เริ่มวิ่งเพื่อสุขภาพ
เคยบ้างไหมที่เห็นวิ่ง คนหุ่นดีๆ วิ่งแล้วอยากทำตาม แต่ป๊าดโธ่...วิ่งได้อยู่แค่ 2 วัน ก็ต้องเลิกรา เพราะไหนจะเหงื่อ แถมยังเหนื่อย โอ้ยย..ยย.ย.สารพัดปัญา จนหลายคนรู้สึกว่าการวิ่งเป็นเรื่องยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นเขา สำหรับผู้ที่มีปัญหากับการวิ่ง หรือยังไม่รู้ว่าจะเริ่มวิ่งอย่างไงดี ขอให้หมดกังวลไปได้เลย เพราะเรามีตำราชั้นเยี่ยมที่จะทำให้การวิ่งเป็นเรื่องจิ๊บๆ
วิ่งแล้วได้อะไรถ้าอยากมีหุ่นสวยแบบงบประมาณต่ำ คงไม่วิธีไหนจะง่ายไปกว่าการวิ่ง ซึ่งคุณสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา แถมยังดีต่อหัวใจ ดีต่อผู้ที่เป็นความดันโลหิตต่ำ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และที่สำคัญการวิ่งเป็นวิธีเผาผลาญไขมันที่น่ามหัศจรรย์
แต่ละชั่วโมงที่วิ่ง ร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงานได้ราว 580 แคลอรี่ ซึ่งมากพอที่จะช่วยขจัดไขมันสะสมออกไป แถมยังจะทำให้รู้สึกอารมณ์ดี เนื่องจากร่างกายได้หลั่งสารเอ็นดอร์ฟินส์ออกมา
เตรียมพร้อมกันก่อนบางครั้งการออกกำลังกายอย่างหักโหม ก็นำความเจ็บปวดเข้ามาแทนที่หุ่นเฟิร์มๆ แต่ถ้าเรารู้วิธีตั้งรับตามแบบฉบับมือโปร ก็จะทำให้คุณวิ่งได้อย่างไร้กังวล
- ยืดเส้นกันก่อน
การยืดเส้นยืดสายก่อนและหลังออกกำลังกาย ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะกล้ามเนื้อที่ยังคงแข็งตัวอยู่จะได้รับบาดเจ็บได้ง่ายกว่ากล้ามเนื้อที่มีการวอร์มแล้ว
- ก้าวข้ามความเจ็บปวด
ระหว่างที่วิ่ง ความเจ็บปวดอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เช่น เส้นเอ็นอักเสบ แต่คุณสามารถยุติอาการเหล่านั้น ไม่ให้ร้ายแรงขึ้นได้ด้วยการหยุดพักและอย่าหักโหมจนเกินไป
- สภาพแวดล้อมต่างๆ
อย่ามัวแต่หลับหูหลับตาวิ่ง จนไม่รู้ว่าทางข้างหน้าขรุขระ หรือลื่นง่าย และที่สำคัญผิวแข็งๆ อย่างพื้นคอนกรีต ถ้าเลี่ยงได้ก็ขอให้เลี่ยง แล้วลองหันไปวิ่งบนพื้นหญ้าหรือไม่ก็ผืนทรายแทน เพราะสามารถลดแรงกระแทกได้ดี แถมเวลาล้มก็ไม่ต้องกลัวหน้างามๆ จะเสียโฉมอีกด้วย
- อย่าบ้าพลัง
ประมาณ 90% ของคนรักการวิ่ง มักบาดเจ็บเพราะการฝึกซ้อมที่มากเกินไป โดยส่วนใหญ่จะตื่นเต้นกับผลลัพธ์ของการวิ่งได้ไกลขึ้นหรือนานขึ้น จนไม่ยอมหยุดเสียง่ายๆ และในที่สุด ตัวคุณนั่นแหละที่จะเจ็บ ดังนั้น เริ่มวิ่งทีละนิดแล้วรอจนกว่าร่างกายจะปรับตัวได้จึงค่อยปรับระยะทางและเวลา
- เลือกอุปกรณ์ให้ดี
นักวิ่งต้องการความแข็งแกร่งและเชิงกรานที่มั่นคง ดังนั้น จงยอมควักเงินเสียหน่อย เพื่อชุดอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็น รองเท้า ชุดชั้นใน หรือหมวกคุณภาพดี เพื่อป้องกันการบาดเจ็บในเบื้องต้น
เริ่มออกสตาร์ทแอนนี่ ครอว์ฟอร์ด เทรนเนอร์แห่ง Can Too มูลนิธิเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง ที่ช่วยฝึกฝนมือใหม่หัดออกกำลังกายให้สนุกกับการวิ่งและว่ายน้ำในมหาสมุทร กล่าวว่า "ไม่มีใครที่จะวิ่งได้ไกลและรวดเร็ว แต่ถ้าคุณสามารถเดินเร็วๆ 30 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็เท่ากับว่า คุณได้เริ่มต้นแล้ว"
ลองมองหาเด็กใหม่อยากเริ่มวิ่ง มาเข้ากลุ่มแก็งค์รันนิ่ง เพื่อเป็นแรงหนุนให้กันและกัน จากนั้นก็เริ่มวิ่งหรือเดินเร็วๆ กับเดอะแก็งค์ เพื่อเพิ่มความสนุกกับการออกกำลังกาย
ลองเพิ่มระยะเวลาในการวิ่งแต่ละครั้ง อาจวิ่งนานขึ้น 20 นาที แล้วค่อยๆ ขยับเป้าหมายให้ไกลขึ้นอีกนิด ด้วยการวิ่งให้เร็วขึ้นในระยะทางที่ไกลเท่าเดิม เมื่อผ่าน 4 สัปดาห์แรกมาแล้ว ก็เปลี่ยนเป้าหมายให้หินยิ่งขึ้น
เมื่อเริ่มสนุกกับการวิ่ง ก็อย่าเพิ่งคลั่งการออกไปสับขาหลอกมากจนเกินไป เราขอแนะนำให้วิ่งเพียง 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะถือเป็นสูตรที่ดีที่สุด สำหรับผู้เริ่มต้นหัดเรียนรู้เทคนิคดีๆ จากผู้เชี่ยวชาญ เช่น การก้าวขายาวๆ ยกเข่าให้สูง หรือไม่ควรไขว้แขนกลางลำตัวขณะวิ่ง เพราะคำแนะนำเหล่านี้ จะช่วยให้การวิ่งของคุณมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอีก
ทริคง่ายๆ ให้สนุกกับการวิ่งหลังจากวิ่งกันถูกวิธีแล้ว เรามาลองหาอุปกรณ์เสริมแบบเก๋าๆ ที่จะทำให้การวิ่งของคุณน่าสนุกมากขึ้นกันดีกว่า
- มองวิวสวยๆ
เวลาออกไปวิ่งในสวน ให้มองไปรอบตัว เพื่อชื่นชมกับดอกไม้ใบหญ้า หรือแม้แต่หนุ่มหุ่นล่ำของฝั่งตรงข้าม ก็สามารถทำให้คุณรู้สึกเพลิดเพลินใจได้ จนรู้สึกอยากออกกำลังกายทุกวัน แต่อย่าเพลินจนลืมที่จะคงระยะห่างของแต่ละก้าวให้เท่าๆ กันด้วยละ
- เปลี่ยนบรรยากาศ
เปลี่ยนไปวิ่งขึ้นเขาหรือปรับจากสวนเป็นฟิตเนสบ้างก็น่าจะดี เพื่อที่คุณจะไม่ต้องทนเบื่อกับสถานที่เดิมๆ แต่อย่าลืมเหน็บขวดน้ำไปด้วยเป็นอันขาด หากต้องไปไกลๆ
- วิ่งบนสายพาน
ถ้าเพื่อนๆ ในแก็งค์วิ่งไม่มีเวลา อย่าซุ่มเงียบอยู่แต่ในบ้าน เพราะไม่อยากวิ่งคนเดียว ให้ลองหันไปหาเครื่องวิ่งแบบสายพานที่ยังคงฮอตฮิตในฟิตเนสก็ได้ เพราะนอกจากจะได้เพื่อนกลุ่มใหม่แล้ว เจ้าเครื่องที่ว่านี้ยัง ช่วยป้องกันการกระแทกได้ดี แถมวันใดอากาศไม่เป็นใจ คุณก็ยังวิ่งได้แบบหายห่วง
- เทคโนโลยีช่วยได้
บรรดาเครื่องมือสุดไฮเทคทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ตัววัดการเผาผลาญ หรือเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ให้นำติดตัวไปวิ่งด้วยทุกครั้ง จะช่วยให้คุณได้เห็นตัวเลขของแคลอรี่ที่หายไป ซึ่งจะทำให้คุณฮึดสู้จนมีรูปร่างที่กระชับได้เร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เสียงเพลงระหว่างออกกำลังกายยังช่วยให้การวิ่งของคุณไหลลื่น เพราะเพลงอาจช่วยให้คุณมองข้ามความเหน็ดเหนื่อยไปได้ โดยนักวิทยศาสตร์การกีฬา เผยว่า การฟังเพลงระหว่างวิ่งมีผลต่อร่างกายมาก และถ้าจะให้ดีดนตรีควรมีจังหวะระหว่าง 120-140 ต่อนาที ซึ่งควรเป็นเพลงแด๊นซ์มันๆ เพื่อให้หัวใจเต้นได้แรงขึ้น
เห็นไหมละว่า การวิ่งไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด ยังไงซะเช้านี้หรือไม่ก็ช่วงเย็น อย่าลืมหาเวลาหยิบรองเท้าผ้าใบออกไปวิ่งเพื่อสุขภาพกันด้วย