เมื่อ 'ความเป็นหญิง' มีอิทธิพลต่อ 12 ชีวิตคนดัง
กว่าประวัติศาสตร์โลกจะเดินทางมาถึง ณ ปัจจุบัน เพศหญิงในอดีต (หรือแม้แต่ในปัจจุบัน) ต่างผ่านการถูกกดขี่ เรียกร้อง และต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม (equality) มานับครั้งไม่ถ้วน และเนื่องในวันสตรีสากล (8 มีนาคม ของทุกปี) ที่จะถึงนี้ สิ่งที่ผู้หญิงยุคใหม่อย่างเราพึงรู้ไว้ คงไม่ใช่แค่การท่องจำประวัติศาสตร์แค่ว่า...
"วันสตรีสากล (International Women's Day) ตรงกับวันที่ 8 มีนาคม ของทุกปี (อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ) เป็นวันที่มีการประท้วงของแรงงานหญิง ณ เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา กรรมกรสตรีในโรงงานทอผ้าได้ลุกฮือขึ้นเดินขบวนประท้วงการเอาเปรียบ กดขี่ ขูดรีด ทารุณ จากนายจ้างที่เห็นผลผลิตสำคัญกว่าชีวิตคน"
ไม่เพียงเท่านั้น เพราะในความเป็นจริง เราจำเป็นต้อง 'ทำความเข้าใจ' มากกว่าแค่การรับรู้ เพราะยังมีอีกหลายเหตุการณ์ในอดีตที่ควรค่าแก่การจดจำและทำความเข้าใจทั้งสิ้น หากมีใครบางคน บางกลุ่ม ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมทางเพศ และก้าวข้ามสังคม 'ชายเป็นใหญ่' หรือเพศสภาพ (Gender) ไปได้สักวันหนึ่ง แม้เส้นทางจะอีกแสนไกลก็ตาม ซึ่งเราเองไม่ว่าเพศไหนก็ตาม ควรตระหนักในประเด็นนี้ให้มากขึ้น
เอาเป็นว่าเราคงจะไม่ร่ายประวัติศาสตร์ที่อาจทำหลายคนง่วงเหงาหาวนอนไปเสียก่อน เพราะเนื่องใน 'วันสตรีสากล' ปีนี้ Sanook! Women อยากพาทุกคนมาสำรวจความคิดของเหล่าคนดังและอินฟลูเอนเซอร์ในบ้านเรากันว่า พวกเขามอง 'ความเป็นหญิง' อย่างไร ความเป็นหญิงมีอิทธิพลต่อชีวิตพวกเขามากน้อยแค่ไหน หรือผู้หญิงคนไหนมีอิทธิพลกับชีวิตพวกเขา เพื่อจะได้รู้ว่าความหวังแห่งความเท่าเทียมทางเพศในสังคมไทยนั้น เป็นเพียงแสงริบหรี่หรือใกล้ความจริงมากขึ้นทุกที
เริ่มกันที่ บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทยที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในวงการการต่อสู้ระดับสากล ที่ขอยกให้คุณแม่เป็นผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในชีวิต
"แม่ให้ทั้งความรัก เลี้ยงดู และสั่งสอนจนเราเติบโตมาได้ เเละสอนให้ผมรู้จักคำว่าอดทน หมั่นเพียร และแม่คือผู้หญิงที่สอนให้เรารู้จักรักแท้ครับ" บัวขาวกล่าว
ส่วน ทอย The Toys นักร้องนักดนตรีสายอินดี้ วัย 22 ปี ก็ขอยกให้คุณแม่เป็นผู้หญิงที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
thetoysthetoysthetoys
"คุณแม่คือผู้หญิงที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผม และผมว่าคำถามมันตอบตัวมันเองอยู่แล้ว ถ้าไม่มีแม่ จะมีเราในวันนี้ได้อย่างไร อิทธิพลในเรื่องของการฟังเพลงและเติบโตมาด้วยเสียงเพลง ผมก็ได้รับมาจากคุณแม่ครับ"
เหมือนกับ แอมมี่ The Bottom Blues นักร้อง นักแต่งเพลงขวัญใจสาวๆ ก็ยกให้ผู้หญิงที่ใกล้ชิดเขาเป็นผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในชีวิต
ammybottomblues
"ผมเติบโตมากับคุณแม่และพี่สาว ผมจึงได้รับอิทธิพลการฟังเพลงมาจากพวกเขา และผู้หญิงที่มีอิทธิพลคนล่าสุด ก็เป็นผู้หญิงที่ผมเคยผูกพันด้วย เขาเคยอยากให้ผมปรับปรุงตรงนู้นตรงนี้ จนวันหนึ่งที่เราเลิกรากันไป และเราก็ได้มีโอกาสแก้ไขปรับปรุงตัวเองเป็นจุดๆ ผมว่ามันเป็น Power ของผู้หญิงจริงๆ นะที่ทำให้เรายอมเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง"
เช่นเดียวกับ ก็อต - อิทธิพัทธ์ ฐานิตย์ หนุ่มนักแสดงหน้าเกาหลีที่ยกให้คุณแม่เป็นผู้หญิงที่ทรงอิทธิพล ด้วยเหตุผลที่ว่า "เพราะแม่ก็คือแม่ เพราะเขาเป็นคนเลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เล็กจนโต และเวลาเราเจอผู้หญิงเราจะให้เกียรติเขา และผมไม่มีทางกดขี่ผู้หญิง หรือทำให้เขารู้สึกต่ำต้อย เพราะผมรักคุณแม่ครับ”
gxxod
สำหรับ ป๋าเต็ด - ยุทธนา บุญอ้อม ผู้ชายผู้อยู่เบื้องหลังงานคอนเสิร์ตและเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ของไทยมากมาย ก็เปิดเผยว่าผู้หญิงนี่แหละคือเบื้องหลังความสำเร็จของเขาตั้งแต่เด็กจนโต
Yuthana Boonorm
"ตลอดชีวิตของผม ผู้หญิงมีอิทธิพลต่อชีวิตผมมาโดยตลอด ตอนเด็กๆ ส่วนใหญ่ผมจะอยู่กับคุณป้า ซึ่งทำร้านเบเกอรี่ ลูกน้องก็เป็นผู้หญิง พอทำงานเจ้านายคนแรกก็เป็นผู้หญิง คือ พี่เล็ก - บุษบา ดาวเรือง คนต่อมาก็คือพี่ฉอด - สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ดังนั้น สิ่งที่ผมถูกพร่ำสอนในเรื่องการทำงาน ก็ได้เรียนรู้มาจากเจ้านายผู้หญิง และพอได้แต่งงาน ซึ่งก็เป็นการเปลี่ยนชีวิตผมอยู่แล้ว ยิ่งพอมีลูกผู้หญิง ผมจึงต้องเรียนรู้ที่จะโอนอ่อนบ้าง เข็มแข็งบ้าง และลูกสาวก็ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปในหลายๆ มุม พอเขาโตขึ้น เขายังเป็นแหล่งข้อมูลในการทำงานของผมอีกด้วย"
ทั้งป๋าเต็ดยังทิ้งท้ายว่า "ถ้าขาดผู้หญิงไปแล้ว ผมนึกไม่ออกจริงๆ ว่าผมจะอยู่อย่างไร"
ส่วน โอ๊ต - ปราโมทย์ ปาทาน นักร้องและเอ็นเตอร์เทนเนอร์แห่งยุค บอกว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อยู่รอบตัวเขาและทำให้โลกนี้ทั้งสวยงามและสมดุล
oatpramote
"ผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลสำหรับผมคือ คุณแม่ที่สอนให้เราเคารพและให้เกียรติผู้หญิง และสำหรับผม คุณแม่เป็นคนที่เลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียวมาตลอด จึงเป็นเหตุผลที่เราเคารพท่าน และท่านก็มีอิทธิพลต่อเรามาก"
"ผมว่าความเป็นผู้หญิงมันอยู่กับเรารอบๆ ตัวเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นแฟนเพลง เด็กที่ตามเชียร์ มันเป็นความอ่อนโยนที่ทำให้เรารู้สึกว่าโลกนี้สวยงาม มันก็เหมือนหยินกับหยางอะครับ ผู้ชายก็มีความแข็งกระด้าง ผู้หญิงก็มีความอ่อนโยน ฉะนั้น ทั้งสองอย่างจึงไปด้วยกันได้ดีด้วย"
สำหรับ หมอดูต๊อกแต๊ก หมอดูเงินล้านเองก็ได้รับอิทธิพลจากผู้หญิงมาเต็มๆ
Toktak A4
"ตั้งแต่วันที่สูญเสียคุณพ่อไป คุณแม่ต้องสู้อดทน เลี้ยงดูเราอย่างดี ที่สำคัญเลี้ยงด้วยความเข้าใจ และยังมีความคิดที่ทันสมัยในการเลี้ยงดูเรา ไม่ว่าเราจะเป็นแบบไหน เพศของเราไม่ใช่ปัญหาเลย เราเป็นสาวประเภทสอง ไม่ใช่เพราะครอบครัวมีปัญหา แต่เพราะเราเกิดมาก็รู้ตัวเลย ทั้งคุณแม่และคุณยายต่างยอมรับและเข้าใจ ดังนั้น ผู้หญิงทั้งสองคนนี้ ทรงอิทธิพลกับชีวิตแม่หมอมาก"
"ส่วนความเป็นผู้หญิง ก็ได้จากทั้งแม่และยาย ที่ทำให้เราค่อยๆ เรียนรู้การเป็นผู้หญิงที่รู้จักวางตัว รู้จักที่จะสรรหาสิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง และนอกจากนี้ สิ่งที่ส่งผลให้ตัวแม่หมอเองที่รู้สึกว่ามีค่า นั่นคือ จิตใจที่รู้จักการให้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน"
มาต่อกันที่ จ๊ะ อาร์สยาม หนึ่งในผู้หญิงที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และมีความมั่นใจในตัวเอง แต่เธอก็ยอมรับว่าแม่มีอิทธิพลต่อเธอมากเช่นกัน
Rsiam Music
"แม่มีอิทธิพลที่สุด เพราะเราเป็นคนรักพ่อแม่อยู่แล้ว เวลาแม่สั่งหรือแม่พูดอะไร เราก็จะเชื่อฟัง ถึงอาจจะไม่ฟังหรือไม่ชอบบ้าง แต่เราก็ต้องทำตาม"
ส่วนถ้าถามว่าความเป็นหญิงกระทบอะไรกับสาวจ๊ะหรือไม่? เธอตอบว่า "ไม่ส่งผลกระทบเลย เพราะต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างความคิด แต่ถ้าจะกระทบกับเราจริงๆ ในบางเรื่องก็คงเป็นแม่ ที่เราต้องทำตาม"
ส่วนเมนเทอร์สายนางฟ้าประจำรายการ The Face 4 All Star อย่าง ศรีริต้า เจนเซ่น ผู้หญิงเก่งที่มีความอ่อนหวานและความเป็นหญิงสุดๆ เปิดเผยกับเราว่า
sriritajensen
"สำหรับริต้าเอง ริต้ารักความเป็นผู้หญิงในตัวเองมากๆ เพราะผู้หญิงเป็นเพศที่มีเสน่ห์มากๆ และความเป็น 'feminine' คือบุคลิกของผู้หญิงที่เสน่ห์ เพราะผู้หญิงถูกสร้างมาให้มีจริต มีความประดิษฐ์ มีความสวยงาม ริต้ามองว่าผู้หญิงเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ทั้งแฟชั่นหรือรูปลักษณ์ ที่สำคัญริต้ามองว่าผู้หญิงไม่ได้มีความเก่งน้อยไปกว่าผู้ชายเลย เราสามารถเป็นผู้นำได้ ทั้งการเมือง ธุรกิจ หรือบันเทิง ก็มีให้เห็นตั้งหลายคน และถ้าเปรียบเทียมผู้หญิงเป็นอาวุธก็เป็นอาวุธที่คมมากเลยค่ะ"
เธอยังบอกอีกว่าในแวดวงธุรกิจไทย ยังมีผู้หญิงเก่งอีกมากมาย ที่เป็นตัวการในการขับเคลื่อนธุรกิจ ที่ไม่ใช่แค่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่เขายังทำให้ธุรกิจไทยไปโตได้ที่ต่างประเทศจริงๆ แต่พวกเขาเหล่านั้นนี่แหละ คือแรงบันดาลใจของสาวริต้า
สำหรับ น้องฉัตร ช่างแต่งหน้าที่เริ่มจากการเป็นช่างแต่งหน้าราคา 10 บาท สู่ช่างแต่งหน้าหลักแสน เขาก็บอกกับ Sanook! Women ว่าเขามีไอดอลเป็นผู้หญิงที่เป็นแรงบันดาลใจในการทำงานด้วย
"ผู้หญิงที่มีอิทธิพลกับน้องฉัตรมากที่สุด มี 2 คน คือ พี่อั้ม พัชราภา และพี่แพรี่พายครับ เพราะพี่อั้มมีทั้งความเป็นซูเปอร์สตาร์และการวางตัวเป็นคนธรรมดาในการใช้ชีวิตประจำวัน ที่ไม่ได้ยึดติดความเป็นดาราดัง ส่วนพี่แพรี่พาย เราคิดว่าเขาเป็นไอดอล เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับวัยรุ่นครับ และเขารักในเมคอัพและแฟชั่น ซึ่งพี่แพรี่พายสามารถนำเอามาปรับใช้และนำเสนอได้อย่างดี"
นอกจากนี้ "น้องฉัตรมีความเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนมีความเก่งอยู่ในตัว บวกกับความอ่อนหวาน เราจึงมองว่าผู้หญิงในยุคสมัยใหม่ ไม่ใช่แค่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไป แต่ทุกคนมีความเท่าเทียมกันหมด มันไม่ใช่ว่าใครเป็นเพศอะไร หลายคนชอบมองว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ แต่ในปัจจุบัน ผู้หญิงสามารถใช้ความเก่งที่ร่ำเรียนมา นำมาทำให้ตัวเองเก่งขึ้นได้ บวกกับช่องทางในการแสดงออกก็มากขึ้น อย่างบนโซเชียลมีเดีย ดังนั้น เราจะเห็นว่าผู้หญิงยุคใหม่มีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น"
และความเป็นหญิงในมุมองของวิชาการอย่าง รองศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและนักสื่อสารวิทยาศาสตร์นั้น ได้บอกเล่ามุมมองเกี่ยวกับผู้หญิงของนักวิทยาศาสตร์ให้เราฟังว่า
"ผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดก็คือ มารี กูว์รี เพราะเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการทำวิจัย และเขาได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้ง ทางด้านฟิสิกส์และเคมี มาจากการที่เขาค้นพบธาตุที่ชื่อว่า เรเดียม (Radium) ซึ่งเป็นประโยชน์ที่เรานำมาต่อยอดในปัจจุบัน แต่ในการค้นพบหรือวิจัยของเขาทำให้เขาได้รับผลกระทบและเสียชีวิตไป ซึ่งผมมองว่ามารี กูว์รี คือตัวอย่างที่ดีมากๆ เพราะเขาเกิดมาในยุคที่ผู้หญิงไม่ควรจะเรียนหนังสือสูงๆ หรือออกมาทำงาน และควรทำงานบ้านเฉยๆ แต่เขาก็ต่อสู้อย่างหนัก และประสบความสำเร็จมาได้"
และอาจารย์เจษฎ์ยังบอกอีกว่า “ผมว่าปัจจุบันผู้หญิงมีผลต่อสังคมโลกมากขึ้น และมีศักยภาพในการทำงานทุกอย่างได้ไม่แพ้ผู้ชายเลย ไม่ว่าเป็นทางด้านวิชาการ การเมืองการปกครอง เศรษฐศาสตร์ ธุรกิจ หรือกีฬา และอิทธิพลนี้ ก็น่าจะส่งผลกับประเทศไทยมากขึ้น เพราะในอดีตเราไม่ค่อยให้น้ำหนักกับเพศหญิงสักเท่าไหร่ แต่ในปัจจุบันก็มีมากขึ้น รวมไปถึงเพศอื่นๆ ด้วย"
ปิดท้ายด้วย มารีญา พูลเลิศลาภ ผู้ครองตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 ที่ยกให้ มารี กูว์รี เป็นหนึ่งในผู้หญิงทรงอิทธิพลสำหรับเธอ เหมือนกับอาจารย์เจษฎ์เช่นกัน
Miss Universe Thailand
มารีญาเล่าให้เราฟังว่ามีผู้หญิงหลายคนที่มีอิทธิพลกับตัวเธอ ตั้งแต่คุณแม่ คุณครู หรือใครก็ตามที่ได้พบเจอในชีวิตประจำวัน เพราะเธอมองว่าเธอสามารถดึงข้อดีของผู้หญิงที่พบเจอในชีวิตมาปรับใช้กับตัวเอง นอกจากนี้ ยังมีมารี กูว์รี ที่เป็นแรงกระตุ้นให้เธอรักที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ที่ทำให้เธอเห็นว่าคนๆ เดียวก็สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคม ในที่นี้คือชุมชนคลองเตย และหากถามว่าความเป็นหญิงส่งผลอะไรกับนางงามอย่างมารีญาหรือไม่ เธอก็ตอบว่า
"ด้วยความที่คุณพ่อกับคุณแม่ของมารีญา เลี้ยงดูมาแบบไม่ได้ห้ามเราไม่ให้ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้เพียงเพราะเราเป็นผู้หญิง มารีญาจึงค่อนข้างโชคดีที่ไม่มีความคิดแบบนั้น (ความไม่เท่าเทียม) แต่พอเราได้เติบโตขึ้น เราจึงรู้ว่ามีบางสิ่งที่เราถูกห้ามทำ เพราะเราเป็นผู้หญิง และเหตุการณ์ที่ชัดเจนมากที่สุด ก็คือตอนที่มารีญาไปโมร็อคโค เมื่อ 3 ปีก่อน มารีญาขึ้นแท็กซี่ แต่คนขับแท็กซี่ไม่ให้มารีญาพูดเลย เพราะเราเป็นผู้หญิง ต้องให้เพื่อนมารีญาพูดเท่านั้น จุดนั้น ทำให้เรารู้สึกว่าความเป็นผู้หญิงมันมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น เวลาเดินอยู่ในสถานที่บางแห่งแล้วเรารู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ควรเป็นแบบนี้
แต่สังคมที่มารีญาอยู่ มันไม่ค่อยส่งผลกระทบสักเท่าไหร่ แต่ก็มีหลายที่ในโลกนี้ ที่ผู้หญิงยังไม่มีความเท่าเทียมกันเท่าผู้ชายค่ะ"
อย่างไรก็ตาม แม้คนดังแต่ละคนจะมีไอดอลหรือได้รับอิทธิพลจากความเป็นหญิงแตกต่างกันไป แต่สำหรับตัวคุณล่ะ ทุกวันนี้คิดว่าตัวเองให้น้ำหนักกับความเท่าเทียมมากน้อยแค่ไหน อาจจะไม่ต้องเดินขบวนประท้วงเรียกร้องสิทธิให้เพศหญิง เพียงแต่วันนี้ เราคงต้องถามตัวเองดูบ้างว่า เราเลิกดูถูกเพศเดียวหรือตัวเองกันหรือยัง ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องไม่ลืมให้เกียรติผู้อื่นไม่ว่าจะเพศไหนด้วยเช่นกัน