คุณรู้จัก ‘ร่างกาย’ ของคุณดีแค่ไหน

คุณรู้จัก ‘ร่างกาย’ ของคุณดีแค่ไหน

คุณรู้จัก ‘ร่างกาย’ ของคุณดีแค่ไหน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การเตรียมความพร้อมและการรู้จักร่างกายของ คุณในแต่ละส่วน แต่ละวัย มีความจำเป็นอย่างมากต่อการมีชีวิตอยู่ของมนุษย์ จนมีผู้กล่าวว่า เมื่อสมองเป็นนายของร่างกายแล้ว ทำไมเราไม่ใช้สมองในการดูแลร่างกายให้ดีอยู่เสมอ

ร่างกายคนเราก็เหมือนกับรถยนต์ เราต้องตรวจสภาพทุกๆ 3 เดือน ต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ทุกปี ไฉนละเลยกับร่างกายที่ทำงานหนักกว่ารถยนต์หลายเท่า วันนี้เรามีข้อแนะนำสำหรับผู้ชายในแต่ละช่วงอายุเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับ โรคภัยที่อาจจะเกิดขึ้น

 

 

20-29 ปี : วัยแห่งการค้นหาและผจญภัย

อาจเป็นช่วงที่มีอิสระ และเป็นช่วงเวลาที่คุณคิดว่าแข็งแรงที่สุดในชีวิต สิ่งที่คุณต้องระวังคืออย่าใช้ร่างกายอย่างหักโหมจนเกินพอดี แต่ก็โชคดีที่ร่างกายของคนในวัยนี้ยังแข็งแรงและใช้เวลาในการฟื้นตัวไม่นาน หลังการเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ แต่ก็อย่าประมาทจนละเลยการดูแลร่างกายไป คุณควรตรวจสอบโรคที่อาจมาจากกรรมพันธุ์ โรคที่เกิดจากเพศสัมพันธ์ และความผิดปกติที่ตับซึ่งอาจเริ่มตรวจพบได้ในช่วงวัยนี้

30-39 ปี : วัยแห่งการทำงาน

อย่างที่รู้ๆ ว่าร่างกายของคนเราจะหยุดการเจริญเติบโตไปตั้งแต่อายุ 23-25 ปี ฉะนั้นวัยเลข 3 คือจุดเริ่มต้นของการเสื่อมโทรมของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ช่วงชีวิตนี้ของผู้ชายจะเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง งานใหม่ ความรับผิดชอบใหม่ การแต่งงาน มีลูก เวลาในการออกกำลังกายอาจจะมีน้อยลง แต่ก็ควรหาเวลาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพราะนอกจากจะทำให้คุณแข็งแรงแล้ว มันยังช่วยลดความเครียดซึ่งเป็นโรคร้ายที่รุมเร้าคนในวัยนี้อีกด้วย

การตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอมีความจำเป็นสำหรับวัยนี้ โดยเฉพาะระดับคอเลสเตอรอล ความดันเลือด และหากคุณยังโสด การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ปลอดภัยก็ทำให้คุณต้องตรวจหาเชื้อ HIV ทุกๆ 6 เดือน หากคุณสูบบุหรี่เป็นประจำควรเอกซเรย์ปอดทุกปี และที่สำคัญ วัยนี้เป็นวัยที่หนุ่มๆ แวะเวียนหาหมอฟันน้อยที่สุด แต่ต้องไม่ลืมขูดหินปูนและตรวจสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอ เพราะคุณคงไม่อยากใส่ฟันปลอมตอนอายุแค่ 40 แน่ๆ

 

 

40-49 ปี : ชีวิตเพิ่งเริ่มต้น

มันเป็นทั้งช่วงเวลาที่ดีและช่วงเวลาที่เลวร้ายของชีวิตก็ว่าได้ ผู้ชายในวัย 40 ปีคือช่วงเริ่มต้นของความสุขสบาย เริ่มประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีกลุ่มเพื่อนที่รู้ใจ การมองดูลูกๆ ของคุณเริ่มโตก็เป็นรางวัลในชีวิตของคุณอย่างหนึ่ง

ทว่าในเวลาเดียวกันคุณก็พบว่าคุณในวัยนี้ มักโหยหาความตื่นเต้นให้กับชีวิต อยากทำอะไรแปลกใหม่ คุณอาจเริ่มคิดถึงการมีบ้านเล็กบ้านน้อย อาจไม่สนใจคัมรี่เท่าฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน และสนุกกับการสังสรรค์จากเงินที่คุณหามาได้อย่างยากลำบากเมื่อวัยหนุ่ม สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วเป็นสิ่งที่คุณต้องระวังใจของตัวเองให้ดี

การใช้ชีวิตจนลืมความพอดีอาจเป็นหนทางสู่ความหายนะ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ต้อง หาเวลาออกกำลังกายอย่างจริงๆ จังๆ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 45 นาที ตรวจร่างกายให้ถี่ขึ้นเพื่อเช็กระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งคุณอาจพบว่าคุณกำลัง จะเป็นเบาหวาน ตรวจวัดความดันและระดับคอเลสเตอรอลอย่างสม่ำเสมอ เพราะตามสถิติทางการแพทย์ ช่วงวัย 40-50 ปี เป็นช่วงอายุที่มีอัตราเสี่ยงของอาการหัวใจวายมากที่สุด

นอกจากนั้น ควรเริ่มกินวิตามินเสริมต่างๆ เช่น แคลเซียม วิตามินซี วิตามินบีรวม และการตรวจหามะเร็งก็เป็นสิ่งจำเป็นมากในวัยนี้เพื่อการรักษาที่ทันท่วงที

50-59 ปี : ดูแลตัวเอง

คุณต้องยอมรับได้แล้วว่า ร่างกายคุณไม่ได้หนุ่มแน่นเหมือนเดิม คุณอาจมีหลานตัวเล็กๆ ที่เริ่มเรียกคุณว่าคุณปู่หรือคุณตา แต่แน่นอนว่าไม่จำเป็นที่คุณต้องทำตัวเป็นคนแก่หมดอาลัยตายอยากอยู่ที่บ้าน คุณยังสามารถทำอะไรได้เหมือนคนหนุ่ม ทว่าคุณต้องรู้จักขอบเขตของร่างกายว่าทำได้แค่ไหน

ฮอร์โมนในร่างกายคุณอาจเริ่มแปรปรวน และมีปัญหา แต่การเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในร่างกายก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ใครก็ต้องเจอ ทั้งผู้ชายและผู้หญิงโดยเฉพาะคุณผู้ชายซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้าครอบครัว คุณอาจต้องดูแลความรู้สึกของภรรยาของคุณด้วยซึ่งน่าจะเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับ การแปรปรวนของฮอร์โมนเช่นเดียวกันกับคุณ

การไปพบแพทย์อาจเป็นกิจกรรมยามว่างที่คุณจะทำเหมือนกับการเดินเล่นในสวน คุณอาจมียาที่ต้องกินเป็นประจำ ซึ่งคุณก็ควรต้องรักษาวินัยนี้อย่างเคร่งครัด หากต้องการจะอยู่ดูหลานไปนานๆ เคล็ดลับสำคัญคืออย่าประมาท อย่าคิดว่าร่างกายของคุณแข็งแรง อย่าคิดว่าคุณสามารถ กินได้ทุกอย่างเหมือนตอนหนุ่มๆ เพราะอย่าลืมว่าคุณน่ะ 50 แล้ว !

ประการสำคัญอีกอย่างก็คือ เรา ขอแนะนำให้คุณปิดทีวีเสียบ้าง ออกไปทำกิจกรรมที่หลากหลายและท้าทายสมองให้ได้ออกกำลังเพื่อป้องกันโรคสมอง เสื่อมซึ่งเกิดขึ้นเพราะคุณทำกิจกรรมอะไรซ้ำๆ จนเกินไป มันคงไม่ดีแน่หากคุณมาพลาดพลั้งเป็นอะไรในช่วงบั้นปลาย และต้องนอนแอ้วแซ่วรอวันตาย

ฟังดูอาจจะยุ่งยากสักนิด และชีวิตก็ไม่เคยมีอะไรง่าย แต่เราคิดว่ามันคงไม่ยากเกินไป หากคุณจะเอาจริงกับการดูแลร่างกาย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook