ออมเงินไว้ท่องโลก
จะใกล้ไกลแค่ไหน คุณก็ออกท่องโลกได้สบายๆ ถ้า ความอยาก ไปบรรจบกับ ความพร้อม ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป ฝันหน้าไหนก็ไม่มีทางเป็นจริง พูดแบบบ้านๆ คือต่อให้อยากเที่ยวให้แค่ แต่ถ้าอัตคัตเรื่องเงินทอง อย่าได้หวังว่าจะออกไปตะลุยโลก
ส่วนใหญ่ทุกคนจะมีความอยากยืนพื้นอยู่แล้ว มากน้อยต่างกันไป ส่วนความพร้อมถึงจะไม่เท่ากัน แต่เรื่องนี้จัดการได้ รักจะเที่ยวต้องริสะสมเงินทองให้พร้อม เพราะ "เงินทอง" คือหัวใจสำคัญของการเดินทาง
ไม่ผิดกฎการบริหารจัดการเงินทองส่วนบุคคล ถ้าคุณจะนำเงินออมที่สู้เก็บหอมรอมริบออกไปเที่ยว แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่กู้เงินมาเที่ยว หรือประเภทเที่ยวก่อนผ่อนทีหลัง นั่นต่างหากที่ผิดกฎ
ไม่มีกฎตายตัวว่าแต่ละเดือนหรือแต่ละปีคุณควรจะออม เท่าไหร่ คนที่รู้ดีสุดคือตัวคุณเองนั่นแหละ เที่ยวถี่ก็ออมให้หนักเข้าไว้ เที่ยวปีละหนก็ออมแบบเบาๆได้
แต่ถ้ายังไม่แน่ใจในตัวเองว่าเป็นคนพวกไหน หรือแต่ละปีไม่มีแผนแน่นอน เอาไว้เป็นว่าเรามาตั้ง "กองทุนเพื่อการท่องโลก" ของตัวคุณเองก็ได้ และแยกออกมาไว้ต่างหากเลย อย่าให้ปะปนกับเงินออมเพื่อใช้หลังเกษียณซึ่งเป็นเงินออมระยะยาว หรือเงินออมเพื่อดาวน์บ้านซึ่งเป็นเงินออมระยะกลาง ถ้าทำแบบนี้ รับรองว่าถ้าจัดระเบียบไว้อย่างดี เที่ยวแค่ไหนก็ยังมีเหลือเงินเก็บเหลือใช้ในอนาคนแน่นอน
"5-10%"เป็นตัวเลขที่กำลังสวย ถ้าภาระทางการเงินก็ไม่ใช่น้อยอยู่แล้ว แต่ก็ยังรักจะเที่ยว ก็เก็บสักเดือนละ 5% ของรายได้ แต่ถ้าภาระน้อยหน่อยก็เพิ่มเติมเข้าไป เรียกว่าตามกำลังเป็นดีที่สุด แต่ถ้าคุณเป็นพวกปลอดภาระ โจทย์ก็ขึ้นอยู่กับจุดหมายปลายทางแล้วล่ะ ถ้าอยากเที่ยวไกลก็ออมหนักหน่อย ถ้าเที่ยวแค่ใกล้ๆ ก็อาจจะน้อยหน่อย
ดังนั้น จึงย้อนกลับถึงเรื่องการวางแผนการเดินทางของคุณตั้งแต่ต้น ว่าปักหมุดไว้ที่ไหน ถ้าจะไปเที่ยวยุโรปก็อาจจะโหมเก็บเงินหน่อย แต่ถ้าเที่ยวแค่อินเดีย เนปาลก็อาจค่อยเป็นค่อยไปได้ ดังนั้น "จุดหมายปลายทาง" จึงเป็นเรื่องที่มีผลกับการออม
อีกประเด็นคือเป็นเรื่อง "สไตล์การเที่ยว" ถ้าคุณแบกเป้เที่ยว คงใช้เงินน้อยกว่าการเที่ยวกับทัวร์ หรือเที่ยวด้วยตัวเองแต่พักหรู
ทางที่ดีถ้ารู้ตัวว่าชอบเที่ยววางแผนเก็บเงินตั้งแต่ต้นปีไปเลย ก่อนอื่นรู้ที่หมายก่อนจะทำให้วางแผนง่ายขึ้น เป็นต้นว่าปีใหม่นี้จะแบกเป้ไปเที่ยวเกาหลี คะเนจากค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าอาหารการกิน เผื่อเงินไว้ ช้อปด้วย สิริรวมแล้วคาดว่า 5 วัน 4 คืนน่าจะใช้งบประมาณ 40,000 บาท นับถอยหลังไปคุณก็จะรู้ว่ามีเวลาเก็บเงินกี่เดือน เดือนละเท่าไหร่ถึงจะเข้าเป้า
บางคนมีความรู้เรื่องการลงทุน พอออมไปซักพักจะเอาไปต่อยอดให้เงินออกดอกออกผล เผื่อจะได้เงินก้อนใหญ่ขึ้น หรือไปเที่ยวได้เร็วขึ้น อาจจะเอาไปซื้อหุ้นช่วงสั้นๆ แต่ทำแบบนี้ต้องเชี่ยวชาญจริงๆ ถ้าไม่เจนจัดเรื่องลงทุน อย่าดีกว่า เดี๋ยวผิดพลาดขาดทุนแทนที่จะได้ไปสูดอากาศเย็นๆที่เกาหลี อาจจะต้องซื้อซีดีหนังเกาหลีมานั่งดูที่บ้านเพราะเงินที่ออมไว้ขาด ทุนยับเยิน
เอาเป็นว่าลองใช้วิธีสะสมเงินแบบนี้ทุกทริปทุกเที่ยว รับรองว่าคุณได้เดินตามฝันไปเที่ยวเมืองนอกทุกปีแน่นอน