูเวียงที่ขอนแก่น ช่วงบ่ายต้นๆ เราก็มาถึงพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวีย พอหันไปเรียกเจ้าลูกชายไม่มีสัญญาณตอบรับ ก็หลับปุ๋ยหมดหล่ออยู่เบาะหลัง ผมกับแฟนต้องออกแรงปลุกอย่างยากเย็น แต่พอได้ยินคำว่าถึงไดโน เสาร์ภูเวียงแล้วก็สะดุ้งตื่นทันที กิจกรรมแรกสุดก็เก็บภาพลูกชายกับรูปปั้นไดโนเสาร์หลากตระกูล ได้ภาพเท่ๆ โดนๆ เพียบ สงสัยเริ่มจะรู้มุมกล้องแล้ว
ไดโนเสาร์ภูเวียง เป็นฟอสซิลไดโนเสาร์ชิ้นแรกในประเทศ ที่นี่ก่อสร้างก่อนพิพิธภัณฑ์สิรินธรจึงมีสภาพเก่ากว่า แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลย ได้เห็นทั้งซากฟอสซิล ไข่ไดโนเสาร์ โครงไดโนเสาร์ที่ทำจากเหล็กซึ่งแปลกตาไปอีกแบบ เดินไปไม่ไกลจากนอกอาคาร ก็มีหลุมขุดให้ชมหลายหลุม จุดชมวิวที่ภูเวียง สุสานหอย ตลอดเวลาที่อยู่ในนี้เจ้าลูกชายก็ถามไม่หยุด ผมตอบได้มั่งดำน้ำไปมั่งก็มี หลังจากเมื่อยได้เต็มที่ ถ่ายรูปกันเต็มคราบ ก็ได้เวลาไปขึ้นเครื่องที่สนามบินขอนแก่น

ระหว่างทางไปเมืองขอนแก่น ผมถือโอกาสซื้อของกินของฝากไปฝากเพื่อนๆ พี่น้อง แฮ่ม ผมสังเกตว่าแฟนผมจะซื้อของฝากตัวเองเยอะเหมือนกัน ผ้าซิ่นไหม ผ้ามัดหมี่สวยๆ แหมเนือง หมูยอ ของกินอีกเพียบ ระหว่างที่ผมกำลังเผลอๆ แฟนผมแอบมากระซิบข้างๆ หูว่า กระเป๋าไม่ฉีกหรอก ค่าของฝากไม่เท่าไหร่ ค่าเช่ารถก็ไม่แพงเลย ผมก็เลยถามไปตรงๆ ว่าเช่ามาวันละเท่าไหรล่ะ คำตอบคือวันละ1,000 บาท รวมทำประกันชั้น 1 เข้าไปด้วยแบบไม่รับผิดชอบความเสียหาย ถ้าเช่าปกติจะเหลือ 790 บาท และค่าเช่านี้ครอบคลุมหมดแล้วจะไม่มีค่าใช้จ่ายยิบย่อย ราคาโอเคนะ สมเหตุสมผลแถมได้รถใหม่ขนาดนี้ ดีกว่าเจ้ารถคู่ใจที่ต้องลุ้นทุกทริป

กว่าจะถึงสนามบินต้องฝ่ารถติดไม่แพ้กรุงเทพ ก็ยังดีที่มาทันเพราะเผื่อเวลาไว้แยะ เรียกว่าผมอ่าแฟนผมมากกว่า ที่ทำการบ้านมาอย่างดี ได้เที่ยวครบ ได้กินของอร่อย ได้ของฝากดังใจ แต่แตกต่างจากทริปอื่นตรงที่ใช้บริการรถเช่าเป็นครั้งแรก โชคดีที่ได้เปิดซิงกับ Budget เพราะช่วยปลุกชีพจากทริปที่ทำท่าจะรีบเร่ง ไม่มีเวลา กลายเป็นทริปชิลๆ ไม่ต้องรีบทำเวลา คุ้มค่า และไม่เสี่ยงอีกต่อไป ผมว่าการบินไปกลับขับรถเที่ยวก็เป็นไอเดียน่าสนใจที่ทำให้เราได้อะไรดีๆ กลับมา โดยเฉพาะเรื่องของเวลาที่มีค่าเหลือเกินสำหรับคนเมืองอย่างเราๆ และทำให้ผมต้องเปลี่ยนมุมมองในการเที่ยวตลอดไป นี่ก็แค่กลางปีผมยังมีแผนท่องเที่ยวอีกเพียบ และผมมีคำตอบในใจแล้วว่า การเดินทางครั้งหน้าของผมจะเป็นอย่างไร ?

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook.. ได้ที่นี่เลย!!

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ ทริปคืนชีพกับจุดเปลี่ยนที่ชื่อ Budget

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook