ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนลอง ชุดเจ้าสาว
เตรียมพร้อมสำหรับการออกไปช็อปปิ้ง ชุดเจ้าสาว หรือยังคะ? ถ้ายัง เรามีข้อแนะนำเล็กๆสำหรับเจ้าสาวในอนาคตเกี่ยวกับการเลือกชุดแต่งงาน อ่านให้จบทั้ง 11 ข้อการออกไปลองชุด รับรองว่าได้ชุดสวยที่เหมาะกับตัวคุณเอง ทำให้วันพิเศษของสาวๆโดดเด่นยิ่งกว่าใคร!
มีราคาในใจ
อย่าเสียเวลาลองชุดแต่งงานโดยที่ยังไม่มีราคาในใจ สิ่งสำคัญที่สาวๆต้องทำก็คือประหยัดเวลาในส่วนของการเลือกชุดไปใส่ใจในเครื่องประดับและรายละเอียดอื่นๆของชุดดีกว่า จำไว้ว่าคุณอาจต้องซื้อของอื่นๆอย่างรองเท้า ชุดชั้นใน เวล และเครื่องประดับ ถ้าไม่บวกราคาของเหล่านี้ อาจทำให้เผลอๆเกินงบได้
เริ่มเสียแต่เนิ่นๆ
สาวๆต้องเผื่อเวลาไว้ราว 6 ถึง 8 เดือนสำหรับการเลือกชุดแต่งงาน ถ้าคุณเป็นคนประเภทที่ช่างเลือกหรือยังไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไรดี เผื่อเวลาไว้ล่วงหน้า 8 ถึง 10 เดือน ชุดเดรสแบบสั่งตัดจะใช้เวลาราว 6 – 8 เดือนในการเย็บ ในแบบที่มีรายละเอียดเยอะๆอาจใช้เวลาเป็นปี ทำไมถึงใช้เวลามาก? นั่นก็เพราะช่างตัดต้องทำชุดผ้ามัสลินขึ้นมาก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าชุดจะเข้ากับรูปร่างได้อย่างพอดี ถ้าเตรียมตัวช็อปปิ้งใกล้วันงานมากเกินไป อาจทำให้เลือกได้ชุดที่ไม่เข้ากับรูปร่างหรือไม่ถูกใจเพราะความรีบ หลังจาหที่เลือกชุดได้แล้ว ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 8 อาทิตย์ในการปรับชุดให้เข้ากับรูปร่างของเจ้าสาว
คิดเดรสโค้ด
สำหรับงานแต่งงานของครอบครัวที่เคร่งศาสนาที่ต้องการจะจัดงานแต่งงานตามพิธีการ สาวๆควรจะศึกษาก่อนว่ามีข้อห้ามอะไรบ้างที่คุณควรจะแจ้งให้แขกที่มางานแต่งงานรู้ไว้ก่อน เช่นห้ามโชว์ไหล่หรือโชว์คอ เป็นตัน
ลองคิดดูว่าตัวเองควรจะใส่สไตล์ไหน
ฤดูกับช่วงเวลาจัดงานแต่งงานส่งผลต่อการเลือกชุดแต่งงาน สไตล์และผ้าบางชนิดอาจไม่เข้ากับงานแต่งงานบางธีม ตัวอย่างเช่นชุดบอลกาวน์ตัวหรูอาจจะไม่เหมาะกับงานแต่งงานริมชายทะเลตอนกลางวันที่อากาศร้อนจัด สำรวจดูว่าชุดทรงไหนจะช่วยขับรูปร่างของคุณได้มากที่สุด
โทรแจ้งล่วงหน้า
การที่ร้านชุดแต่งงานที่คุณหมายตามีชุดของดีไซเนอร์ที่คุณชอบอยู่ นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะเจอชุดแต่งงานในฝันได้ง่ายๆ ถ้าคุณโทรมาที่ร้านล่วงหน้าแล้วบอกว่าสไตล์ที่ตัวเองชอบเป็นประมาณไหน ทางร้านจะได้สามารถเตรียมตัวอย่างชุดแต่งงานที่เหมาะกับคุณได้ ข้อดีอีกอย่างของการโทรนัดล่วงหน้าคือพนักงานจะให้ความสนใจกับคุณเต็มที่ตามเวลาที่ได้นัดไว้ นอกจากนั้น บางร้านอาจไม่อนุญาตให้ลองชุดแต่งงานถ้าไม่ได้โทรนัดไว้ก่อน ดังนั้นการแจ้งล่วงหน้านี่แหละดีที่สุด
ให้ทางร้านช่วยแนะนำ
อย่าพยายามตัดตัวเลือกออกโดยมองแค่ผ่านๆ ถ้าพนักงานแนะนำชุดให้คุณ ควรจะลองใส่ดูก่อน ถึงแม้ตอนแรกคุณอาจจะไม่ชอบหรือคิดว่าไม่เข้ากับตัวเอง มีทางเป็นไปได้ที่เจ้าสาวอาจตกหลุมรักชุดแต่งงานที่ตอนแรกตัวเองอาจไม่ได้ชอบหรืออยากได้ ไม่ใช่ทุกชุดที่ดูดีบนไม้แขวนเสื้อ ดังนั้นพยายามเปิดใจให้กว้างไว้
ช้อปให้ถูกเวลา
บ่ายวันเสาร์เป็นช่วงเวลาที่คนชอบไปลองชุดแต่งงานมากที่สุด ซึ่งบอกได้เลยว่าไม่ควรจองเวลานี้อย่างยิ่ง สาวๆอาจลางานซักครึ่งวันในวันอังคารหรือวัพฤหัสเพื่อไปลองชุด เพราะเวลานี้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน ร้านที่ปราศจากลูกค้าคนอื่นจะทำให้คุณมีสมาธิในการเลือกชุด อีกทั้งพนักงานยังสามารถดูแลและให้คำแนะนำคุณได้เต็มที่ ถ้าคุณเลือกไปช้อปของเซลล์ พยายามหลีกเลี่ยงงานเซลล์วันแรก ลองเช็ควันดูก่อน จากนั้นจึงค่อยไปวันท้ายๆ อีกเคล็ดลับหนึ่งสำหรับการช้อปปิ้ง: อย่าชวนเพื่อนไปเยอะ การชวนเพื่อนสาวไปช่วยเลือกชุดแต่งงานเป็นเรื่องที่ดี แต่บางครั้งจำนวนคนที่มากเกินไปอาจทำให้คุณเลือกชุดแต่งงานที่ใช่ได้ยากขึ้น
เลือกชุดเดรสที่เข้ากับหุ่นในตอนลอง
ถึงแม้คุณจะวางแผนลดน้ำหนักกับออกกำลังกายอย่างหนักก่อนวันแต่งงาน จำไว้ว่าร่างกายคุณไม่สามารถที่จะเปลี่ยนหรือลดขนาดได้มากขนาดนั้น นอกจากนั้น การเลือกชุดเดรสที่เข้ากับหุ่นยังง่ายกว่าการเลือกชุดเดรสที่มีขนาดเล็กกว่าตัวแล้วต้องมานั่งคำนวนว่าควรจะต้องรีดน้ำหนักออกอีกเท่าไหร่
อ่านข้อมูลให้ดี
เวลาที่คุณสั่งชุดแต่งงานจากร้าน สำคัญมากที่คุณจะต้องเช็คข้อมูลที่แนบมาหลายๆรอบ เพื่อกันไม่ให้ได้ชุดที่ผิดไซส์หรือผิดสี จากนั้นจึงเช็คว่าเป็นชุดของดีไซเนอร์ที่เล็งไว้หรือไม่ หมายเลขชุด ขนาดและสัดส่วน วันที่นัดส่ง ราคา รวมถึงจำนวนเงินที่ต้องวางให้ร้านไว้ก่อน
เอาเครื่องประดับของตัวเองไปลองด้วย
หลายร้านมักจะมีรองเท้าและถุงมือสำหรับให้ใส่ลองพร้อมกับชุดแต่งงาน ทว่าคุณก็ควรที่จะเตรียมเครื่องประดับของตัวเองพร้อมกับบราสีนู้ดและชุดชั้นในไปลองด้วย
เชื่อสัญชาตญาณตัวเอง
ถ้าคุณต้องการใครซักคนมายืนยันว่าชุดแต่งงานที่คุณลองคือชุดที่คุณชอบจริงๆ บางทีนั่นอาจไม่ใช่ชุดสำหรับคุณ ถ้านึกภาพตัวเองในชุดดังกล่าวเดินเข้าพิธีแต่งงานไม่ออก ลองมองหาชุดใหม่ เวลาที่คุณเจอชุดที่ใช่ คุณจะรู้สึกได้เองโดยที่ไม่ต้องให้ใครมาบอก