โจรขโมยรถภัยร้ายของสังคมไทย
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาผมแวะทานข้าวที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งแถวโคราช พอลงรถผมก็กดกันขโมย แต่ไม่มีไฟก็ลองกดไฟก็ไม่ขึ้น จึงใช้กุญแจไขล็อกแทน ในใจคิดเล่นๆว่าใครส่งความถี่มารบกวน อีกใจก็คิดว่ามันคงเสีย
หลังจากนั้นตอนผมกินข้าว ก็เห็นรถยนต์อีกคันมาจอด แต่มากันสามคัน เขาก็กดสัญญาณกันขโมย แล้วก็มีอาการเป็นเหมือนผมเลย ตอนนี้ก็ชักเอะใจแล้ว เพราะตอนกินข้าวผมก็สังเกตรถผมตลอด พอทานเสร็จ ผมลุกขึ้นก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินผ่านร้านที่ผมทานข้าวไป ถือแฟ้มใหญ่ๆข้างในไม่รู้ว่าอะไร ในใจคิดว่าน่าเป็นโน้ตบุ๊ก พอผมเดินไปที่รถ ผู้ชายคนนั้นรีบเดินมาที่รถผม
ผมจึงล็อกรถทันที และเขาพูดอะไรข้างประตูที่ผมนั่งก็ไม่รู้ ผมจึงลดกระจกลงมานิดนึง กลัวเขาจะทำอะไร เขาบอกว่า ขอติดรถไปในเมืองด้วย เมียเขาขับรถหนีไป ผมก็บอกว่าผมไม่ได้เข้าเมือง แต่จะไปกรุงเทพฯ ผู้ชายคนนั้นก็ชวนคุยอีกว่าพี่เป็นคนนครปฐมเหรอ เขาก็จบศิลปากรบางเลนมา ซึ่งผมก็งงว่ามันมีที่ไหน
ตอนนั้นผมก็กลัวเหมือนกัน เพราะเคยอ่านเมลเตือนภัยเรื่องพวกนี้มาเยอะ ก็เลยออกรถไปเลย พอขับไปสักพักลองเทสต์กันขโมยดู มันก็ทำงานปกติ เลยคิดว่าน่าจะเป็นการขโมยรถแบบใหม่ ตอนแรกผมก็คิดว่าจะขโมยของอย่างเดียวที่ทำให้รถไม่ล็อก แต่พอมีคนเข้ามาแบบนี้ผมว่าอาจจะไม่ได้ขโมยรถอย่างเดียว อาจจะต้องการจี้เอาทรัพย์สินอื่นๆด้วยเป็นได้
เพื่อนๆโปรดระวังด้วยนะครับเดินทางเวลาเข้าห้องน้ำหรือไปซื้อของในปั๊มน้ำมัน อย่าไปหมดรถ เฝ้ารถไว้สักคน เพราะผมโดนเหล็กแทงหม้อน้ำมาแล้ว หมดค่าซ่อมไปเป็นหมื่นครับ ไอ้พวกร้านซ่อมแถวข้างปั๊มน้ำมันนั่นแหละ หรือร้านที่ห่างปั๊มระยะที่น้ำหมดหม้อน้ำความร้อนสูงรถน็อกไปเลย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดน ผมเป็นทนายความต้องเดินทางไปต่างจังหวัดทุกอาทิตย์ เจอกับตัวเองมาสองครั้งแล้วครับ