ท่าฝึกหายใจสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เรื่องสำคัญที่ควรรู้ก่อนคลอด

ท่าฝึกหายใจสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เรื่องสำคัญที่ควรรู้ก่อนคลอด

ท่าฝึกหายใจสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เรื่องสำคัญที่ควรรู้ก่อนคลอด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แน่นอนว่าหนึ่งในเรื่องที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องให้ความสำคัญและใส่ใจมากเป็นพิเศษคือ การฝึกหายใจอย่างถูกวิธี เพราะการหายใจถือเป็นลมหายใจที่เป็นการแบ่งปันจากคุณแม่ไปสู่ลูกน้อย เนื่องจากลมหายใจของคุณแม่ก็คือ การส่งต่อความรักความห่วงใย ตลอดจนอาหารและอากาศไปยังทารก แต่การหายใจ ต้องหายใจแบบไหนถึงจะถูกวิธี วันนี้เรามีวิธีการฝึกหายใจที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรู้ไว้มาฝากแล้วค่ะ

1.ให้คุณแม่นอนหงาย โดยที่ไม่ต้องหนุนหมอน จากนั้นวางแขนข้างลำตัว หายใจเข้าให้ท้องป่องและหายใจออกให้ท้องแฟบ ทำอย่างช้าๆ โดยไม่ต้องรีบร้อน ทั้งนี้หากท้องของคุณแม่โตและไม่สะดวกที่จะนอนหงาย เพราะรู้สึกอึดอัดมากจนเกินไป ก็เปลี่ยนมานอนท่าตะแคงได้

2.ให้คุณแม่นั่งพิงเบาะอย่างสบายๆ โดยที่ปล่อยแขนไว้ข้างลำตัว จากนั้นก็หายใจเข้าและค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกอย่างช้าๆ ไม่ต้องรีบ ปล่อยให้ไหล่และกล้ามเนื้อที่ต้นคอได้รับความผ่อนคลายในทุกจังหวะของการหายใจเข้าและหายใจออก

3.สำหรับการที่คุณแม่ลูบหน้าท้องอย่างเบาๆ พร้อมทั้งหายใจเข้าทางจมูกและหายใจออกทางปากอย่างช้าๆ นั้น จะทำให้คุณแม่รู้สึกสบายตัวมากขึ้น ทำซ้ำกันหลายครั้งก็จะยิ่งทำให้คุณแม่รู้สึกดีและทนต่อกับความเจ็บได้มากขึ้น

4.คุณแม่ตั้งครรภ์ควรฝึกหายใจให้ยาวขึ้น โดยวิธีคือ หายใจเข้าจากนั้นเป่าลมหายใจออกทางปากอย่างช้าๆ ซึ่งการเป่าลมหายใจออกนั้นให้คุณแม่ยกปลายนิ้วขึ้นมา โดยวางระยะปลายนิ้วมือให้ห่างจากปากประมาณหนึ่งฝ่ามือ แล้วเป่าลมหายใจออกให้ปลายนิ้วรู้สึกถึงลมที่เป่าออก ทำอย่างสม่ำเสมอเวลาหายใจออก วิธีนี้จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บซึ่งเป็นอาการคนท้องได้เป็นอย่างดี

5.ในระหว่างที่เบ่งคลอด หากคุณแม่ต้องการสร้างพลังให้ตัวเองเพื่อที่จะสามารถอดทนกับความเจ็บปวดในระหว่างที่เบ่งคลอดนั้น แนะนำให้คุณแม่หายใจอย่างช้าๆ โดยที่เอามือปิดปากเบาๆ แล้วทำเสียง “โอม...” ในทุกจังหวะของการหายใจออก วิธีนี้จะช่วยให้พลังที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณแม่แผ่ออกมา ซึ่งจะสามารถช่วยให้อดทนต่ออาการเจ็บท้องคลอดได้มากขึ้นนั่นเอง

สำหรับคุณแม่ที่เริ่มมีอาการเจ็บคลอด หรืออยู่ในระหว่างที่มดลูกของคุณแม่เริ่มหดตัว รวมทั้งช่วงเวลาที่คุณแม่มีความวิตกกังวลมากเกินไป วิธีที่ 1 และวิธีที่ 2 จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นท่าการฝึกหายใจที่แนะนำให้คุณแม่หมั่นใช้ในระหว่างที่มีอาการคนท้องดังกล่าวอีกด้วย

  

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook