วิธีรับมือกับปัญหาสิว ของคุณผู้ชาย

วิธีรับมือกับปัญหาสิว ของคุณผู้ชาย

วิธีรับมือกับปัญหาสิว ของคุณผู้ชาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ช่วยด้วย!...สิวบุก" อาการตกใจปนตื่นกลัวแบบไม่ทันตั้งตัวอย่างนี้ ถ้าเกิดขึ้นเมื่อไรก็มักจะทำลายความมั่นใจของเราให้มลายสูญไป ยิ่งถ้าเกิดขึ้นในวันพิเศษ ที่มีนัดเดท นัดเพื่อน นัดประชุม นัดถ่ายรูป หรือสารพัดนัดสำคัญด้วยละก็ แค่สิวเม็ดเดียวก็ทำเอาเราแทบจะเสียศูนย์ไปได้ทั้งวันทีเดียว ก่อนอื่นกุ๊กว่าเรามาศึกษาคู่ต่อสู้ ด้วยการทำความรู้จักกับสิวกันก่อนดีกว่า ประมาณว่าถ้าจะจัดการกับศัตรู ก็ต้องรู้เขารู้เราก่อนอย่างไรล่ะครับ

สิวเกิดจาก...

- ต่อมไขมันอุดตัน
ต่อมไขมันสร้างไขมันมากเกินไปเพราะมีฮอร์โมนเพศชาย ( แอนโดรเจน ) ชนิดเทสทอสเทอโรนที่ทำหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโตและการสร้างไขมันสูงกว่าปกติ เมื่อไขมันมากจนกำจัดไม่ทัน จึงทำให้เกิดการอุดตันในต่อมไขมัน และกลายเป็นสิวในที่สุด

- เชื้อแบคทีเรียสะสม
เมื่อแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่บนใบหน้าอุดตันอยู่บริเวณรูขุมขน จะทำให้น้ำมันไหลออกมาตามปกติไม่ได้ จึงอุดตันรวมอยู่กับเชื้อแบคทีเรียบนใบหน้า และทำให้เกิดอาการอักเสบ จนกลายเป็นหนองอยู่ใต้ผิวหนังในที่สุด

 


บุคคลที่เสี่ยงต่อการเป็นสิวมากที่สุด

1. ผู้ชายผิวมัน เพราะผิวผลิตน้ำมันออกมามากเป็นพิเศษ ถ้าปล่อยให้หน้ามันเยิ้มโดยไม่ดูแลทำความสะอาด ก็จะเป็นสิวได้ง่าย

2. ผู้ชายที่ไม่ดูแลตัวเอง ผู้ชายกลุ่มนี้มักมองว่าการดูแลผิวหน้าหรือแม้กระทั่งการดูแลตัวเองเป็นเรื่องของผู้ชายเจ้าสำอาง หรือไม่ก็ผู้ชายนะยะ จึงละเลย ไม่ดูแลผิว จนเป็นสิวเขรอะ เพราะสิ่งสกปรกบนใบหน้าไปอุดตันรูขุมขน จนกลายเป็นบ่อเกิดของสิว

3. ผู้ชายเซอร์ๆ ที่รักความสกปรก ผู้ชายที่เซอร์แบบโบราณ รักการหมักหมมและความสกปรก ไม่ค่อยดูแลตัวเอง ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวไม่เซอร์ แบบนี้สิวถามหาชัวร์

4. ผู้ชายเมโทรที่ล้างหน้าไม่สะอาด สำหรับผู้ชายเมโทรที่หลงใหลการดูแลตัวเอง และหมั่นใช้เครื่องสำอางทำหล่ออยู่อย่างสม่ำเสมอนั้น ก็ใช่ว่าจะรอดพ้นเงื้อมมือของสิว เพราะถ้าทำความสะอาดหน้าไม่ดีพอ สิ่งสกปรก ความมันตกค้าง รวมไปถึงสารเคมีบางตัวจากเครื่องสำอาง ก็มีโอกาสทำให้เกิดสิวได้ไม่แพ้กัน

5. ผู้ชายนักท่องราตรี ที่มักถูกผีขี้เกียจเข้าสิง ยิ่งถ้าดื่มจนความมึนเข้าครอบงำสูง เมื่อกลับถึงบ้านก็มักจะล้มตัวลงบนฟูก แล้วหลับปุ๋ยทันทีที่หัวถึงหมอน น้อยคนนักที่จะทำความสะอาดใบหน้าให้เกลี้ยงเกลาก่อนนอน แบบนี้สิวก็แจ้งเกิดไปตามระเบียบเช่นกัน

6. ผู้ชายที่เชียร์บอลหรือทำงานจนดึกดื่น เพราะถ้าร่างกายยังไม่หลับ ต่อมไขมันบนใบหน้าก็ยังไม่หลับเช่นกัน และจะยังคงผลิตน้ำมันออกมาอย่างสม่ำเสมอตลอดคืน สังเกตดูสิว่าถ้านอนดึก หน้าจะมันเยิ้มได้ที่เลยทีเดียว และสิวก็จะเกิดง่ายเป็นพิเศษตามไปด้วย

7. ผู้ชายที่เครียดจัด ความเครียดทั้งแบบที่รู้ตัวและไม่รู้ตัวนั้น มีผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเพศผิดปกติ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สิวผุดอย่างรวดเร็วราวดอกเห็ด สังเกตง่ายๆ วันไหนที่คุณเครียดมากๆ ตื่นเช้ามามักจะมีสิวเป็นของแถมบนใบหน้าในทันที

สิว 4 ประเภท

1. สิวอุดตัน

2. สิวอักเสบ

3. สิวเสี้ยน

4. สิวผด

1. สิวอุดตัน

ลักษณะ

- เป็นสิวปกติทั่วๆ ไปที่ขึ้นบนใบหน้า ลักษณะเป็นตุ่มขนาดเล็ก หรือใหญ่สุดประมาณหัวไม้ขีดไฟ หัวสิวจะเป็นสีเหลืองขุ่นๆ ซึ่งก็คือไขมันอุดตันจนเริ่มอักเสบ กลายเป็นหนองบ่อยน้อยๆ นั่นเอง

สาเหตุ

- ไขมันสะสมมากเกินไปจนอุดตัน
- สิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขน

บริเวณที่พบบ่อย

- บริเวณทีโซน โดยเฉพาะจมูก แก้ม และเหนือริมฝีปาก

ระยะเวลาที่เป็น

- โดยเฉลี่ยราวๆ 1 สัปดาห์

สิ่งที่ควรทำ

- ล้างหน้าให้สะอาด

- หักห้ามใจไม่บีบสิว ถ้าทนไม่ไหวควรให้แพทย์ผิวหนังบีบออกให้


- ใช้ผลิตภัณฑ์แต้มหัวสิวให้สิวหายไวๆสัญญาณอันตราย

- ถ้าปล่อยไว้โดยไม่รักษาความสะอาด จะกลายเป็นสิวอักเสบร้ายแรงได้ในที่สุด

2. สิวอักเสบ

ลักษณะ

- หัวสิวประเภทนี้จะใหญ่เป้งยิ่งกว่าหัวไม้ขีดไฟ บางคนที่เป็นหนัก อาจใหญ่พอๆ กับเม็ดมะยมเลย ทีเดียว หนองสีเหลืองด้านในจะขุ่นข้น บางครั้งอาจเห็นเลือดเจือปนในหัวสิว ซึ่งหัวสิวใหญ่ๆ นอกจากจะทำให้ใบหน้าหมดหล่อและทลายกำแพงความมั่นใจไปจนหมดสิ้นแล้ว ยังสร้างความ เจ็บปวดอย่างแสนสาหัส บางคนถึงกับเป็นไข้ไปเลยก็มี

- สิวประเภทนี้ความจริงแล้วมีหลายลักษณะ แต่คนส่วนใหญ่มักเหมารวมเรียกจนคุ้นปากว่า "สิว
หัวช้าง"

สาเหตุ

- ส่วนใหญ่จะพัฒนามาจากสิวอุดตันที่ขาดการดูแลจนเกิดอาการอักเสบ หรือไม่ก็เกิดในคนที่มีรูขุม ขนกว้างและต่อมน้ำมันเยอะ หรือหน้าสกปรกมากจนรูขุมขนอุดตันมากเกินพิกัด

บริเวณที่พบบ่อย

- บริเวณทีโซน โดยเฉพาะจมูก แก้ม และเหนือริมฝีปาก

ระยะเวลาที่เป็น

- โดยเฉลี่ยราวๆ 1สัปดาห์ จนถึงหลายๆ เดือน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการอักเสบ

สิ่งที่ควรทำ

- แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรักษาอย่างเป็นทางการจะดีที่สุด

- ห้ามบีบสิวเองเด็ดขาดสัญญาณอันตราย

- ถ้าปล่อยไว้จะพัฒนากลายเป็นฝีที่ร้ายแรง รักษายากและเจ็บปวดยิ่งกว่า หรือถ้าปล่อยไว้จนสิวระเบิดเอง อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็น เป็นหลุมขนาดใหญ่ ส่วนการบีบเอาหนอง
ออกเองอย่างไม่ถูกวิธี ก็มีสิทธิ์ทำให้เกิดแผลขนาดใหญ่ จนหน้าเยินเป็นผิวดวงจันทร์ได้ง่ายๆ

3. สิวเสี้ยน

ลักษณะ

- เป็นสิวเม็ดเล็กมากๆ ราวกับปลายเข็ม หัวมีสีขาวหรือดำ แต่ก็สังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า เพราะมักจะขึ้นครั้งละหลายๆ เม็ดรวมกันเป็นกระจุก เหมือนทุ่งดอกเห็ดขนาดย่อมๆ

สาเหตุ

- ไขมันไปอุดตันรูขุมขนเล็กๆ แล้วรวมตัวกับขี้ไคลบนผิวชั้นหนังกำพร้า

- บางครั้งสิวเสี้ยนก็เกิดจากการรบกวนผิวมากจนเกินไป ด้วยการขัดหน้าแรงๆ หรือการนวดหน้า ทำให้การผลิตน้ำมันของต่อมไขมันผิดปกติจนเกิดสิวเสี้ยนได้

บริเวณที่พบบ่อย

- บริเวณที่มีต่อมไขมันมากๆ เช่น บริเวณจมูก ซอกจมูก หว่างคิ้ว และคาง

ระยะเวลาที่เป็น

- สิวเสี้ยนเกิดได้ทุกวันและหายได้ทันทีที่กำจัดออก

สิ่งที่ควรทำ

- ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนสัปดาห์ละครั้ง และอนุโลมให้ใช้น้ำอุ่นลูบบริเวณที่เกิดสิวเสี้ยน แล้วใช้ปลายเล็บขูดสิวเสี้ยนออกได้เช่นกัน

สัญญาณอันตราย

- เชื้อแบคทีเรียที่สะสมอยู่ที่สิวเสี้ยนอาจกระตุ้นเซลล์ผิวบริเวณอื่นให้เป็นสิวหรืออักเสบได้

4. สิวผด

ลักษณะ

- ความจริงแล้วก็คือตุ่มผดเล็กๆ ที่ขึ้นบนใบหน้านั่นเอง สิวประเภทนี้จะไม่มีหัวหนองให้เห็น และ มักจะขึ้นเป็นแถบๆ ราวกับผื่น แม้จะไม่สร้างความเจ็บปวดถ้าไม่เกิดจากอาการแพ้รุนแรง แต่ก็สร้างความรำคาญ และบั่นทอนความหล่อได้พอๆ กัน

สาเหตุ

- สิวชนิดนี้ไม่ได้เกิดจากอาการอุดตันของต่อมไขมัน แต่มักเกิดจากอาการแพ้หรือระคายเคือง เพราะผิวหน้าถูกรบกวนด้วยสาเหตุต่างๆ เช่น สิ่งสกปรกจากผม สารเคมีในแชมพู ฝุ่น อากาศที่ เปลี่ยนแปลง จึงมักเกิดกับคนที่ผิวหน้าบาง แพ้ง่าย และคนผิวแห้ง นอกจากนี้แสงแดดก็อาจจะ เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการแพ้ที่ทำให้เกิดสิวผดได้เช่นกัน

บริเวณที่พบบ่อย

- หน้าผากและแก้ม

ระยะเวลาที่เป็น

- ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการแพ้ เช่น หากแพ้น้อยๆ เป็นตอนบ่าย เช้าวันรุ่งขึ้นก็หาย ได้ แต่ถ้าแพ้รุนแรง อาจจะเป็นนานนับเดือนก็ได้

สิ่งที่ควรทำ

- พยายามอย่าเกาหรือใช้มือสัมผัสบริเวณที่เป็น เพราะมือที่สกปรกอาจทำให้อาการแพ้รุนแรงขึ้น

- อย่ารบกวนผิวหน้าด้วยกิจกรรมที่ทำให้ผิวหน้าบางบ่อยจนเกินไป เช่น การขัดหน้า การ
ล้างหน้าบ่อยๆ

- หลีกเลี่ยงการออกแดดจัดๆ

- ปรึกษาแพทย์ผิวหนังหากเป็นต่อเนื่องนานเกินไป

สัญญาณอันตราย

- หากเป็นมากอาจทำให้ผิวหน้าอักเสบรุนแรงจนเกิดเป็นแผลได้

 


ขอวิธีกำจัดสิวแบบกะทันหันด้วย

หากสิวเกิดในวันสำคัญที่จะต้องหล่อเป็นพิเศษ เช่น วันที่มีนัดครั้งแรกกับคู่เดทสุดฮ็อต หรือวันรับปริญญา เป็นต้น กุ๊กก็มีวิธีสยบสิวแบบด่วนจี๋ดังนี้ครับ
Emergency!!!

Mission 1 : สิวอุดตัน

วิธีที่ 1 : ใช้รองพื้นหรือแป้งพัฟฟ์กลบเกลื่อนสิวให้กลมกลืนไปกับผิวหน้า

อุปกรณ์ : รองพื้น + แป้งพัฟฟ์
Mission Completed : 1 - 2 นาที

วิธีที่ 2 : ใช้มือสะอาด ๆ บีบหัวสิวออกให้ถูกวิธี

อุปกรณ์ : มือ + กระดาษทิชชู
Mission Completed : 1 - 2 นาที

Mission 2 : สิวอักเสบ

วิธีรับมือ : ทำใจโทร.ไปยกเลิกนัด แล้วโทร.หาหมอผิวหนังแทน หรือถ้าเป็นงานรับปริญญาก็พยายาม หันหน้าด้านที่ไม่เป็นสิวเข้ากล้องไปก่อนแล้วกัน
อุปกรณ์ : ผ้าเช็ดหน้า ( ใช้เช็ดน้ำตา )

Mission Completed : ไม่สามารถระบุได้

Mission 3 : สิวเสี้ยน

วิธีที่ 1 : ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนดึงสิวออก

อุปกรณ์ : แผ่นลอกสิวเสี้ยน
Mission Completed : 15 นาที

วิธีที่ 2 : ใช้น้ำอุ่นชโลมบริเวณสิวเสี้ยน แล้วใช้ปลายเล็บขูด หรือไถสิวเสี้ยนออก

อุปกรณ์ : น้ำอุ่น + เล็บมือ
Mission Completed : 1 - 2 นาที

Mission 4 : สิวผด

วิธีรับมือ : ใช้รองพื้นหรือแป้งพัฟฟ์กลบเกลื่อนสิวให้กลมกลืนไปกับผิวหน้า
อุปกรณ์ : รองพื้น + แป้งพัฟฟ์
Mission Completed : 1 - 2 นาที

ถ้าคันไม้คันมืออยากบีบสิวจนอดใจไม่ไหวจะทำอย่างไรดีที่จริงแล้วกุ๊กไม่อยากแนะนำให้บีบสิวเลย แต่ถ้าการไม่ได้บีบสิวทำให้คุณกระวนกระวายใจจนถึงขั้นนั่งไม่ติดละก็ อย่างน้อยๆ ก็ขอให้ศึกษาวิธีบีบสิวที่ถูกต้องและปลอดภัยเอาไว้ การบีบสิวจะได้ไท่กลายเป็นการเพิ่มสิว หรือทำร้ายผิวหน้าจนเสียหล่อ

DIY : Do It Yourself วิธีบีบสิวแบบปลอดภัย

เตรียมอุปกรณ์

1. กระดาษทิชชู

2. สำลี + โทนเนอร์

3. มอยส์เจอไรเซอร์

วิธีทำ

1. สำรวจหัวสิวดูว่ามีตุ่มเหลืองๆ ผุดขึ้นมาหรือยัง ถ้าหัวสิวยังไม่โผล่ก็แปลว่ายังไม่ถึงเวลาบีบ

2. พันทิชชูบริเวณนิ้วชี้ทั้งสองข้างเพื่อให้ได้สัมผัสที่นุ่มและสะอาด ไม่ทำให้ผิวหน้าเกิดรอยจ้ำแดงๆ เวลากด

3. ใช้นิ้วชี้ทั้งสองข้างบีบจนสิวจนหัวสิวหลุดออกมา

4. เช็ดหัวสิวที่หลุดออกมาให้หมด

5. ถ้าบีบแล้วมีเลือดออก ให้บีบต่อแบบถอนรากถอนโคนจนเลือดออกหมด เพราะในเลือดจะมีเชื้อเหลืออยู่ ปล่อยไว้จะทำให้เกิดสิวขึ้นอีกระลอก

6. ใช้โทนเนอร์เช็ดทำความสะอาดให้ทั่วบริเวณ

7. อย่าลืมปิดท้ายด้วยการทามอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวบริเวณนั้นด้วย

X DDT : Don't Do That!

- ดูให้แน่ใจว่าสิวที่กำลังจะบีบไม่ใช่สิวอักเสบเม็ดใหญ่เป้ง สิวประเภทนี้ไม่ควรบีบเองเด็ดขาด เพราะเสี่ยงต่อการหน้าเยินสุดๆ

- อย่าใช้เล็บยาวๆ กดสิว เพราะเล็บจะจิกใบหน้าทำให้เกิดแผลได้ ทางที่ดีตัดเล็บก่อนบีบสิวจะดีกว่า


 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook