อาหารผิวจากผักผลไม้ในครัว ตัวช่วยความงามที่สาวๆ ไม่ควรพลาด

ด้วยสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยที่ค่อนข้างจะร้อนอบอ้าวตลอดเวลา แสงแดดก็ช่างแผดเผาไปทุกสรรพสิ่ง ถึงแม้จะทาครีมกันแดด และครีมบำรุงตลอดเวลาก็ยังเอาไม่อยู่ จึงเป็นเหตุให้ผิวพรรณ และผิวหน้าของเราดูหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใสเท่าที่ควร บางรายถึงขั้นเป็นฝ้าจนต้องเสียค่ารักษาพยาบาลมากมาย แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพียงแค่เดินเข้าไปหยิบ "อาหารผิว" จากในครัวเพียง 5 ชนิดดังต่อไปนี้

1.แตงกวา

แตงกวาเป็นผักชนิดหนึ่งที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 90% จึงช่วยในการเติมน้ำให้กับผิวหนังให้มีความชุ่มชื้นได้ นอกจากนี้ยังมีวิตามินอี และวิตามินซี ที่ช่วยในการลดเลือนจุดด่างดำพร้อมปรับสภาพสีผิว ถ้าหากไม่ชอบทานแตงกวา จะเอามาพอกลงบนหน้าหรือบนผิว ก็จะได้ผลที่ดีไม่แพ้กัน

2.มะนาว

จะเป็นมะนาว หรือเลมอนของฝรั่งก็ได้ นำมาคั้นดื่มเพียงวันละ 1 แก้วเท่านั้น วิตามินซีในมะนาวและเลมอน จะช่วยปรับสภาพผิวให้มีความขาวเนียนออร่า และยังช่วยลดการเป็นหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะร่างกายได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอ และนอกจากนี้ การดื่มน้ำมะนาว ยังช่วยฆ่าเชื้อและดีท็อกซ์ในลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดียิ่งขึ้น ปัญหาสิวก็จะเกิดน้อยลงตามมา

3.อะโวคาโด

อะโวคาโดเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่นำเข้าจากต่างประเทศ อาจมีราคาสูง แต่ก็เต็มไปด้วยวิตามินเอ วิตามินอี และวิตามินซี ที่ประโยชน์ต่อผิวเป็นอย่างยิ่ง การทานอะโวคาโดเป็นประจำ จะช่วยลดเลือนจุดด่างดำ พร้อมกับปรับสภาพผิวที่หยาบกระด้างให้กลับมาเนียนนุ่มได้เหมือนเดิม

4.แอปเปิ้ล

แอปเปิ้ล เป็นอาหารผิวที่เต็มไปด้วยสารแอนตี้ออกซิเดนท์ ที่ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ และช่วยเสริมการทำงานของคอลลาเจน จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร และเสริมสร้างให้เซลล์ผิวมีความแข็งแรงได้เป็นอย่างดี และด้วยแคลอรี่ที่ไม่สูงมากนัก จึงสามารถใช้ทานเป็นอาหารว่างระหว่างลดความอ้วนได้โดยไม่ต้องจำกัดการรับประทานเลย (ได้ทั้งแอปเปิ้ลเขียวและแอปเปิ้ลแดง)

5.สตรอเบอร์รี่

สตรอเบอร์รี่ เป็นอีกผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง และยังมีวิตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัส ที่กระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนของโลหิตมาหล่อเลี้ยงบริเวณผิวหนัง จึงทำให้ผิวดูมีสุขภาพดี และมีความกระจ่างใสแบบเป็นธรรมชาติ ถ้าทานต่อเนื่องเป็นประจำ

ใครที่กำลังมีปัญหากับสภาพผิวเสียอยู่ ต้องรีบเดินไปสำรวจครัวแล้วว่า มีผักและผลไม้เหล่านี้หรือไม่ ถ้ามีก็รีบหยิบมาทานเลย เพื่อจะได้ฟื้นฟูสภาพผิวให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม