เป็นไปได้ไหม กับการล้างหน้าให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้นทันทีในขณะล้าง

เป็นไปได้ไหม กับการล้างหน้าให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้นทันทีในขณะล้าง

เป็นไปได้ไหม กับการล้างหน้าให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้นทันทีในขณะล้าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     คำตอบคือ เป็นไปได้แน่ แค่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่เหมาะสม และล้างหน้าให้ถูกวิธี

     อย่างที่สาวๆ รู้กันดีอยู่แล้วว่า การจะแต่งหน้าให้สวยเด้งได้นั้น ต้องเกิดจากพื้นฐานผิวที่ดี ถึงจะทำให้เครื่องสำอางติดทนนาน ซึ่งการเตรียมผิวให้ดีนั้น นอกจากจะมาจากการบำรุงผิวด้วยสารพันเซรั่มและมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ต่างๆ แล้ว ที่จริงต้องเริ่มตั้งแต่การล้างทำความสะอาดผิวหน้า ที่ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดก็ว่าได้ เพราะการล้างหน้าที่ถูกวิธี จะเป็นการส่งเสริมให้ผิวพร้อมรับการบำรุงได้อย่างสูงสุด

     ความสำคัญของการล้างหน้าไม่เพียงแต่จะต้องล้างให้สะอาด เพื่อขจัดเครื่องสำอางและบรรดาสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขนออกไปเท่านั้น แต่การล้างหน้าที่ดีที่สุดก็คือ การล้างและบำรุงผิวหน้าไปด้วยในขั้นตอนเดียวกัน

     แต่จะล้างหน้าอย่างไรล่ะ ถึงจะมั่นใจได้ว่าผิวหน้าสะอาดหมดจด และได้รับการฟื้นบำรุงให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นไปในตัว ลองทำตาม 4 วิธีนี้ดู แล้วคุณจะเห็นผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ

  1. เช็ดเครื่องสำอางออกให้หมดก่อนล้างหน้าทุกครั

     ใช้คลีนซิ่งหรือรีมูฟเวอร์ที่เหมาะกับผิวของคุณเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางก่อนสัก 1-2 รอบ โดยสำหรับคนที่เป็นสิวง่าย ควรใช้คลีนซิ่งแบบน้ำหรือ Water Base เป็นหลัก หรือจะใช้แบบเนื้อโลชั่นหรือน้ำนมก็ได้

 

  1. ล้างหน้าตามแนวโพรงขน

     ทฤษฎีการล้างหน้าหลักๆ แล้วมีอยู่ 2 วิธี คือ ล้างแบบวน โดยใช้นิ้วมือนวดผิวหน้าเป็นวงกลมให้ทั่วทั้งใบหน้า กับอีกแบบคือ การล้างหน้าตามแนวโพรงขน โดยใช้ปลายนิ้วมือทั้ง 2 ข้าง ลูบจากกึ่งกลางหน้าผากออกไปทางด้านข้าง จากนั้นก็ลูบทำความสะอาดตั้งแต่บริเวณหัวตา ลงไปที่ดั้ง ปลายจมูก และบริเวณด้านข้างของปาก และเมื่อมาถึงบริเวณโหนกแก้มให้ลูบออกไปทางด้านข้าง โดยถูเป็นทิศทางเดียวกันตลอด ไม่ถูสวนขึ้นหรือวนไปมา ซึ่งการล้างหน้าตามแนวโพรงขนถือเป็นการรีดเอาสิ่งสกปรกออกจากผิวหน้าโดยตรง นอกจากจะช่วยลดการเกิดสิวแล้ว ยังลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรอีกด้วย

 

     ข้อสำคัญคือ ไม่ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เพราะน้ำอุ่นจะทำให้ผิวแห้งและขาดความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและอักเสบง่าย รวมถึงการล้างหน้าบ่อยเกินไปก็ทำให้ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น และผิวขาดความสมดุลได้เช่นกัน

 

  1. เลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิว

     นอกจากจะล้างหน้าให้สะอาดแล้ว การคงความชุ่มชื้นเอาไว้ในผิวก็สำคัญไม่แพ้กัน กว่าจะรอให้ล้างหน้าเสร็จแล้วซับหน้าให้แห้งก่อนค่อยบำรุง ก็ดูจะช้าเกินไปสำหรับสาวๆ หลายคน ทางลัดก็คือ บำรุงผิวตั้งแต่ตอนล้างหน้าเสียเลย ซึ่งโฟมล้างหน้าทั่วไปขาดคุณสมบัติข้อนี้ และมีแต่จะทำให้ผิวหน้าแห้งตึงจนเกินเหตุ ทำให้ผิวไม่พร้อมรับการบำรุง

 

     ส่วนคำตอบที่หลายคนตามหาก็คือ มูสโฟม หรือ วิปโฟม ที่นอกจากจะมีเนื้อที่หนานุ่มแล้ว ยังตรงเข้าบำรุงผิวในทันที ที่สำคัญคือ ต้องเลือกสารสกัดที่เหมาะกับผิวของแต่ละคน จึงจะยิ่งทำให้การล้างหน้ามีประสิทธิภาพสูงสุด

     อย่าง NIVEA Pearl White Super Mousse และ NIVEA Pearl White Caring Whip ที่ผสานสารสกัดจากไข่มุก ช่วยให้ผิวหน้าแลดูขาวกระจ่างใส อ่อนโยนต่อผิว จึงทำให้สามารถทำความสะอาดสิ่งสกปรกและเมคอัพอุดตันที่ตกค้างบนผิวหน้าได้ดี และด้วยสัมผัสของมูสเนื้อแน่นนุ่มละเอียด จึงอ่อนโยนต่อผิว ช่วยลดโอกาสเกิดริ้วรอยก่อนวัยจากการถูผิวหน้าซ้ำๆ ทั้งยังมีมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เข้มข้น 3 เท่า ช่วยเติมความชุ่มชื้น ทำให้รู้สึกเหมือนใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงไปพร้อมๆ กับการล้างหน้า พร้อมปกป้องผิวด้วยสูตร 0% Soap 0% alcohol ปราศจากความเป็นด่างจากสบู่ ไม่ทำให้รู้สึกตึงหลังล้างหน้าอีกด้วย

 

     สำหรับใครที่มีผิวมันเป็นพิเศษ แนะนำ NIVEA White Oil Clear Super Mousse และ NIVEA White Oil Clear Caring Whip ที่ผสานสารสกัดคาร์นีทีน ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าระหว่างวัน และลดโอกาสการเกิดสิวอุดตันได้ดี มีมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เข้มข้น 3 เท่า ช่วยบำรุงผิวขณะล้างหน้าเช่นกัน

     รู้จักเคล็ดลับการล้างหน้าแบบถนอมและบำรุงผิวไปในตัวแบบนี้แล้ว หมดกังวลเรื่องการแต่งหน้าไม่ติดทนนานได้เลย คราวนี้คุณก็สามารถสวยปิ๊งได้ทั้งก่อนและหลังล้างหน้าแน่นอน

 

 

 [Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook