ผลข้างเคียงและข้อดี เมื่อสาวๆ เลิกกินยาคุม
ยาคุมกำเนิดคือ ยาเม็ดที่กินเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์หลังมีเพศสัมพันธ์ มี 2 ชนิด คือ 21 วัน และ 28 วัน ซึ่ง 7 เม็ดที่เพิ่มขึ้นมาคือ เม็ดแป้งไว้เผื่อลืมกินยาคุม วิธีการกินยาคุมที่ถูกต้องคือ ควรเริ่มกินครั้งแรกในช่วงที่มีประจำเดือน โดยกินระหว่างช่วงวันที่ 1-5 ที่ประจำเดือนมา โดยกินเรียงลำดับตามลูกศรบนแผงยา ตั้งแต่เม็ดแรกจนถึงเม็ดสุดท้าย และควรเป็นเวลาเดียวกันของทุกวัน นอกจากการกินยาคุมเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ ยังมีอีกหลายคนที่กินยาคุมเพื่อความสวยงาม เช่น ลดสิว ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง ซึ่งเป็นผลข้างเคียงด้านดี แต่ในขณะเดียวกันการกินยาคุม อาจทำให้เกิดฝ้า น้ำหนักตัวเพิ่ม มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ปวดศีรษะแบบไมเกรน และเมื่อหยุดกินยาคุม ก็อาจจะต้องเจอกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้
ผลข้างเคียงด้านลบเมื่อเลิกกินยาคุม
1.ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น ในช่วงสัปดาห์แรกที่หยุดกินยาคุม ระดับความอยากอาหารจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะกินเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ทางที่ดีควรกินอาหารเพื่อสุขภาพ และไม่นานนักความอยากอาหารจะลดลงเรื่อยๆ จนกลับคืนสู่สภาพปกติ
2.มีสิวเกิดขึ้นใหม่ หลังจากเลิกกินยาคุมได้ 1 เดือน จะเกิดสิวขึ้นบนบริเวณหน้าผาก ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดการอักเสบอย่างกลูเต็น ผลิตภัณฑ์นม และน้ำตาล ก็จะช่วยทำให้ดีขึ้น และอาจเสริมโอเมก้า 3 จากการกินปลา 3-4 ครั้ง ต่อสัปดาห์ ซึ่งจะช่วยต่อต้านอาการอักเสบได้ดี ทำให้การอักเสบของสิวทุเลาลง และยังช่วยบรรเทาอาการแดงและระคายเคือง ทำให้ผิวหนังกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น ผิวจึงไม่แห้งกร้าน ทำให้สิวที่กำลังบวมเป่งหายเร็วขึ้น
3.อาการปวดเกร็งก่อนมีประจำเดือนรุนแรงขึ้นเล็กน้อย ซึ่งแตกต่างจากช่วงที่กินยาคุมกำเนิด ที่ไม่มีอาการปวดเกร็งก่อนจะมีประจำเดือน
ผลดีเมื่อเลิกกินยาคุม
1.รอบเดือนสั้นลง ในช่วงที่กินยาคุม รอบเดือนจะมามากถึง 7 วัน แต่หลังจากที่หยุดกิน รอบเดือนอาจจะมาแค่ 5 วันเท่านั้น
2.อารมณ์ดีขึ้น หลังจากที่หยุดกินยาคุมไปแค่เดือนเดียว อารมณ์จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น จากช่วงที่กินยาคุม อารมณ์มักจะขุ่นมัวไม่แจ่มใส ก็จะกลายเป็นคนอารมณ์ดี รู้สึกปลอดโปร่ง รู้สึกมีพลังสดใส
และนี่ก็คือ วิธีกินยาคุมกำเนิดที่ถูกต้อง ตั้งแต่เม็ดแรกจนถึงเม็ดสุดท้าย รวมถึงอาการหรือผลข้างเคียงเมื่อหยุดกินยาคุม รวมถึงข้อดีที่เกิดขึ้น สำหรับสาวๆ คนไหนที่กินยาคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ เนื่องจากระดับฮอร์โมนในตัวยาแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกัน และอาจส่งผลข้างเคียงแต่ละคนต่างกัน อย่างไรแล้วก็ควรเลือกยาที่มีฮอร์โมนที่เข้ากับร่างกายคุณเอง โดยอาจจะปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนก็ได้ค่ะ เพื่อจะได้ช่วยลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นทั้งขณะทานและหยุดทานนั่นเอง