วิธีผ่อนคลาย หายเหนื่อยล้า ด้วยวารีบำบัด
การทำงานที่คร่ำเคร่ง ด้วยความเร่งรีบทุกๆวัน ย่อมส่งผลให้ร่างกายเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า ดังนั้นจึงต้องมาดูแลร่างกายให้กระปรี้กระเปร่าและคลายความเหนื่อยล้ากันหน่อย ซึ่งวิธีที่จะช่วยทำให้ร่างกายคืนกลับมากระฉับกระเฉง พร้อมกระตุ้นการทำงานให้อวัยวะต่างๆทำงานได้ดีขึ้นนั้น มีหลายวิธี แต่มีอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยได้และสร้างความสดชื่นแจ่มใสให้กับจิตใจได้ดีด้วยนั่นคือวิธี วารีบำบัด นั่นเอง
คุณประโยชน์ของน้ำกับการใช้บำบัด
น้ำมีประโยชน์กับร่างกายมากมาย ร่างกายไม่สามารถขาดน้ำได้ เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก ช่วยหล่อเลี้ยงร่างกาย หากวันใดที่ร่างกายขาดน้ำอย่างหนัก จะเกิดอาการอ่อนเพลีย อวัยวะต่างๆไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ หรือหากเกิดอาการเจ็บป่วยน้ำก็จะเป็นตัวช่วยที่จะคืนความสมดุลให้กับร่างกาย และบรรเทาอาการป่วยได้ดีอีกด้วย แต่นั่นเป็นประโยชน์เบื้องต้นที่ทราบกันมานาน รู้ไหมว่านอกจากประโยชน์เหล่านั้นแล้ว น้ำก็สามารถบรรเทาอาการเหน็ดเหนื่อย อ่อนล้า และช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับร่างกายได้อีกด้วย ซึ่งการทำวารีบำบัดก็จะเป็นการใช้น้ำมาช่วยรักษาโรคทั่วไป ทำให้ผ่อนคลาย ด้วยวิธีการ ใช้น้ำร้อน น้ำเย็น น้ำแข็ง หรือไอน้ำ ด้วยการแช่ลงในอ่าง โดยอ่างนั้นๆจะเป็น อ่างโคลน อ่างที่ใส่น้ำร้อน น้ำเย็น มีความสูงระดับเอว จะใช้ฉีดน้ำด้วยแรงดันสูง หรือเป็นฝักบัว รวมไปถึงการประคบร้อน เย็นและการดื่มน้ำแร่ ซึ่งการใช้วารีบำบัดจะช่วยกระตุ้นระบบประสาท และเส้นเลือดตามผิว ทำให้เลือดลมหมุนเวียนสะดวกขึ้น หรือหากเป็นน้ำเย็นก็จะช่วยให้เลือดหดตัวช่วยบรรเทาอาการอักเสบอีกด้วย
วิธีใช้วารีบำบัดเพื่อคลายความเหนื่อยเมื่อยล้า
การใช้วารีบำบัดเพื่อคลายความเหนื่อย เมื่อยล้า สามารถทำได้ด้วยการแช่เท้าในน้ำที่มีอุณหภูมิของน้ำในระดับที่ต่างกันมากๆ โดยให้เริ่มแช่เท้าที่น้ำอุ่นๆประมาณ 20 นาที ต่อจากนั้นให้แช่ลงในน้ำเย็นจัดต่อทันที วิธีนี้จะช่วยให้เลือดลมในร่างกายไหลเวียนสะดวก สามารถขึ้นไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น จึงช่วยคลายอาการปวดศีรษะได้อย่างดีเยี่ยมนั่นเอง หรือใช้วิธีอบไอน้ำ(ในกรณีที่ทำทั้งร่างกาย) อบซาวน่า หรือลงแช่น้ำอุ่นก็ได้ 20 นาทีเมื่อมีเหงื่ออกมาแล้วให้อาบน้ำที่เย็นปกติจากฝักบัว และทำสลับไปมา 2-3 รอบก็จะช่วยให้ผ่อนคลายจากการเหนื่อยล้า และทำให้หลับสนิทมากขึ้นอีกด้วย
ข้อควรระวังในการใช้วารีบำบัด
วิธีการผ่อนคลายด้วยน้ำแบบดังกล่าวไม่เหมาะกับสตรีมีครรภ์ หรือผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันสูงหรือโรคหลอดเลือดหัวใจ เพราะอาจไม่ปลอดภัยและจะทำให้ผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวมีอาการที่รุนแรงขึ้นได้
สถานที่ที่ดีที่สุดในการทำวารีบำบัดคือบ้าน อาจแช่น้ำอุ่นๆในห้องมืดๆ อาจฝึกการหายใจไปด้วย ยิ่งจะช่วยให้มีสมาธิ และคลายกล้ามเนื้อ ลดการปวดข้อ ลดอาการหงุดหงิด ได้อย่างดีเยี่ยม หรือเพียงแค่การใช้น้ำจากฝักบัวรดหลังจากการออกกำลังกาย ก็จะได้ความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เป็นวิธีง่ายๆที่สามารถทำอยู่ที่บ้านอย่างไม่ต้องลงทุนอะไรมากมายเลย