บรรเทาอาการปวดศีรษะด้วยวิธีธรรมชาติ
เดี๋ยวนี้คนเรามีความเครียด ความเหนื่อยล้ามากขึ้น อาการปวดหัวจึงเป็นสิ่งที่ได้ยินกันบ่อยขึ้นทุกที ใครที่ปวดหัวเป็นประจำทุกวัน ทำยังไงก็ไม่หาย... และสงสัยว่าตัวเองมีอาการไมเกรนหรือปวดหัวข้างเดียว แล้วล่ะก็ เรามีวิธีบำบัดแบบธรรมชาติมาฝากกัน
หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงว่า อาหารที่เรารับประทานเข้าไปมีส่วนอย่างยิ่งต่อการเกิดอาการปวดหัว คนที่ปวดหัวเรื้อรังจึงต้องสังเกตตัวเองให้ดีว่า มีอาหารประเภทไหนที่รับประทานเข้าไปแล้วทำให้ปวดหัวหนึบขึ้นมา ถ้ารู้แล้วก็ เลี่ยงอาหารนั้นๆ เสีย อาการปวดหัวก็จะห่างออกไปและค่อยๆ หายไปในที่สุด
โดยเฉพาะคนที่รู้ตัวว่ามีอาการปวดหัวที่เกิดจากโรคไมเกรนด้วยแล้ว เรามีคำแนะนำถึงอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงมาฝาก ได้แก่
- แอลกอฮอล์ทุกชนิด ทำให้หลอดเลือดที่หนังศีรษะขยายตัวและทำให้เกิดอาการปวดหัวตามมา
- เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
- อาหารเย็นจัดๆ สำหรับบางคนก็ทำให้ปวดหัวหนึบขึ้นมาทันที
- ผงชูรส มีสารโมโนโซเดียมกลูตาเมทที่มีรายงานว่ากระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน
- อาหารที่เปรี้ยว จัดๆ เช่น ส้ม มะนาว ผักสด ผลไม้สด ก็มีรายงานว่าบางคนรับประทานเข้าไป
แล้วปวดหัว ยิ่งเปรี้ยวมากเพียงใดก็ยิ่งกระตุ้นให้ปวดหัวได้มากเพียงนั้น แต่ว่าความเปรี้ยวแท้ๆ จากน้ำส้มสายชูกลับไม่มีผลต่ออาการปวดหัว จึงเข้าใจว่าสำหรับบางคนอาหารที่มีวิตามินซีสูงๆ อาจจะกระตุ้นให้ปวดหัวก็ได้
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อสังเกตของคที่เป็นไมเกรนว่า อาหารชนิดไหนที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวได้บ้าง แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบเดียวกันทุกคน และไม่จำเป็นต้องแพ้ทุกอย่าง เช่น บางคนรับประทานผงชูรสแล้ว ปวดหัวแต่รับประทานอาหารรสเปรี้ยวได้ก็มี
ส่วนอาหารที่รับประทานแล้วช่วยลดการเกิดอาการปวดหัวได้ดี คือ ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ผักและผลไม้ ต่างๆ นอกจากนี้ควรหาวิธีคลายเครียด อื่นๆ เช่น ออกกำลังกาย ฟังเพลง นั่งสมาธิ ประกอบกันไปด้วยจึงจะหายปวดหัวได้ในระยะยาว
ทิ้งท้ายสำหรับคนที่มีอาการปวดหัว...
"น้ำ" ช่วยคุณได้ ถ้าปวดหัวจนนอนไม่หลับให้ใช้กระเป๋าน้ำร้อน หรือขวดใส่น้ำร้อนที่ไม่ร้อนจนเกิน ไปประคบบริเวณท้ายทอย แล้วใช้ผ้าเย็นประคบที่หน้าผาก จะช่วยให้อาการปวดหัวทุเลาลงได้ ส่วนถ้าใครปวดหัวแบบตื้อๆ มึนๆ ให้แช่เท้าในน้ำอุ่นประมาณครึ่งชั่วโมง อาการปวดก็จะบรรเทาลงได้ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก goodfoodgoodlife
ขอบคุณข้อมูลจาก photos.com