ดูด เจาะ ไข่

ดูด เจาะ ไข่

ดูด เจาะ ไข่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

BE Smart
เรื่อง : รัตติกาล พูลสวัสดิ์ / ภาพ : สุตสาย สังหาร

ดูด เจาะ ไข่
Innovation Ice Cream


เมืองร้อนอย่างบ้านเรา อาหารที่ถูกปากคนไทยคงจะหนีไม่พ้นไอศครีม ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยใด อากาศที่แสนอบอ้าวเช่นนี้ ก็ไม่เคยเปลี่ยนให้เย็นขึ้น ผลิตภัณฑ์ไอศครีมจึงเป็นธุรกิจของหวานที่ตอบโจทย์คนไทยได้ดีที่สุด

คุณมรุต ชโลธร เจ้าของกิจการ บริษัท อินโนเวชั่น ฟู้ด แพคเกจจิ้ง จำกัด พูดถึงนวัตกรรมไอศครีมที่เกิดขึ้นใหม่ในเมืองไทยอย่างไอศกรีมแบรนด์ i-maru ที่เขาได้ทำหน้าที่ดูแลทุกกระบวนการผลิต รวมถึงวางแผนการทำมาร์เก็ตติ้ง จึงทำให้ลูกค้าจากที่เคยเป็นผู้บริโภคให้ความสนใจจนกลายเป็น ‘franchisee' ถึง 50 ราย ในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปี

"ก่อนที่เราจะผลิตโปรดักส์ใหม่ๆ แต่ละตัวออกไป เราได้ทำการรีเสิร์ชเบสจากสาขาจตุจักร เพื่อเป็นจุดทดลองเพราะที่ตลาดนัดสวนจตุจักรเป็นสถานที่ที่มีคนหลากหลายไลฟ์สไตล์ ทำให้เราได้ข้อมูลอย่างทั่วถึง โดยตัวรสชาติผมค่อนข้างมั่นใจ ถ้าไม่อย่างนั้นยอดขายคงไม่เพิ่มอย่างต่อเนื่องถ้าเราจะพึ่งแค่ความแปลกใหม่เพียงอย่างเดียว"

i-maru สามารถดึงดูดความสนใจโดยใช้ ‘กับดักทางความคิด' ให้เกิดความสงสัยด้วยลูกเล่นจากวิธีการทานที่แปลกใหม่ ซึ่งแตกต่างจากการทานไอศครีมแบบเดิม ที่จะมีเพียงแค่ โคน, ถ้วย, ไม้, ให้กลับกลายเป็นแฟชั่นและความสนุก ด้วยรูปลักษณ์ชวนสงสัยในแบบ ‘ไข่แช่แข็ง' ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 40-50 ปีที่แล้ว คนยุคเก่าจะรู้จัก ‘ไอศครีมลูกโป่ง' โดยเอาน้ำหวานบรรจุ แต่ด้วยตัวลูกโป่งไม่ได้ทำมาเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์อาหาร จึงทำให้ค่อยๆ จางหายไป ส่วนยุคต่อมาคือยุค ‘ไอศกรีมโลนลี่ป๊อป' ใช้วิธีการทานด้วยการหักแล้วดูด แต่เนื่องจากพลาสติกมีสารปนเปื้อนก็ทำให้หมดไป ในที่สุดนวัตกรรมการทานไอศครีมจึงเหลือเพียงไม่กี่รูปแบบเท่านั้น

"ความตั้งใจของผมมีพื้นฐานมาจาก 4 ปีที่แล้ว สินค้าเกษตรล้นตลาด จึงตั้งใจพัฒนาทุเรียนให้อยู่ในรูปแบบแช่แข็ง ผมต้องการทำไอศครีมผลไม้ 100% ที่เป็นรูปไข่ เราก็เลือกบรรจุภัณฑ์ว่ามันสามารถเป็นแบบไหนได้บ้าง หลังจากทดลองมากว่า 2 ปี สรุปแล้วยางคือคำตอบที่ดีที่สุด มีคุณสมบัติการยืดหยุ่น สามารถสร้างลูกเล่นได้หลากหลาย และเราใช้ยางชนิดเดียวกับจุกขวดนมเด็กทารก สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ อาจจะช้ากว่ากระดาษแต่ก็เร็วกว่าพลาสติก"

ไอศครีม i-maru มี 2 โปรดักส์ให้เลือก ชนิดแรกคือ mi-lu-ku จุดเด่นใช้วัตถุดิบนมฮอกไกโด จากประเทศญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความกลมกล่อมของนมวัว และวิธีการทานที่แตกต่างด้วยการดูด ซึ่งมีคอนเซ็ปต์ว่า ‘นมพุ่งปรี๊ด' ในรูปแบบดูดจากเต้านมวัว ชนิดที่สองคือ tamago เป็นไอศกรีมผลไม้ 100% มีทั้งหมด 2 รสชาติ ทุเรียนหมอนทอง และ มะม่วงน้ำดอกไม้ วิธีการรับประทานคือการใช้ไม้เจาะ ผลิตภัณฑ์ที่ห่อหุ้มก็จะหลุดออกเหมือน ‘ไข่แตกโพละ'

"นอกจากโปรดักส์ที่มีอยู่ในตอนนี้แล้ว อนาคตผมยังอยากเพิ่มความแปลกใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ทั้งด้านรสชาติใหม่และรสชาติเก่า กลยุทธ์แรกเรามีการปรับหมุนเวียนรสชาติ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซากจำเจ ส่วนกลยุทธ์ที่ทำซ้อนเข้าไปคือ ในแต่ละจังหวัดเอกลักษณ์ที่ชัดเจนในแต่ละที่ เราจะทำรสชาติเพื่อรองรับสถานที่แห่งนั้น เช่น หัวหิน เราจะทำรสชาติ ‘เบียร์สับปะรด' ซึ่งจะมีเฉพาะหัวหิน หรืออย่างที่ mansion seven เป็นที่แฮงเอาต์ของคนกรุงเทพฯในระดับหนึ่ง เราก็จะมีรสชาติ ‘วอสก้ามะนาว' เป็นกลยุทธ์เรื่องรสชาติที่สอดคล้องความเป็นยูนีคของแต่ละสถานที่ไว้ด้วย"

ด้วยสูตรที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเองจากวิธีการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าคุณมรุตจะจบวิศวะ แต่เขาถือว่าคือข้อดี จากที่ผู้ใหญ่เคยบอกเสมอควรทำในสิ่งที่ตนเองรู้ แต่ถ้าเราหัดคิดนอกกรอบและคิดอยู่เสมอว่าถ้าเราไม่รู้ เราก็จะรู้มากขึ้น แต่ถ้าเรารู้แล้วไม่ขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติม สินค้าทั่วโลกก็จะไม่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างแน่นอน


"การที่ผมไม่ได้อยู่ในวงการไอศกรีม ผมจึงไม่ได้ถูกตีกรอบว่าส่วนผสมทั้งหมดต้องใช้กี่เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้เราสามารถคิดได้อย่าง 360 องศา และคิดนอกกรอบได้เสมอ"

 

กด Like เพื่ออัพเดตข่าวสารแบบผู้หญิงๆ ได้มากมายที่นี่!

 

 

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook