5 วิธีลดอาการปวดหลัง โดยไม่ต้องใช้ยา

อาการปวดหลังเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย ทั้งในหนุ่มสาววัยทำงานและผู้สูงอายุ ในปัจจุบันพบมากขึ้นในคนวัยทำงาน โดยสาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากท่าทาง อิริยาบถ การเคลื่อนไหวร่างกาย และการใช้งานหลังที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน พบได้บ่อยในคนวัยทำงานที่ต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์นาน โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค เพราะมักจะนั่งผิดท่าคือ นั่งแบบหลังงอ ไหล่ห่อ และก้มคอเข้าหาจอคอมพิวเตอร์ รวมทั้งการยกของหนักโดยใช้การก้มหลัง น้ำหนักทั้งหมดจะผ่านไปที่กระดูกสันหลังส่วนที่กำลังโค้งมากที่สุด ซึ่งการลดอาการปวดหลังเราสามารถทำตามวิธีเหล่านี้ ซึ่งเป็นวิธีช่วยลดอาการปวดหลังได้โดยไม่ใช้ยา และจะมีวิธีไหนบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

1.ฝึกสมาธิ

มีงานวิจัยจำนวนมากพบว่า การฝึกสมาธิสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดได้ โดยการกระตุ้นระบบโอปิออยด์ในสมอง แต่ไม่ได้ช่วยลดอาการเจ็บปวดลง โดย Dr.Fadel Zeidan นักวิจัยจาก Wake Foerest Baptist Medical Center อ้างว่าจากการทดลองครั้งแรกแสดงให้เห็นถึงการฝึกแค่เกินหนึ่งชั่วโมง ก็สามารถลดอาการปวดได้ ซึ่งการศึกษาดังกล่าว ทดลองให้อาสาสมัคร 15 คน ที่ไม่เคยนั่งสมาธิมาก่อนเลย ให้ฝึกนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ 20 นาที 4 คอร์ส จากนั้นนำอุปกรณ์ให้ความร้อนมาวางที่ขา พบว่าอาสาสมัครรู้สึกปวดน้อยลงตั้งแต่ 11-93% และการสแกนสมองยังชี้ว่า สมองส่วนที่รับผิดชอบต่อความเจ็บปวด มีการทำงานน้อยลง จึงสรุปได้ว่า การนั่งสมาธิทำให้เกิดผลกระทบต่อสมองได้จริง และอาจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสำหรับการบรรเทาอาการปวดโดยไม่ใช้ยา

2.ยืดเส้นยืดสาย

การฝึกโยคะ 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จะช่วยบรรเทาอาการปวดหลังช่วงล่าง หากฝึกเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงเพิ่มขึ้น หรือทำท่าการบริหารร่างกายด้วยการยืดเหยียด และสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ จะช่วยป้องกันและแก้ไขอาการปวดหลังได้เป็นอย่างดี โดยควรทำอย่างน้อย 2-3 วันต่อสัปดาห์

3.ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายแบบแอโรบิก ไม่ใช่การเต้นแอโรบิก แต่เป็นการออกกำลังกายที่ร่างกายต้องใช้ออกซิเจนเป็นจำนวนมาก และต้องทำติดต่อกันเป็นเวลาค่อนข้างนาน เช่น การวิ่ง การปั่นจักรยาน และการว่ายน้ำ เป็นเวลานานติดต่อกัน 25 นาที จะช่วยลดการรับรู้ของอาการเจ็บปวดได้ถึงร้อยละ 28 ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหลังช่วงล่างหรืออาการปวดหลังเรื้อรังอย่างกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อไฟโบรมัยเจีย เป็นอาการปวดที่อาจจะเริ่มปวดแค่จุดเดียวก่อน พอนานวันเข้าจุดปวดก็จะกระจายออกไปเรื่อยๆ ทั่วร่างกาย จะต่างจากคนปกติที่จะปวดกระจุกตัวอยู่จุดเดียว

4.นวด

การรับสัมผัสเกี่ยวกับการกดหนักบนผิวจะตอบสนองต่อการสัมผัส โดยการกระตุ้นเส้นประสาทเวกัสในสมอง การทำงานของเส้นประสาทเวกัสที่เพิ่มขึ้นจะช่วยลดความตึงเครียด และเมื่อความตึงเครียดลดลง อาการเจ็บปวดก็จะลดลงตามไปด้วย

5.การกลิ้งบำบัด

โดยใช้ลูกกลิ้งโฟมนวดกล้ามเนื้อ สามารถช่วยลดอาการปวดและบวมช้ำ ในขณะที่การฝังเข็มจะช่วยลดอาการเจ็บปวดได้มากถึงร้อยละ 55 ซึ่งจะช่วยลดอาการเจ็บปวดโดยการกระตุ้นการทำงานของเส้นประสาทเวกัสในสมอง เช่นเดียวกับการนวด

นอกจากนี้การใช้เวลากับเพื่อนๆ คนรักหรือครอบครัว ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดอาการเจ็บปวดลงได้ ในทางกลับกัน การอยู่ห่างจากเพื่อนกับครอบครัวมากไป จะส่งผลให้อาการปวดหลังช่วงล่างแย่ลง และการทำตัวให้ร่าเริงแจ่มใส ซึ่งการหัวเราะสามารถช่วยลดอาการเจ็บปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการหยอกล้อกับเพื่อนหรือดูภาพยนตร์ตลกก็ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดลงได้เช่นกัน