คุณแม่ควรรู้! ลูกรักเลิกขวดนมช้า มีผลเสียกว่าที่คิด
เมื่อลูกน้อยอายุครบ 1 ปีแล้วจึงสมควรเป็นเวลาที่ลูกจะต้องเลิกดูดนมเสียที แต่ก็มีไม่น้อยที่พบว่าอายุ 2-3 ปีก็ยังดูดขวดนมอยู่ ซึ่งมักจะเกิดจากการที่พ่อแม่ไม่ได้พยายามมากพอที่จะให้ลูกเลิกขวดนมนั่นเอง แล้วรู้ไหมว่าการที่ลูกบอกลาขวดนมช้า มีผลเสียมากกว่าที่คิด โดยมีผลเสียอย่างไรบ้าง มาดูกันเลย
เป็นโรคอ้วนหรือขาดสารอาหารจำเป็นต่อร่างกาย
เด็กที่ติดขวดนม มักจะมีปัญหาโรคอ้วนหรือขาดสารอาหารที่จำเป็นบางอย่างไป นั่นก็เพราะพวกเขามักจะดื่มแต่นมจนไม่ยอมทานอาหารอื่นๆ โดยเฉพาะพวกเนื้อสัตว์ ผักผลไม้ และข้าว เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบการขาดธาตุเหล็ก วิตามินซี และการป่วยโรคโลหิตจางในเด็กกลุ่มนี้อีกด้วย ดังนั้นมาฝึกให้ลูกเลิกขวดนมให้เร็วที่สุดกันดีกว่า
ฟันผุหรือฟันเรียงกันไม่สวย
เด็กหลัง 1 ขวบฟันจะขึ้นมากแล้ว หากมีการดูดนมหลับคาปาก ทำให้ไม่ได้ทำความสะอาดฟันหลังการกินนม นมจะถูกเชื้อแบคทีเรียเปลี่ยนน้ำตาลแลคโตสในนมให้เป็นกรด จึงทำให้ลูกฟันผุได้ อีกทั้งยิ่งนานวันเข้าจุกนมจะมีผลต่อการเรียงตัวของฟันทำให้เกิดการยื่นของขากรรไกรบนผิดไปจากปกติ มีปัญหาการสบฟันระหว่างฟันล่างบน ฟันยื่น และอาจพูดไม่ชัดจนเสียบุคลิกได้อีกด้วย
ปัสสาวะฉี่รดที่นอน
การที่ลูกชอบนอนดูดนมจากขวดตลอดทั้งคืน มักจะปวดฉี่บ่อย เนื่องจากได้รับน้ำจากนมในปริมาณมาก ซึ่งก็มักจะตามมาด้วยการฉี่รดที่นอนในที่สุด เพราะฉะนั้นเพื่อแก้ปัญหานี้ ควรให้ลูกเลิกดูดนมจากขวด และให้ดื่มนมจากแก้วเป็นเวลาแทน โดยดื่มก่อนนอนและฉี่ให้เรียบร้อยก่อนเข้านอนนั่นเอง
ขาดการพัฒนาทักษะในด้านอื่นๆ
ลูกเลิกขวดนมช้า อาจทำให้พัฒนาการด้านต่างๆ แย่ลงได้ เช่น ด้านร่างกายทำให้มือและกล้ามเนื้อขาดการทำกิจกรรมที่เหมาะสม ขาดการสื่อสารทางด้านอารมณ์ และมักพบว่าเด็กที่ติดขวดนมนานๆ จะยึดขวดนมเป็นสิ่งที่ปลอบใจเวลา อึดอัดคับข้องใจ โกรธหรือไม่พอใจ ก็มักจะเรียกหาแต่ขวดนมนั่นเอง นอกจากนี้ก็ส่งผลต่อด้านการเข้าสังคมอีกด้วย เพราะการติดขวดนมจะทำให้ลูกฟันผุ จนถูกเพื่อนล้อและไม่กล้าเข้าไปเล่นกับเพื่อนอีก
ผลเสียที่เกิดจากการเลิกขวดนมช้า มีปัญหาตามมาหลายด้าน เพราะฉะนั้นหากพ่อแม่รักลูกควรพยายามหาวิธีให้ลูกเลิกติดขวดนม ทั้งนี้อย่ามัวแต่กลัวลูกเสียใจ ลูกร้องไห้เด็ดขาด เพราะยิ่งนานวันจะยิ่งเลิกยาก และเกิดผลเสียแบบหยุดไม่อยู่ได้นั่นเอง