9 วิธี พา 'คนโสด' ก้าวข้าม 'วันวาเลนไทน์' ให้รอด
โสดในวันวาเลนไทน์ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องพบกับความเศร้า หรือแรงกดดันต่างๆ รอบตัว เพราะคุณสามารถก้าวผ่านวันแห่งความรักที่รอบตัวมีแต่สีชมพูไปได้ ด้วยการหันมาสนใจตัวเองและทำให้ตัวเองมีความสุข ซึ่งมีหลายกิจกรรมที่เพียงคนเดียว ก็สามารถทำได้ แม้จะเป็นวันแห่งความรักก็เถอะ
14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก หรือวันวาเลนไทน์ เป็นวันที่ทุกคนมอบความรักให้แก่กันและกัน เป็นวันที่หลายคนรอคอย เพราะจะมีการมอบของขวัญแทนใจให้กันสำหรับคู่รักวัยหนุ่มสาว
สำหรับคนโสดที่ไม่อยากทำตัวเหงาๆ หรืออิจฉาตาร้อนไปกับบรรดาคู่รักอื่นๆ เขา ขอแนะนำวิธีง่ายๆ สำหรับพิชิตวันแห่งความรักนี้
1. ขุดภาพยนตร์มาดูแบบมาราธอน คัดเอานักแสดงที่ชื่นชอบดูแล้วฟินข้ามวันข้ามคืน ผ่านวันแห่งความรักไปแบบมีความสุขได้ใกล้ชิดนักแสดงที่ตัวเองปลื้ม
2. ออกจากบ้านไปช้อปปิ้ง แทนที่จะเอาเงินเก็บไปใช้จ่ายกับคนอื่น เดินเข้าห้างหาซื้อเสื้อผ้าเป็นของขวัญให้กับตัวเอง ยิ่งถ้าวันนั้นห้างมีลดราคาด้วยแล้ว รับรองได้ว่าคุณจะมีความสุขกับการเดินช้อปอย่างแน่นอน
3. เข้าสปา นวดหน้า ขัดตัว ทำเล็บ ให้เวลากับตัวเองได้รับการปรนนิบัติเยี่ยงคุณหญิงคุณนายสักวัน ให้ความสุขกับตัวเอง ผ่อนคลายหลังการทำงานหนัก ตามวิถีคนโสด
4. รวมตัวเพื่อนโสดออกเที่ยว วางแพลนล่วงหน้า จัดทริปรวมคนโสด เที่ยวให้คนมีคู่ ดูว่าคนโสดก็มีความสุขได้
5. ปิดอุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ งดรับข่าวสารความเป็นไปของคนมีคู่ในโลกโซเซียล ที่ต่างคนต่างโพสต์อวดรูปคู่ รูปกิจกรรมที่ทำร่วมกันในวันแห่งความรัก อย่าให้รูปเหล่านั้นมาทำให้ตัวเองเศร้าหมอง
6. ทำกิจกรรมอะไรก็ได้ที่คนรักเก่าของคุณเกลียด ถือเป็นการแก้แค้นวิธีหนึ่ง และทำตัวเองให้รู้สึกดี
7. หาคอร์สเรียนระยะสั้นๆ ที่ใช้เวลา 1 วันจบ เช่น คอร์สเรียนทำอาหาร หรือ คอร์สงานฝีมือง่ายๆ ที่ไม่ต้องใช้ทักษะขั้นสูงอะไรมากนัก ถือเป็นการเพิ่มความรู้และทักษะให้ชีวิตได้มีติดตัวไว้ ถือเป็นการใช้เวลาว่างในวันแห่งความรักให้เกิดประโยชน์ได้อีกทางหนึ่ง
8. เข้าร้านเสริมสวยปรับเปลี่ยนลุคของตัวเองใหม่ เพื่อต้อนรับสิ่งดีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต คนไหนที่ผมยาวอยู่อาจลองตัดผมให้สั้นลง หรือ เปลี่ยนสีผมใหม่ให้หลายๆ คนทักไปเลย เหมือนสำนวนไทยที่ว่า "ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง"
9. อย่าเอาชีวิตโสดของตัวเองไปเปรียบเทียบกับชีวิตรักของคนอื่น เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าแล้ว ยังทำให้จิตใจห่อเหี่ยวอีกด้วย คิดหาข้อดีของการอยู่คนเดียวว่าทำให้ตัวเราเป็นสุขกว่าการมีคู่แค่ไหน อย่าจมอยู่กับอดีตที่เจ็บปวด ก้าวผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายนี้ให้ได้ อย่าลืมว่ายังมีครอบครัวที่คอยเป็นกำลังใจให้กับคุณได้
นอกจากสิ่งที่แนะนำข้างต้นแล้ว นพ.อภิชาติ จริยาวิลาศ โฆษกกรมสุขภาพจิต ยังแนะนำคนโสดโดยเฉพาะวัยรุ่นให้รับมือในวันแห่งความรักนี้ ว่าความรักไม่จำเป็นต้องเป็นความรักระหว่างหนุ่มสาวเสมอไป ความรักมีได้หลายรูปแบบ ทั้ง รักพ่อแม่ รักพี่น้อง รักเพื่อน เป็นต้น ที่สำคัญต้องหันมารักตัวเอง หาข้อเสียในตัวเองแล้วพัฒนาตรงจุดนี้ให้ดีขึ้น เพราะการรักตัวเองเป็นพื้นฐานที่ทำให้เรารักคนอื่นได้ดีขึ้น
ส่วนใครที่มีคนรักอยู่แล้วก็ต้องแยกให้ออกระหว่างความรักกับเพศสัมพันธ์ ต้องรู้จักป้องกัน และต้องปลอดภัยด้วย ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะรักหรือมีแฟน แต่ต้องรู้จักวิธีเท่านั้น
สำหรับที่มา 'วันวาเลนไทน์' มาจากวันเสียชีวิตของนักบุญวาเลนไทน์ หรือเซนต์วาเลนไทน์ นักบุญแห่งความรัก ผู้ริเริ่มการจัดงานแต่งงานในยุคที่ไม่นิยมให้แต่งงานกัน เหตุเพราะในช่วงนั้น กรุงโรม ต้องประสบกับสงคราม จักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง ต้องการเกณฑ์คนไปรบ แต่มีบุคคลจำนวนมากที่มีครอบครัว มีภรรยา มีคนรัก ต่างไม่อยากจะทิ้งครอบครัวไป ทำให้ จักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง ตัดสินใจให้ยกเลิกการแต่งงานและการหมั้นทั้งหมดของชาวโรมันในยุคนั้น
ขณะที่ นักบุญวาเลนไทน์กลับสวนกระแสของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง ชักชวนคู่รักมาแต่งงานหลายต่อหลายคู่ จนโดนจับตัวไปขังเอาไว้ และในคุกที่คุมขังนักบุญวาเลนไทน์นั้น เขาได้พบรักกับสาวตาบอดนางหนึ่ง เมื่อโดนจับได้ นักบุญวาเลนไทน์จึงถูกนำตัวไปประหารในวันที่ 14 ก.พ. และต่อมาวันดังกล่าวจึงกลายเป็น 'วันวาเลนไทน์' วันที่ผู้คนจะรำลึกถึงนักบุญผู้อุทิศตนให้ความรักนั่นเอง