ห้ามพลาด! 5 ธีมงานแต่งงานมาแรง จัดงานแต่งให้อินเทรนด์ไม่มีเอ้าท์
จัดงานแต่งงานทั้งที ก็เป็นที่รู้กันดีว่า สิ่งสำคัญที่จะขาดไม่ได้ ก็คือเรื่องของธีมสีที่จะใช้ในงานแต่ง และส่วนมากหน้าที่นี้ก็จะเป็นหน้าที่ของเจ้าสาวเสียเป็นส่วนใหญ่ ที่จะเป็นผู้เลือกและกำหนดธีมสีเอาเอง เพื่อให้งานแต่งถ่ายรูปออกมาแล้วคุมโทนไปในทิศทางเดียวกัน แต่ก็ใช่ว่าชอบสีไหนแล้วก็จะเลือกสีนั้นได้เลย เพราะบางสีก็ค่อนข้างจะหายากพอสมควร เพราะฉะนั้นเราจึงขอแนะนำโทนสีมาแรงในปี 2018 นี้ให้คู่แต่งงานมือใหม่ได้นำไปพิจารณากันดู
1.ธีมสีทอง (แชมเปญโกลด์)
ลองนึกภาพแชมเปญสีทองอำพันที่ถูกเทลงไปในแก้ว และลองเลือกสีนี้ในธีมงานแต่งของคุณดู แล้วคุณจะพบเลยว่า สีทองแชมเปญจะทำให้งานของคุณดูหรูหราเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งถ้าหากมีเครื่องประดับติดมาบนเครื่องแต่งกายด้วย ก็จะทำให้ทุกอย่างดูแวววาวไปหมด ซึ่งก็จะช่วยขับให้ภายในงานดูมีความน่าหลงใหลในแบบที่บอกไม่ถูก ยิ่งถ้าจัดในเวลากลางคืน คู่บ่าวสาวก็จะโดดเด่นเป็นอย่างมาก
2.ธีมสีน้ำตาลอมชมพู
งานแต่งงานทั้งที แต่จะให้ใช้ธีมสีชมพูก็ดูจะหวานเลี่ยนจนเกินไป และเป็นการไม่เกรงใจแขกที่ยังโสดอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นจึงควรปรับลดเฉดสีลงมาหน่อยให้กลายเป็นน้ำตาลอมชมพูแทน โทนสีที่ได้ก็จะออกนู้ด ๆ ไม่หวานจนเกินไป และก็ไม่หนักจนเกินไป ยิ่งถ้าหากเลือกดี ๆ ก็จะกลายเป็นสีพาสเทลที่ดูน่ารักกำลังดี เจ้าบ่าวเองก็ไม่ต้องกังวลกับการใส่สูทสีชมพูมากนัก
3.ธีมสีเทาอมฟ้า
การจะใช้ธีมงานแต่งให้เป็นสีเทาเพียงอย่างเดียวนั้น ก็คงจะทำให้งานดูทะมึนไปพอสมควร และทำให้งานดูเป็นแบบโบราณ จะวินเทจก็ไม่เชิง แต่ถ้าเพิ่มหรือไล่ระดับสีให้มีสีฟ้าเข้ามาประกอบด้วย ก็จะเพิ่มความแปลกและความสดใสให้กับงานมากยิ่งขึ้น
4.ธีมสีม่วงอ่อน
จะสีม่วงดอกไลแลค หรือสีม่วงลาเวนเดอร์ก็ใช้ได้ทั้งนั้น โทนสีม่วงได้รับความนิยมในงานแต่งมาตั้งแต่ปลายปี 2017 และยังฮิตต่อเนื่องมาจนถึงปี 2018 อีกด้วย ยิ่งถ้าหากแขกทุกคนแต่งตัวด้วยโทนสีม่วงกันหมด ก็ทำให้งานมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น เปรียบเสมือนยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกลาเวนเดอร์กันเลยทีเดียว
5.ธีมสีแดงพีช
สีแดงอ่อน ๆ จะทำให้เกิดบรรยากาศอบอุ่น พร้อมกับดูร้อนแรงอยู่เบา ๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความโรแมนติก เป็นอีกสีที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งถ้านึกไม่ออกว่าจะใช้สีอะไรดี
คู่แต่งงานคู่ไหนที่ยังคิดไม่ตกกับการเลือกใช้ธีมสี ก็ลองเอาทั้ง 5 สีนี้ไปพิจารณากันดู เพื่อที่คุณจะได้มีงานแต่งที่โดดเด่นไม่เหมือนใครนั่นเอง