3 นิสัยสตรีไทยที่เปลี่ยนแปลงไป จากสมัยอโยธยาถึงปัจจุบัน

3 นิสัยสตรีไทยที่เปลี่ยนแปลงไป จากสมัยอโยธยาถึงปัจจุบัน

3 นิสัยสตรีไทยที่เปลี่ยนแปลงไป จากสมัยอโยธยาถึงปัจจุบัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สวัสดีเจ้าค่ะ ออเจ้าทั้งหลาย หลังจากที่ข้าและสหายอินกับแม่การะเกดเสียเหลือเกิน ก็มานั่งถกกันว่า นิสัยของสตรีไทยในยุคอโยธยานั้น มีความต่างอย่างมากกับสตรีไทยยุค 4.0 แต่จะต่างเรื่องกระไรบ้างนั้น ขอเชิญออเจ้าตามมาอ่านเพื่อความหฤหรรษ์ เพราะข้าได้แทรกเรื่องราวแซ่บๆ ผสมผสานเอาไว้ด้วยเจ้าค่ะ

1.สตรีสมัยก่อนต้องรักนวล ส่วนชะนี 4.0 รักที่จะเคลม

ใครที่เป็นแฟนละคร บุพเพสันนิวาส จะเห็นว่ามีฉากที่ท่านหมื่นเอ็ด แม่การะเกดที่โบกไม้โบกมือให้ทหารในพระนคร หรือหาว่าแม่หญิงการะเกดชะม้ายชายตาให้หมื่นเรือง เป็นเรื่องที่ผิดวิสัยของหญิงไทยในอโยธยา แล้วคิดดูสิเจ้าคะ ว่าท่านหมื่นจะช็อกแค่ไหน ถ้ามาเห็นชะนีไทยยุค 4.0 ไปดูคอนเสิร์ต แล้วกรี๊ดผู้อย่างไม่สนอิน พรหม ยม ยักษ์ แล้วก็พร้อมที่จะเคลมผู้ชายก่อนถ้าผู้คนนั้นตราตรึงใจเหลือคณานัป และที่สำคัญถ้าเป็นหญิงสายรุกนี่ รุกเยี่ยงชายจีบหญิงเลยนะเจ้าคะ มีเรื่องเล่าแสบๆคันๆ จากประสบการณ์ตรงของข้าที่ถ้าท่านหมื่นรู้คงกระอักเลือดตายแน่ๆ

เรื่องมีอยู่ว่า ตัวข้านั้นจีบผู้ชายคนหนึ่ง เราคุยกันมาเกือบ 3 ปี วันนั้นเป็นวันครบรอบที่เราคุยกันครั้งแรก ข้าอยากเซอร์ไพร้ผู้ ก็เลยให้แมสเซ็นเจอร์เจ้าดังของเมืองไทยไปส่งช่อกุหลาบขาวให้เขาถึงออฟฟิศ จากนั้นแมสเซ็นเจอร์โทรมารายงานว่า ส่งให้เรียบร้อยแล้ว ข้าก็เบาใจ แต่ก็ยังไม่วายพูดย้ำว่า ตัดบัตรเครดิตนะคะ ฉับพลันแมสเซ็นเจอร์ตอบมาว่า

 “ผมเก็บเงินสดเขามาแล้วครับ”

แล้วตัดสายข้าไปเสียอย่างนั้น ข้านี่ขึ้นเลยเจ้าค่ะ โทรหาผู้ เขาก็จ่ายเงินไปจริงๆ คิดดูสิเจ้าคะ เขาจะรู้สึกอย่างไร นั่งทำงานอยู่ดีๆ มีชะนีส่งดอกไม้มาให้ แถมเก็บเงินเขาอีกต่างหาก! แล้วเจ้ากรรมเอ๋ย บัตรเครดิตข้าก็โดนตัดไปแล้วด้วย แต่อย่ากระนั้นเลย เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้ หลังจากโทร.ไปเคลียร์กับบริษัทแมสเซ็นเจอร์เจ้าดังของเมืองไทยแล้ว แม้ว่าจะตามตัวคนส่งคนนั้นไม่ได้ แต่ข้าก็ยังยืนหยัดให้แมสเซ็นเจอร์อีกบริษัทไปส่งเงินคืนผู้ แม้เขาจะไม่อยากรับเงินก็ตาม เหตุการณ์นี้สอนให้รู้ว่า ริจะเป็นชะนีสายรุก ระวังเซอร์ไพร้เสสียเองนะออเจ้า

2.สตรีสมัยก่อนเก่งงานบ้านงานเรือน ส่วนชะนี 4.0 ชอบชวนเพื่อนไปกินหมูกระทะ

ดูอย่างเกศสุรางค์ก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนแล้วเจ้าค่ะ ขนาดนางหลงไปในยุคอโยธยา ยังอยากกินหมูกระทะ ที่ในยุคปัจจุบันนี้เป็นอาหารที่สะดวกมากๆ เราแค่ไปตักหมู ไก่ ปลาทั้งหลาย เอามาปิ้งย่าง แต่หญิงไทยสมัยก่อนจะเอาสะดวกแบบนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ งานบ้านงานเรือนต้องเก่ง การครัวด้วย ทุกอย่างสิ่งเอเวอรี่ติงจิงเกอเบล ถ้าผู้คนในยุคสมัยนั้นหลุดออกมาสู่ยุคปัจจุบันคงจะตกใจกันโครมใหญ่ที่เห็นคนยืนรอคิวเข้าไปนั่งกินอะไรกันเพลินๆ ในร้านอาหาร ไม่ต้องลำบากมานั่งทำเองอีกต่อไป แถมเวลาไปกับก๊วนเพื่อนชะนีเยอะๆล่ะก็ คุยกันเสียงดังไปถึงปากซอยอีกต่างหาก แล้วหัวข้อที่คุยกันแต่ละครา บางทีผู้ชายมาฟังอาจต้องตกใจเลยก็เป็นได้นะเจ้าคะ

อย่างครั้งหนึ่ง ข้าไปกินหมูกระทะกับสหายคนสนิท อยู่ๆเธอก็เล่าเรื่องสัปดี้สัปดนระหว่างเธอกับแฟนขึ้นมากลางวง ในระหว่างที่ข้ากำลังจะคีบหมูเข้าปาก แล้วสหายอีกคนที่ฟังอยู่ก็เอ่ยกลั้วหัวเราะว่า

“โอววววว อยากมีโมเม้นต์ฟ้าเหลืองดูบ้าง”

แล้วก็หัวเราะกันลั่นร้าน สรุปหมูชิ้นนั้นกว่าข้าจะได้กินก็อีกนานโขเลยเจ้าค่ะ  

3.สตรีสมัยก่อนไม่ต้องเก่งด้านการศึกษา ส่วนชะนี 4.0 ต้องศึกษาสิ่งใหม่ๆเพื่อพัฒนาตัวเอง

สตรีสมัยก่อนจะโดนปลูกฝังว่าต้องเป็นช้างเท้าหลัง อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ให้สามีทำมาหาเลี้ยง แต่ชะนี 4.0 เป็นชะนีที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงเสียเป็นส่วนใหญ่ แล้วยังต้องหาความรู้ให้ตัวเองมากๆ เพื่อความก้าวหน้าในสายงาน และสมัยนี้เราจะเห็นผู้หญิงเป็นเจ้าของกิจการกันมากขึ้น มีความเก่งทัดเทียมกับผู้ชาย ไม่ต้องโดนกดขี่เหมือนสมัยก่อน มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นมากขึ้นที่บอกเลยว่า ถ้าท่านหมื่นมาเห็นคงจะตกใจอยู่ไม่น้อยเลยหนาออเจ้า

 

 หากท่านผู้อ่านอยากติดตามเรื่องเล่าแสบๆ คันๆ ที่พูดแทนใจมนุษย์ชะนี สามารถติดตามกันได้ที่แฟนเพจ Chanee มีเรื่อง นะเจ้าคะ กราบขอบพระคุณค่ะ

 

Photo by: ณัฐพร ศรีสุภา

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook