ลมพัดยังไม่กระดิก! 'ทรงผมแม่การะเกด' และตัวละครผู้หญิง จากเรื่องบุพเพสันนิวาส

สืบเนื่องมาจากเรื่องราวของ 'สีลิปสติกของการะเกด' จากละครพีเรียดทางช่อง 3 ที่นาทีนี้ ไม่มีใครไม่รู้จักอย่าง 'บุพเพสันนิวาส' เมื่อสัปดาห์ก่อน อาจยังไม่เพียงพอกับกระแส 'บุพเพสันนิวาสฟีเวอร์' และดีเทลของละครเรื่องนี้ โดยเฉพาะเรื่องการแต่งองค์ทรงเครื่อง ตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำให้มีเรื่องน่ารู้มากสิ่งที่เราอยากเสิร์ฟสาวๆ กันต่อเนื่อง 

เพราะการเติมสาระหาเกร็ดความรู้มาประดับเพิ่มเติม อาจช่วยให้ออเจ้าทั้งหลายอินกับละครเรื่องนี้มากขึ้นก็เป็นได้ หรืออย่างน้อยๆ จะได้ไม่ต้องสงสัยและขัดใจกับทรงผมจอนผมข้างหูสุดแข็งทื่อ ที่เห็นแล้วอยากยื่นกรรไกรเข้าไปตัด ใช่แล้ว! วันนี้เป็นคิวของทรงผมตามแบบฉบับสตรีในยุคอยุธยา กับชื่อเรียกที่ถูกต้องของแต่ละทรงนั่นเอง

www.phahurat.com

โดยหนึ่งในช่างทำผมประจำกองถ่ายบุพเพสันนิวาสก็คือ @ingza_hairstylist ซึ่งนี่แหละบุคคลผู้อยู่เบื้องหลังทรงผมสุดเป๊ะของตัวละครในเรื่องนี้ ส่วนใครจะโวยว่าทรงผมไม่ถูกใจบ้าง ทำแล้วดูตลกบ้าง งานนี้ ต่อว่าใครไม่ได้นะจ๊ะ เพราะทรงผมแต่ละทรงล้วนมีชื่อเรียกและที่มาทั้งนั้น ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสไตลิสต์ ช่างแต่งหน้า ช่างทำผมประจำกองถ่าย ต้องทำการบ้านมาอย่างดี ไม่ใช่จะตีกระบังหรือปล่อยปอยผมตามใจชอบได้ซะทีไหนกัน

ช่างทำผมประจำกองถ่าย

เริ่มด้วยผมสุดเป๊ะปาดเรียบเกล้าขึ้นคล้ายผมดังโงะในปัจจุบันของ 'แม่หญิงจันทร์วาด' กับทรงผมที่ในสมัยนั้นเรียกว่า 'โซงโขดง'

นับตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นต้นมา ที่ไม่ว่าหญิงหรือชายก็มักไว้ผมยาวและเกล้าเป็นมวนอยู่กลางศีรษะอยู่แล้ว ซึ่งสำหรับแม่หญิงจันทร์วาด ไฮโซสาวในสมัยอยุธยา เธอจึงมักเกล้าผมบนกระหม่อม และรัดด้วยห่วงมีเกี้ยว

หลังจากอยู่เรือนพ่อเดชมาได้สักพักแม่การะเกด ก็มักทำแสกกลาง หรือที่เรียกว่าทรงผมมหาดไทย

จริงๆ แล้ว ผมทรงมหาดไทยเป็นทรงผมของผู้ชายที่ต้องโกนผมรอบศีรษะ เหลือไว้เพียงตรงกลางศีรษะและทำการแสกกลางเป็นรูปปีกนก แต่ในสมัยอยุธยา หญิงสาวสามัญนิยมทำผมทรงนี้ เผื่อถึงเวลาต้องปลอมตัวเป็นชาย เพื่อหลบหนีข้าศึก จะได้ทำได้อย่างสะดวกนั่นเอง แต่ด้วยความที่รักสวยรักงามจึงมีการไว้ผมยาว หรือปล่อยปอยผมออกมาด้วยนั่นเอง

ทรงผมที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากของ 'คุณหญิงจำปา' ซึ่งเรียกว่า 'ทรงผมปีก' 

สำหรับคุณหญิงจำปา แม่ของพ่อเดช ซึ่งมักปรากฏตัวมาพร้อมผมปีก ที่เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาลากยาวมาถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นการจัดแต่งทรงผมด้วยการเสยผมตรงกลางขึ้น และหวีผมด้านข้างปาดไปด้านหลัง และไว้ปอยผมยาวกว่าคาง และมีการใช้น้ำมันมารีดจอนผมให้ตั้งตรง ซึ่งนิยมทำมาถึงราวรัชกาลที่ 5 กรุงรัตนโกสินทร์ เพราะช่วงสมัยในหลวงรัชกาลที่ 5 ได้มีการยกเลิกทรงผมปีก เพื่อให้ทัดเทียมนานาประเทศ ก่อนกลายเป็นดอกกระทุ่มในเวลาต่อมา

การะเกดกับทรงเกล้ามวยทัดดอกไม้ ช่วงต้นเรื่อง

หลายคนสงสัยว่าทำไมช่วงต้นเรื่องการะเกดถึงทำผมทรงนี้ เหตุผลก็คือ การะเกดมีเชื้อสายล้านนานั่นเอง ซึ่งทั้งการแต่งกายและทรงผมเป็นการสื่อให้รู้ว่าเธอมีเชื้อสายมาจากทางไหน ในที่นี้ รวมไปถึง อีผินกับอีแย้มด้วยเช่นกันที่แต่งตัวเป็นบ่าวและมวยผมแบบผู้สาวทางเหนือ โดยการะเกดตอนแรกๆ จะเกล้าผมด้วยการมวยขึ้นแบบไม่สูงมาก และนิยมประดับด้วยพวกมาลัยดอกไม้ทั้งหลาย และต่อมาตัวละครที่ชื่อการะเกดจึงค่อยเป็นทั้งการแต่งกายและทรงผมเป็นแบบหญิงสาวอยุธยานั่นเอง