อย่ามองข้าม! สัญญาณเตือนร่างกายที่บอกว่าลำไส้ไม่ได้แข็งแรงเหมือนเดิม

หลากหลายปัญหาที่ทำให้ลำไส้มีปัญหา โดยเฉพาะในเรื่องอาหารการกินในแต่ละวันย่อมมีผลอย่างมาก แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ตัวว่าลำไส้ของตัวเองเริ่มมีความผิดปกติ หรือไม่มีความแข็งแรงเหมือนแต่ก่อน วันนี้เรามีสัญญาณเตือนที่จะทำให้คุณรู้ว่าลำไส้ของคุณไม่ได้แข็งแรงอย่างที่คิดอีกต่อไป ซึ่งสัญญาณเตือนดังกล่าวมีดังนี้

ไม่สบายบ่อยเกินไป

หนึ่งในสัญญาณเตือนที่บอกให้คุณรู้ว่าลำไส้ของตัวเองไม่ได้แข็งแรงเหมือนเดิมก็คือ ร่างกายไม่สบายบ่อยมาก ซึ่งสัดส่วนของระบบภูมิคุ้มกันร้อยละ 70-80% จะเป็นระบบทางเดินอาหาร ส่วนเซลล์บางชนิดในลำไส้ก็จะทำการขับแอนติบอดี้ที่ต่อสู้กับเชื้อโรคในร่างกายออกไป ดังนั้นหากลำไส้ของคนเรามีความแข็งแรง โอกาสในการที่จะเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองน้อยลง แต่หากลำไส้ไม่แข็งแรงโอกาสก็จะสูงขึ้น

มีอาการท้องอืดอยู่ตลอดเวลา

หากลำไส้ไม่แข็งแรง ร่างกายก็จะมีอาการท้องอืดอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาการท้องอืดพุงป่องนั้นมักเกิดจากการที่แก๊สในลำไส้มีในปริมาณที่มากจนเกินไป และร่างกายก็พยายามที่จะย่อยอาหารบางชนิดไปด้วย เช่น โปรตีนและคาร์โบไฮเดรต ที่สำคัญสัญญาณนี้ยังเป็นสัญญาณของโรคที่ซ่อนอยู่ด้วย ดังนั้นหากมีอาการท้องอืดตลอดเวลาก็ควรรีบปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด

แพ้อาหารบางชนิดแบบดื้อๆ

เมื่อลำไส้ไม่แข็งแรงหรือลำไส้รั่วก็จะทำให้ร่างกายเกิดการแพ้อาหารบางชนิดแบบไม่รู้ตัว นั่นเป็นเพราะการซึมผ่านของลำไส้มีความอ่อนแอ รวมทั้งอนุภาคของอาหารที่ไม่ถูกย่อยจะผ่าทะลุผ่านรูเล็กๆ เข้าไปในกระแสเลือด และระบบภูมิคุ้มกันก็จะมองว่าอนุภาคเหล่านี้เป็นสิ่งแปลกปลอม จึงเริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนอง ซึ่งหากร่างกายยังได้รับอาหารชนิดนั้นอยู่ ต่อไปร่างกายก็จะตอบสนองเช่นเดิมและทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดได้

อารมณ์เสียบ่อยมาก

หากคุณมีความกังวล อารมณ์เสียบ่อยมาก รวมทั้งมีอาการเครียด ท้องผูก ท้องเสีย และท้องอืด นักวิจัยได้บอกว่ามันคือผลจากการที่ลำไส้ของคุณมีปัญหา ซึ่งว่ากันว่าไมโครไบโอมนั้นจะส่งผลต่อสารสื่อประสาทในสมองโดยตรง และการทานอาหารเสริมบำรุงแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้อย่างพรีไบโอติก จะช่วยคลายความกังวลได้ เนื่องจากมันจะทำให้คอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดลดลง และนอกจากนี้ร่างกายยังสร้างสารเซโรโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุขเพิ่มขึ้นในลำไส้อีกด้วย

เพราะสัญญาณเตือนมักมีความหมายและพยายามบอกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของเรา ดังนั้นอย่าได้มองข้ามและคิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น หากรู้ความหมายของสัญญาณเตือนต่างๆ ย่อมทำให้สามารถเตรียมรับมือกันได้ทัน อย่างน้อยการป้องกันไม่ให้ลำไส้ได้รับความเสียหายมากกว่าเดิม ย่อมดีกว่าการแก้ปัญหาและรักษาลำไส้ที่ผ่านการถูกทำลายแล้ว