วิธีสอนลูกรักให้กล้าคิดกล้าทำ และพึ่งพาตัวเองได้อย่างมั่นใจ
การรู้จักความเป็นตัวของตัวเองของลูกนั่นคือ การที่ลูกได้มีความกล้าคิดกล้าแสดงออกว่าเขาสามารถลงมือทำเองก็ได้ หรือการได้ฝึกกิจกรรมแบบเหมาะสมในวัย 1-3 ขวบนั้น หากเด็กทำได้ก็จะเกิดความมั่นใจในตนเอง เกิดความภาคภูมิใจอันจะส่งผลให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ และการเลี้ยงลูกเพื่อให้เขารู้จักความเป็นตัวของตัวเองก็นับเป็นหน้าที่ที่พ่อแม่ต้องคอยสนับสนุนแนะนำสั่งสอนเช่นกัน มาดูกันนะคะว่าคุณพ่อคุณแม่สามารถให้การฝึกอบรมในด้านนี้แก่ลูกได้อย่างไรบ้าง
1.ฝึกให้ลูกตัดสินใจเอง
เริ่มตั้งแต่การเลือกเสื้อผ้าใส่เอง การแต่งตัวของลูกพ่อแม่ไม่จำเป็นที่จะต้องไปจำกัดว่าลูกจะต้องแต่งแบบไหนในแต่ละวัน ควรลองให้เขาเลือกแบบที่เขาต้องการอยากใส่ในวันนั้นๆ โดยให้เขาเป็นฝ่ายตัดสินใจเลือกเอง ถึงแม้ว่าเมื่อใส่แล้วสีเสื้อหรือกางเกงจะไม่เข้ากันก็ไม่เป็นไร หรือขณะเลือกซื้อขนมก็ควรให้เขาเลือกชี้แบบที่เขาต้องการได้บ้าง เป็นการฝึกการตัดสินใจ ทำให้เขาเป็นเด็กที่มีความมั่นใจและเชื่อมั่นในตัวเองมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้อนาคตเติบโตเป็นเด็กที่กล้าแสดงออกมากยิ่งขึ้นด้วย
2.สนับสนุนการเรียนรู้
ด้วยการปล่อยให้เล่นอิสระบ้าง เพราะเด็กไม่ว่าวัยไหนมักชอบการเรียนรู้ ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองไม่ว่าจะเป็นจากการเล่นหรือการเรียน คนเป็นพ่อเป็นแม่มีหน้าที่คอยดูแลอยู่ใกล้ๆ ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว และหากเป็นวัยเด็กเล็กก็ต้องเปิดโอกาสให้เขาได้ลองสำรวจสิ่งต่างๆ หรือทดลองทำอะไรด้วยตัวเอง อาจทำบ้านสกปรกไปบ้าง พ่อแม่ก็ต้องคอยบอกอยู่ใกล้ๆ เป็นการให้ลูกได้ฝึกความกล้าหาญ สติปัญญา และการบอกว่าอะไรควร ไม่ควรทำ เป็นการบอกถึงกฎกติกาของคนในสังคมให้เขาได้เรียนรู้ไปด้วย
3.ฝึกให้รู้จักความพยายามความอดทน
ด้วยการให้ช่วยทำงานบ้านเท่าที่วัย 1-3 ขวบจะทำได้ เช่น เก็บกระดาษมาใส่ถังขยะ เก็บของเล่น เก็บเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว ช่วยล้างจาน ถึงแม้จะทำผิดทำถูกหรือไม่เรียบร้อยก็ต้องปล่อยให้ลูกได้ฝึก เพื่อที่เขาจะได้ฝึกความพยายามความอดทน พร้อมกันนี้ คุณแม่ควรคอยชื่นชมหรือชมเชยเขา ลูกจะรู้สึกภูมิใจในคุณค่าที่มีต่อตัวเอง ให้เขาได้รู้สึกว่าเขามีบทบาทสำคัญในครอบครัวและเป็นที่รักของพ่อแม่อย่างมากอีกด้วย
4.ฝึกให้ทำกิจกรรมเกี่ยวกับตนเองด้วยตนเอง
เช่น การอาบน้ำ แปรงฟัน หรือหากเป็นเรื่องที่เขาอยากทำ ถ้าหากไม่มีอันตรายอะไร พ่อแม่ก็ควรอนุญาตให้เขาทำโดยมีหน้าที่คอยช่วยเหลือเขาอยู่ใกล้ๆ และนี่ก็เป็นวิธีเลี้ยงลูกที่จะช่วยให้เขาเติบโตมาแบบที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้อย่างไม่ยากเย็นอีกด้วย
5.เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูก
ในการสั่งสอนลูก หากมีสิ่งใดที่บอกลูกว่าไม่ควรทำ พ่อกับแม่ก็ไม่ควรทำให้ลูกเห็น เพราะลูกอาจไม่เชื่อฟังอีกทั้งยังเลียนแบบพฤติกรรมทั้งอารมณ์ และการกระทำของพ่อแม่แบบผิดๆ ได้ เพราะในวัยเด็กลูกยังไม่สามารถแยกแยะรู้จักอารมณ์และพฤติกรรมของตนเอง พ่อแม่จึงต้องคอยสอน และคอยชี้แนะสิ่งที่ถูกต้องให้เขาเสมอ
สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน สามารถสอนหรือช่วยให้ลูกรักมีโอกาสเรียนรู้ได้ดีเสมอ พ่อแม่เพียงเปิดโอกาสให้เขาพัฒนาตนเองอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสามารถ รับผิดชอบตนเองได้ในวันหน้า เติบโตมาพร้อมความมั่นใจในตัวเองและมีความเป็นตัวของตัวเองมากยิ่งขึ้นพร้อมกัน การเลี้ยงลูกแบบนี้จะไม่ทำให้คุณพ่อคุณแม่เป็นต้องผิดหวังอย่างแน่นอน