5 คำถามสุดฮิตที่คุณแม่ท้องโตสงสัยมากที่สุด
หลากหลายคำถามเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ ที่คุณหมออาจเคยโดนถามแบบนี้มาแล้วนับล้านครั้ง แต่คุณกำลังจะมีลูกคนแรกและมีคำถามที่ต้องการคำตอบมากมาย มัวรีน รอยด์ พยาบาลประจำของ M&B ตอบคำถามที่ข้องใจคุณแม่มากที่สุดเอาไว้ดังนี้
1 ฉันดื่มหนักตอน 2-3 สัปดาห์ก่อนรู้ว่าตั้งครรภ์ จะมีผลกระทบกับลูกในครรภ์หรือไม่?
"แค่ครั้งเดียวไม่เป็นอันตรายกับลูก ดังนั้นอย่ามัวกังวลสิ่งที่ทำไปแล้ว ตอนนี้คุณตั้งครรภ์อยู่ให้ระวังปริมาณการดื่มที่ปลอดภัย ให้เหลือเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งในปริมาณเล็กน้อยหรือไม่ก็เลิกไปเลย เรื่องบุหรี่ก็เช่นกันเพราะเพิ่มความเสี่ยงในการแท้ง น้ำหนักแรกคลอดน้อยและคลอดก่อนกำหนด ดังนั้นให้ลดหรือเลิกไปเลย อย่ากังวลกับอดีต พยายามผ่อนคลายและมีความสุขกับปัจจุบันดีกว่า"
2 ฉันอดกังวลเรื่องทารกในครรภ์ไม่ได้ ความเครียดจะมีผลอย่างไรกับทารกบ้างไหม?
"คุณแม่ที่มีอาการเครียดตอนตั้งครรภ์ มักส่งผ่านโรคที่เป็นอันตราย เช่น โรคหัวใจและโรคเบาหวานให้กับลูกในครรภ์ เนื่องจากฮอร์โมนความเครียดส่งผ่านรกเข้าไปได้
ทว่าความเครียดเป็นบางครั้งไม่ได้เป็นอันตรายกับทารก จากการศึกษาพบว่าทารกที่แม่มีประสบการณ์เครียดอาจมีความก้าวหน้าของพัฒนาการในด้านต่างๆ ไวกว่าทารกทั่วไปด้วยซ้ำ
โดยปกติช่วงตั้งครรภ์จัดเป็นช่วงเวลาสุดเครียดสำหรับคุณแม่คนใหม่ แต่ความเครียดอย่างหนักอาจส่งผลต่อระดับฮอร์โมนคอติโซลให้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเชื่อมโยงกับภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ และการคลอดก่อนกำหนด ดังนั้นหากรู้สึกกังวล ให้พูดคุยเพื่อแบ่งปันความกังวลกับสามีหรือครอบครัว สอบถามแพทย์หากสงสัยเกี่ยวกับอาการที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ และหาเวลาผ่อนคลายด้วยการ ฝึกโยคะหรือฟังเพลงที่คุณโปรดปราน"
3 ฉันควรรู้สึกว่าลูกดิ้นบ่อยแค่ไหน?
"เป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรรู้สึกถึงอาการลูกดิ้นโดยเฉพาะตอนครรภ์แก่ ถ้ารู้สึกว่าพฤติกรรมลูกเปลี่ยนไปหรือดิ้นน้อยกว่า 10 ครั้งในระหว่างมื้ออาหารเช้าถึงมื้อเย็น ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินการเต้นของหัวใจทารก (CTG)"
4 ฉันควรไปโรงพยาบาลหรือไม่ ถ้ามีเลือดออก?
"เลือดออกตอนตั้งครรภ์มีปริมาณที่แตกต่างกันไปตั้งแต่เป็นดวงเล็กๆ ไปจนถึงเปียกชุ่ม ช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์หากมีเลือดออกเป็นจุดเล็กๆ สาเหตุอาจเกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนกับเยื่อบุมดลูก แต่ถ้ามีเลือดออกมาปริมาณมากอาจบ่งชี้ถึงปัญหาที่รุนแรงกว่า ถ้าคุณมีเลือดออกตอนเริ่มตั้งครรภ์ให้ติดต่อแพทย์เพื่อทำการอัลตราซาวด์ดูว่าทุกอย่างปกติดีหรือไม่ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายอาการเลือดออกที่เกิดขึ้นมีหลากหลายสาเหตุ เช่น คอมดลูกสึก, เนื้องอก (เติบโตที่มดลูก) หรืออาจเป็นผลจากการมีเพศสัมพันธ์ ก็เป็นได้เช่นกัน การตรวจด้วยวิธีอัลตราซาวด์และตรวจเลือดสามารถบ่งชี้สาเหตุที่แท้จริงได้ อย่างไรก็แล้วแต่อาการเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์ ไม่ว่ามากน้อยถือเป็นสิ่งผิดปกติและควรพบแพทย์"
5 จะรู้ได้อย่างไรว่าฉันกำลังเจ็บครรภ์คลอด?
"เมื่อเข้าสู่ช่วงใกล้คลอด คุณจะเริ่มรู้สึกว่ามดลูกบีบรัดตัวผิดปกติ ซึ่งเป็นการซ่อมบีบรัดตัวของมดลูกที่เรียกว่า Braxton Hicks อาการจะรุนแรงขึ้นและดำเนินอยู่นาน 2-4 ชั่วโมง ระหว่างนี้หากคุณรู้สึกอึดอัดคุณสามารถขอใช้เครื่อง TENS (เครื่องนวดไฟฟ้าช่วยกระตุ้นเส้นประสาทผ่านทางผิวหนังเพื่อลดความเจ็บปวด) และช่วง 1-2 วันก่อนเจ็บครรภ์คลอดคุณอาจรู้สึกว่ามีของเหลวปริมาณมากที่บริเวณปากช่องคลอด ของเหลวดังกล่าวมีลักษณะข้นใสหรืออาจมีเลือดปนอยู่เล็กน้อย ซึ่งคุณแทบมองไม่เห็นด้วยซ้ำ ถ้าไม่สังเกต
หากคุณเข้าสู่ภาวะเจ็บครรภ์คลอดอย่างแท้จริง อาการบีบรัดตัวที่เกิดขึ้นจะมีรูปแบบที่แน่นอน และใช้เวลานานเกิน 40 วินาที ลักษณะขึ้นๆ ลงๆ เหมือนคลื่น บางครั้งมีน้ำเดินร่วมด้วย ดังนั้นคุณควรขอคำแนะนำจากแพทย์ ถ้าไม่แน่ใจว่าอาการที่เกิดขึ้นคืออะไรกันแน่
"ประสบการณ์ในการทำคลอดของมัวรีน"
มัวรีน เป็นพยาบาลมา 31 ปี เธอมีลูก 4 คน หลานอีก 1 คน เห็นเรื่องราวแปลกๆ ในห้องคลอดมาเพียบ และวันนี้เธอขอเล่าถึงประสบการณ์ในการทำคลอดของเธอให้ได้ฟังร่วมกัน
ประสบการณ์การทำคลอดในรูปแบบไม่ปกติที่สุดของคุณเป็นอย่างไร?
"ฉันเคยทำคลอดทารกบนเรือเฟอร์รี่ที่ช่องแคบโดเวอร์ตอนเกิดพายุ สภาพอากาศแย่มากจนกัปตันจอดเรือไม่ได้ เขาจึงพาฉันขึ้นเรือกู้ภัยซึ่งกระเด้งกระดอนซะไม่มี เหมือนในละครไม่มีผิด"
ทารกตัวใหญ่ที่สุดที่คุณเคยทำคลอดมีน้ำหนักเท่าไร?
"เป็นเด็กผู้หญิงหนัก 13 ปอนด์ ตัวใหญ่มาก ทำเอาช็อกไปพร้อมๆ กันทั้งคนทำคลอดและคนที่คลอดแกออกมา"
มีเรื่องน่าจดจำเกี่ยวกับพวกพ่อๆ บ้างไหม?
"พ่อคนหนึ่งเป็นลมไปต่อหน้าลูกที่คลอดออกมา ศีรษะฟาดกับเครื่องทำความร้อนจนเลือดคั่งต้องนอนโรงพยาบาล เลยพลาดไม่ได้เห็นหน้าลูกแรกคลอด ฉันต้องพาแม่และลูกไปเยี่ยมพ่อแทน"
คุณทำคลอดทารกมากี่คนแล้ว?
"ตลอดระยะเวลา 31 ปี ฉันทำคลอดมานับพันครั้งจนตอนนี้เลิกนับแล้ว"
คุณคิดว่าอะไรเป็นสิ่งสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างคนเป็นแม่กับคนทำคลอด?
"ฉันมองว่าการสื่อสารที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ พยาบาลต้องสนับสนุนแม่ให้เลือกวิธีคลอดที่เหมาะสมด้วยตัวเอง คอยอำนวยความสะดวก ให้ยาแก้ปวด เพื่อให้การคลอดผ่านไปด้วยดี"
คำแนะนำสำหรับว่าที่คุณพ่อ
"ว่าที่คุณพ่อย่อมต้องการผู้สนับสนุนเช่นกัน อาจด้วยการพูดคุยระหว่างคู่ครอง หรือพูดคุยกับเพื่อนซึ่งเคยเป็นพ่อมาแล้วก็ได้ และอย่ากลัวที่จะขอคำแนะนำหรือสอบถามปัญหาที่สงสัยจากแพทย์หรือพยาบาล หากมีโอกาสไปเข้าร่วมชั้นเรียนเตรียมคลอดกับภรรยา"