กาละแมร์ พัชรศรี ไม่มีอะไรที่ผู้หญิงทำไม่ได้
ยุคสมัยที่ผู้คนเสพสื่อ ติดตามข่าวสารบ้านเมืองแบบนี้ ตื่นเช้ามาสิ่งที่ทำเป็นอย่างแรกคือเปิดโทรทัศน์เพื่อติดตามดูข่าวสารที่เกิดขึ้น และสิ่งที่จะพบในยามเช้าเช่นนี้คงหนีไม่พ้นผู้ประกาศและพิธีกรรายการยามเช้า กาละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ พิธีกรสาวจากรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เรามักจะได้พบเธอในยามเช้า และด้วยความสดใสของเธอ จึงอดไม่ได้ที่จะFocus แล้วเล็งเธอที่เปรียบเสมือนไอคอนของสาว ๆ ยามเช้า มาเป็นแขกรับเชิญฉบับนี้
งาน-งานที่พี่แมร์ทำอยู่ในตอนนี้
เป็นพิธีกรรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง เก็บตก ราตรีสโมสร Health Me และรายการใหม่ Take me out เป็นรายการจากต่างประเทศ สำหรับคนโสดโดยเฉพาะ ที่ TV Thunderซื้อลิขสิทธิ์มา ฮิตมาก จะเลือกผู้หญิงมา 30 คน และผู้ชายมา 1 คน ผู้หญิงทุกคนจะมีไฟสัญญาณของตนเอง รายการจะเผยข้อมูลผู้ชายทีละอย่าง ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกเสื้อผ้าหน้าผม เพลงที่เปิด การแนะนำตัวเอง บ้าน การใช้ชีวิตที่ทำงาน ถามพ่อแม่พี่น้องเพื่อนฝูง ถ้าถูกใจผู้หญิงก็กดไฟ จนข้อสุดท้ายผู้ชายจะมีสิทธิ์เลือกให้เหลือผู้หญิง2 คน แล้วจะมีสิทธิ์ถามคำถามผู้หญิง 2 คนนี้ สุดท้ายจะเลือกใคร จะมีนัด มีเดตก็ตามแต่พวกเขา รายการนี้สะท้อนให้เห็นทัศนคติ การมอง สเปกต่าง ๆ ที่เราคิดว่าผู้ชาย ผู้หญิงชอบแบบนั้นแบบนี้ จริง ๆ มันไม่ใช่ คนแบบเราอาจจะเหมาะกับคนแบบนี้ก็ได้ อาจจะเหมาะกับคนแบบนั้นก็ได้ ออกอากาศทุกวันเสาร์ บ่าย 2 โมง เริ่ม 2 ก.ค.
เช้าหลังตื่น-สิ่งที่ทำหลังจากตื่นนอน
กินน้ำก่อนเลย เพราะมีน้ำอยู่ที่หัวเตียง จะกินน้ำแก้วใหญ่ที่วางไว้ เพราะเราเปิดแอร์ จะทำให้ผิวหนังแห้ง เจ็บคอ เพราะฉะนั้นการมีน้ำไว้จะไม่ทำให้เราเจ็บคอ พอตื่นปุ๊บก็กินได้เลย แล้วเข้าห้องน้ำทำภารกิจส่วนตัวต่าง ๆ
อาหารเช้า-อาหารที่กินเป็นมื้อแรกของวัน
ทุกวันต้องกินกล้วยกับโยเกิร์ต นมถั่วเหลืองที่หวานน้อย ๆ กับซีเรียล และกินวิตามิน ดื่มชาเขียวร้อนระหว่างรายการ พอตบท้ายก็จะมีผลไม้ พวกแอปเปิล ฝรั่งที่มันมีน้ำตาลไม่มาก ความที่เราถามจากรายการแล้วเราก็อ่านหนังสือมามาก ได้ถามได้คุยกับหมอ เราก็จะรู้ว่าอันไหนมีประโยชน์ต่อร่างกาย มันช่วยอะไรบ้าง กินแล้วเพื่ออะไร มันต้องทำน่ะค่ะ เพราะคนเราต้องดูแลตัวเอง ถ้าเราเลือกกินมากขึ้นมันก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย คนเราก็ควรจะไปตรวจสุขภาพร่างกายบ้าง ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย เอ๊ย! (อุทาน) ยังไม่เป็นอะไรก็ไม่ต้องไปหาหมออะไรอย่างเงี้ย คนเราชอบชะล่าใจแบบนั้น แต่ถ้าเราได้ไปตรวจเราจะได้รู้ว่า เฮ้ย (เสียงสูง) เราน้ำตาลเยอะไหม เราไขมันเยอะเกินไปหรือเปล่า เราอาจมีความผิดปกติกับร่างกายอะไรก็ได้ แต่ถ้าเราเจอก่อนเราก็จะคอยดูแลตัวเองได้มากขึ้น ป้องกันในสิ่งที่อาจจะเกิดในอนาคต แต่ถ้าเราป้องกันดีมันก็จะไม่เกิด
เช้าให้อะไร-ช่วงเช้ามีความสำคัญยังไง
เวลาเช้าเป็นเวลาที่ทำอะไรได้เยอะแยะมากมาย ยิ่งเราตื่นเช้าเท่าไหร่เราก็ยิ่งทำอะไรได้มากขึ้นเท่านั้น วันไหนเราตื่นสายจะรู้สึกว่าวันของเรามันหดสั้นลง ถ้าเราตื่นเช้าเราก็ทำนั่นทำนี่ได้อีกเยอะแยะมากมาย บางวันถ้าเราตื่นเช้ากว่าปกติที่ตื่นเพื่อมาทำต้นฉบับก็มีเหมือนกัน บางทีมันกังวล เอ๊ย ฉันเขียนงานไม่ได้ เขียนไม่เสร็จ ถ้านึกขึ้นได้ก็ตื่นขึ้นมาทำ ตื่นเช้ามาบางวันก็ไปออกกำลังกาย ไปวิ่ง มาทำรายการเช้า ทำธุระเรื่องแบงก์ ทำนู่นทำนี่ ประมาณ 11 โมงก็ได้งานเยอะแยะแล้ว
ออกกำลังกาย-ใช้เวลาในการดูแลสุขภาพและออกกำลังกายช่วงไหน
อืม แล้วแต่วัน แล้วแต่ Schedule ในแต่ละวัน ถ้ามีงานบ่ายหรือเย็นก็จะออกตอนกลางวัน แต่สมมติว่ามีงานกลางวันก็ไปออกเย็น หรือถ้างานทั้งวันแล้วไปไม่ได้ ก็จะตื่นเช้ามาออกกำลังกาย ช่วงนี้เล่นพิลาทีส ก็จะเล่นวันละชั่วโมงพยายามให้ได้ทุกวันพอเล่นแล้วรู้เลยว่าร่างกายเรามัน Lean มากขึ้น ได้สัดส่วนมากขึ้น ดูมีกล้ามเนื้อ ดูHealthy ผิวพรรณ ระบบขับถ่ายดี ทำให้เราดูแลรูปร่างไปด้วยในตัว ไม่กินอะไรที่ทำให้เราอ้วน มีกินบ้างเพื่อให้เป็นรางวัลกับชีวิตตัวเอง แต่ก็น้อยลง
ผู้หญิงในสังคม-คิดว่าผู้หญิงมีข้อจำกัดและถูกกีดกันไหมในสังคม
แมร์ว่าไม่มีอะไรที่ผู้หญิงทำไม่ได้ อยู่ที่ว่าได้ทำแล้วหรือยังมากกว่า แมร์ไม่เห็นว่ามีอะไรที่ผู้หญิงทำไม่ได้ อยู่ที่เขาจะทำหรือไม่ทำเท่านั้นเอง แมร์ว่ามันเป็นเรื่องของทัศนคติและการมองของคนมากกว่า มันเป็นแค่วิธีคิดน่ะค่ะ มันเป็นแค่การมองโลกเท่านั้นเอง เราอาจจะไม่เคยเห็นเราก็คิดว่าคงทำไม่ได้ หรือว่าอะไรที่ไม่คุ้นเคยเราก็เลยคิดว่ามันคงไม่เหมาะ แต่จริง ๆ แล้วถ้าเราเปิดตาเปิดใจ แล้วเปิดทัศนคติ เปิดใจกว้าง ๆน่ะ ว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเพศหรืออะไร แต่มันอยู่ที่ว่าผู้หญิงจะทำหรือไม่ทำเท่านั้นเอง แล้วก็ผู้หญิงพัฒนาศักยภาพของตัวเองไปมากแค่ไหน เพราะบางทีเรามีโอกาสดี ๆเข้ามาแต่ว่าตัวเราเองต่างหากที่ไม่ยอมทำตัวเองให้พร้อมที่จะรับโอกาสดี ๆ ตรงนั้น บางทีเขาให้โอกาสมา เราก็แบบ โอ๊ย! เราทำไม่ได้หรอก เราติดตรงนั้นเราติดตรงนี้ เราไม่ดีพอ เราไม่เก่งพอ จริง ๆ แล้วถามตัวเองดีหรือยังว่าเราได้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่จนคุ้มค่าแล้วหรือยัง มันสุด ๆ แล้วหรือยัง หรือเราได้เพิ่มเติมศักยภาพของเราเองอีกหรือไม่ และนี่เป็นสิ่งที่ผู้หญิงต้องถามตัวเองด้วย