โสดแบบกะทันหัน! 7 ความผิดพลาด จากคนเคยมีแฟน แต่ตอนนี้โสดแล้ว
สวัสดีจ้า สาวๆ ที่กำลังอยู่ในห้วงแห่งความรัก เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากที่เราได้รักใครสักคนที่มีความรู้สึกเหมือนกันกับเรา ตั้งแต่เริ่มแรก ช่วงเวลาของการได้แอบรัก เป็นช่วงที่ทำให้จิตใจรู้สึกมีกำลังใจ ท้าทาย อยากรู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับเรา และเมื่อได้ทราบถึงความรู้สึกที่ตรงกันแล้ว ก็ทำให้กลายเป็นคนรู้ใจกันได้ในที่สุดพอได้เป็นคู่รักกันอย่างเป็นทางการ หลายคนก็พลาดตรงที่คิดว่า มันจะเหมือนเดิมตลอด ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป รักกันแล้ว สนิทกันมากขึ้นแล้ว ก็ต้องมีแต่รักมากขึ้นสิ?
ถ้าใครคิดแบบนี้ ก็ถือว่าอยู่ในความประมาท เพราะในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน แม้แต่คนที่เราคิดว่ารักกันมากๆ จนไม่มีวันสลาย ต่างก็ต้องเลิกกันแบบเจ็บๆ มานักต่อนักแล้วถ้าไม่อยากเป็นเหยื่อของความรักที่ไม่สมหวังล่ะก็ ลองมาดูคำสารภาพจากผู้หญิงที่มีแฟนอยู่ดีๆ แต่ต้องโสดแบบกระทันหันกันดีกว่า กับ...7 ข้อผิดพลาด! ทำแบบนี้ บอกเลิกไปเลยดีกว่า
1 ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
ญ : นี่ ทำอะไรอยู่เหรอสุดหล่อ ( 10 นาทีผ่านไป)
ช : ว่าไงครับ มาแล้วๆ
ญ : ทำไมเพิ่งตอบอ่ะ
ช : ก็มาแล้วไง มีอะไรคนสวย
ญ : ไม่สงไม่สวยอ่ะ ถ้าสวยก็ต้องรีบตอบแล้วดิ เขียนไปตั้งนานแล้ว เพิ่งมาตอบนี่มีอะไรรึเปล่า ตอบคนอื่นอยู่สินะ ใช่สิ เบื่อเค้าแล้วนิ เมื่อก่อนล่ะตอบภายใน 2 วิ ทีตอนนี้นะทำมาเป็นลืม แน่ๆ เลยแหละ แอบคุยกะคนอื่นอยู่สินะ
โอ้ยยย พอแล้วจ้า จะอะไรขนาดนั้น หลายคนชอบคิดมากเวลาแฟนทำอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไป อย่างเช่นจากบทสนทนาข้างบนเนี้ย เขาก็ไม่ได้ไปคุยกะสาวที่ไหนหรอก ก็แค่เล่นเกมอยู่ แล้วมันละหน้าจอไปไม่ได้ต่างหากเล่า
นิสัยขี้คิดมาก เป็นนิสัยอย่างหนึ่งที่ผู้ชายอยากหนี เป็นคนคิดเยอะมันก็ดี แต่ถ้าแบบนี้ก็เยอะเกิน บางคนนี่คิดมากถึงขั้นที่ว่า เก็บข้อมูลแฟนตัวเองไปยังกะจะวิจัยอะไรสักอย่าง ทำไมวันนี้ตอบสั้น ทำไมไม่ส่งอีโมหน้ายิ้มมาเลยล่ะ มีอะไรรึเปล่าเนี่ย เราทำอะไรให้ไม่พอใจรึเปล่านะ แม่ประคุณเอ้ยยย ผู้ชายเป็นประเภทที่ไม่ชอบเรื่องดราม่าที่สุด แล้วถ้าแฟนเขาดันหาเรื่องให้ทะเลาะกันบ่อยๆ งี้ เป็นใครก็เผ่นละจ้า
2 ไม่มีชีวิตเป็นของตัวเอง
ข้อที่สองที่ผู้หญิงส่วนใหญ่พลาด นั่นคือ การที่ติดอยู่กับแฟนมากเกินไป จนเหมือนไม่มีชีวิตเป็นของตัวเอง หนุ่มไปไหน เราไปด้วย พอเราจะไปไหน ก็ต้องให้แฟนหนุ่มตามไปด้วย เหมือนจะหวานๆ กระหนุงกระหนิง ถามเขายัง อยากไปด้วยมั้ย?อย่าหาว่าผู้ชายใจร้ายเลย แต่ว่าใครๆ ก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นงานอดิเรก การใช้เวลาว่างส่วนตัว หรือแม้แต่การตัดสินใจเรื่องส่วนตัวบางอย่าง ถ้าหากการมีแฟนทำให้ต้องสละทิ้งความเป็นตัวเองทุกอย่าง มันก็ไม่ใช่ความสุขหรอก
ถ้าสาวๆ คนไหนรับข้อนี้ไม่ได้ก็ให้ถามตัวเองว่า เมื่อก่อนตอนอยู่คนเดียวก็อยู่เองได้ แต่ทำไมมีแฟนปุ๊ป เกิดอ่อนแอ เป็นคนขี้เหงา อยู่ด้วยตัวเองไม่ได้ทันทีเอาเป็นว่า เราก็มีชีวิตของเรา เขาก็มีชีวิตของเขา ถ้าเราตามติดจนแฟนต้องแอบส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากสัญญาทาสนี้ทางสายตา จะไม่น่าสงสารเกินไปหรอกเหรอ
3 ชอบคิดลบ
ผู้หญิงนี่เป็นคนชอบคิดเนอะ นอกจากคิดมากแล้ว ยังเสี่ยงต่อการคิดลบอีกด้วย การมีคนใกล้ตัวเป็นคนที่คิดลบ คอยพูดอะไรที่ทำให้รู้สึกเครียดหรือมีปัญหาตลอดเวลาเป็นอะไรที่แย่มากๆ ถ้าใครคิดไม่ออกก็ลองจินตนาการดูว่า ถ้าต้องอยู่กับแฟนที่วันหนึ่งๆ เอาแต่สงสัยว่า ทำไมไม่เห็นบอกรักบ้าง วันต่อมาก็มาพูดว่า รู้นะ.. อยากจะเลิกกับเราใช่มั้ยล่ะ อยู่ด้วยกันไปมันจะมีความสุขมั้ยล่ะ
ลองถามตัวเองดูโดยเฉพาะอย่างยิ่งแบบที่บอกไปแล้วว่า ผู้ชายเป็นประเภทที่ไม่ชอบสถานการณ์ดราม่าสุดๆ แล้วถ้าต้องมาเจอสถานการณ์นี้กับแฟนสาวของเขาแบบตัวๆ คงอยากจะทุบหัวตัวเองให้แตกตายไปเลยก็ว่าได้ ถ้าใครไม่อยากเลิกกับแฟนแบบไร้สาเหตุก็อย่าทำให้เขารู้สึกว่าได้รับรังสีดำๆ อึดอัดๆ มาจากตัวคุณตลอดเวลานะจ๊ะ
4 พยายามที่จะเปลี่ยนเขา
สิ่งหนึ่งที่ทำให้คนรู้สึกดีกับตัวเองก็คือ การที่รู้ว่ามีคนชอบเราในแบบที่เราเป็น จะช่วยให้ความพึงพอใจในตัวเองมีสูงขึ้น ซึ่งแฟนของคุณ เขาก็มีความภูมิใจของเขาที่ตัวเขาเป็นแบบนี้ แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรไปเปลี่ยนคนอื่นให้เป็นในแบบที่ตัวเองชอบ ถึงแม้ว่าสิ่งที่คุณบอกให้เปลี่ยนจะทำให้เขาดีขึ้นก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่า เขาก็ยังอยากให้คุณชอบตัวตนที่แท้จริงของเขามากกว่าคนทุกคนคาดหวังให้มีคนที่จะมารักตัวเองในแบบที่เป็น ฉะนั้น การมีใครมาคอยบังคังให้เราเปลี่ยนไปจนไม่ใช่ตัวเอง ใครๆ ก็ไม่ชอบ โดยเฉพาะถ้าเป็นคนที่ควรจะเข้าใจเขาที่สุดแล้วด้วยเนี่ย ตอนแรกพบเจอกันในรูปแบบไหน ก็แสดงว่าชอบเขาในรูปแบบนั้น แต่ถ้าหลังคบกันแล้วมาพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเขานี่ ที่ผ่านมามันคืออะไร๊ ?!
5 คาดหวังอะไรมากเร็วเกินไป
หลายคนที่มีแฟนส่วนใหญ่แล้ว ก็มักคาดหวังถึงการได้แต่งงาน ได้มีลูก ได้มีครอบครัวเป็นของตัวเอง ซึ่งถ้าคบกันแล้วมันดูเป็นไปได้ ถึงตอนนั้นก็ควรจะวางแผนอนาคตได้แล้ว แต่ไม่ควรรีบทำเหมือนจะสร้างครอบครัวกับเขาเลย ถ้าคุณเพิ่งจะคบกันได้ไม่นานการมีครอบครัว นั่นหมายถึงว่าคุณจะสามารถมีเวลา มีเงินพร้อม มีการงานที่ดีพอ ซึ่งการที่คุณไปแสดงออกว่าอยากมีครอบครัวกับเขา พูดถึงลูก พูดถึงการแต่งงาน ทั้งๆ ที่เพิ่งคบกัน จะทำให้กลายเป็นความกดดัน
ความรักที่หวานชื่นเริ่มแรกนั้น ก็จะกลายเป็นมาคุขึ้นมาทันที และผู้ชายก็จะเริ่มเฟดๆ ตัวห่างออกไปโดยอัตโนมัติ เอาน่ะ.. ถ้าคบกันนานมาก จนเหมือนจะเป็นคนเดียวกันแล้ว พูดตอนนั้นก็ยังไม่สายไปนะจริงๆ แล้วความรักมันมีสเต็ปของมันอยู่ ใครอยากรู้ว่าความรักมีกี่ขั้น แล้วแต่ละขั้นเป็นอะไรบ้าง ลองดูกันได้ที่บทความนี้เลยค่ะ
6 คอยเอาแต่มองหาปัญหา
ขอจับมัดรวมกับสาวที่ชอบคิดลบไปเลย สาวส่วนใหญ่ที่มักจะคอยมองหาปัญหาในความสัมพันธ์ของตัวเอง มักจะเป็นคนที่เคยเข็ดกับความรักในอดีต ที่บังเอิ๊ญญญไปเจอกับผู้ชายนิสัยไม่ดีเข้า จนทำให้ต้องคอยระแวงกับความรักในปัจจุบัน ทำให้แฟนหนุ่มที่ไม่ได้มีพิษภัย โดนหมายหัวตามไปด้วยบางคนเป็นหนักมาก คอยจับจ้องพฤติกรรมผู้ชายตลอดเวลา แล้วมาคิดเองเออเองจนกลัวว่าจะโดนบอกเลิก ก็เลยชิงเป็นฝ่ายบอกเลิกก่อน เสียโอกาสไปอี๊กกก นี่เธอ..ผู้ชายไม่ได้ดีทุกคนก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเลวทุกคนด้วย ฉะนั้น ระหว่างคบกัน แทนที่จะมาคอยจ้องจับผิด เอาเวลาไปเก็บเกี่ยวโมเมนต์อันหวานชื่นระหว่างคุณสองคนไม่ดีกว่าเหรอ
7 พูดถึงแฟนเก่า
เป็นเรื่องที่น่าปวดหัวมาก ตั้งแต่เด็ก ก็โดนเทียบการเรียนกับเด็กข้างบ้าน โตขึ้นมาหน่อยก็โดนเปรียบเทียบเงินเดือนกับลูกของญาติ คิดว่าจะรอดแล้ว ก็ดั๊นนน...โดนเปรียบเทียบกับแฟนเก่าเธอไปอีก อะไรจะน่ารันทดใจขนาดนั้นไม่ว่าใครก็ไม่ชอบให้โดนเปรียบเทียบ เราทุกคนมักเคยโดนมาแล้วแน่นอน งั้นก็ลองถามตัวเองดูสิว่าชอบมั้ย ? การที่คุณเอาเขาไปเปรียบเทียบกับแฟนเก่าตัวเอง เป็นการดูถูกเขาแบบขนานใหญ่มาก ดีไม่ดี แฟนหนุ่มอาจคิดในใจ ถ้าดีมาก ก็กลับไปหามันซะเลยเซ่ !
แต่ละข้อถือว่าเป็นฝันร้ายของชีวิตคู่มาก ขนาดแค่อ่านยังรู้สึกว่าไปไม่รอด แล้วของจริงนี่ยังไงก็ไม่มีทางฝืนให้รักกันต่อได้แน่นอน ฉะนั้น ถ้าใครโชคดีมีโอกาสได้มีแฟนแล้ว ก็รักษาความรักนั้นไว้ อย่าไปทำลายโอกาสด้วยนิสัยประหลาด 7 ข้อนี้เชียวนะ !
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ