วิธีรักษาหลุมสิว เพื่อผิวหน้าเรียบเนียนใส ไร้ตำหนิ

วิธีรักษาหลุมสิว เพื่อผิวหน้าเรียบเนียนใส ไร้ตำหนิ

วิธีรักษาหลุมสิว เพื่อผิวหน้าเรียบเนียนใส ไร้ตำหนิ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปัญหากวนใจที่ตามมาหลังจากเป็นสิว คงหนีไม่พ้นรอยหลุมสิว ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดหลุมสิวนั้นว่ามาจากอะไร และเมื่อพบปัญหานี้แล้วจะรับมือกับปัญหานี้อย่างไร วันนี้เราจึงได้รวบรวมสาระดีๆ เกี่ยวกับการรักษาหลุมสิวมาให้สาวๆ ทุกคนได้ทราบ เพื่อที่จะได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการรักษาหลุมสิวบนใบหน้าต่อไป

สาเหตุการเกิดหลุมสิว

เกิดจากกระบวนการรักษาตัวเองของร่างกายหลังจากเกิดบาดแผลหรือเกิดการอักเสบในผิวชั้นใน โดยการรักษาแผลนั้นร่างกายจะสร้างพังผืดที่ดึงและรั้งทำให้ผิวหนังเกิดการยุบตัวลงไป จนเกิดเป็นหลุมสิว

วิธีลดการเกิดหลุมสิว

เมื่อเกิดสิวขึ้นบริเวณใบหน้า สิ่งแรกที่ควรทำคือ การรักษาความสะอาดบนใบหน้า และเลือกใช้กลุ่มยาแต้มสิวเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้สิวเกิดการอักเสบ เช่น ล้างหน้า หรือเช็ดหน้าแรงๆ เป็นต้น หลังจากหัวสิวแห้งและหลุดออกแล้ว ผิวหนังจะทำการสร้างสะเก็ดแผลขึ้นมา ซึ่งห้ามแกะสะเก็ดแผลนั้นเด็ดขาด เพราะการแกะสะเก็ดจะทำให้กระบวนการรักษาถูกดึงออกไป เกิดการสร้างพังผืดที่มากขึ้น ทำให้เกิดการดึงรั้งบนผิวหนังจนกลายเป็นรอยหลุมสิว

วิธีรักษาหลุมสิว

การใช้กรดผลไม้ (AHAs) ซึ่งในกรดจะมีคุณสมบัติช่วยในการผลัดเซลล์ผิวใหม่ กำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้หลุมสิวดูจางลง โดยให้เลือกใช้ความเข้มข้นที่เหมาะกับแต่ละสภาพผิวของแต่ละคน สำหรับคนผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่ายไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้

การผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดแลกติก ซึ่งวิธีควรให้แพทย์เป็นผู้ทำให้จะดีที่สุด และควรทำทุกๆ 2 สัปดาห์ เป็นวิธีที่ที่จะช่วยให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น รอยดำดูจางลง

การใช้ยากลุ่ม Retinoid เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหมขึ้น ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น รอยดำจากสิวก็ยังดูจางลงอีกด้วย แต่เนื่องจากยาชนิดนี้มีความไวต่อแสงจึงทาได้แค่ช่วงกลางคืนเท่านั้น ส่วนในตอนกลางวันต้องทาครีมกันแดดด้วย และเนื่องจากยาอาจทำให้เกิดการระคายเคือง เพราะฉะนั้นผู้ที่ผิวแห้งหรือแพ้ง่าย ไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้

การรักษาด้วยกรดซาลิซีลิก จะใช้วิธีการแต้มกรดซาลิซีน เพื่อไปกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ตรงบริเวณที่ทา ซึ่งจะช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น

การรักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ (filler) เป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งวิธีนี้ค่อนข้างใช้ค่าใช้จ่ายสูง และมีอายุการใช้งานเพียง 6 – 18 เดือน หลังจากนั้นต้องฉีดเติมเข้าไปใหม่

การรักษาด้วยการทำ Micro needles คือการใช้เข็มเล็กๆ ไปกระตุ้นให้เกิดแผลเล็กๆ บริเวณหลุมสิว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้น

การรักษาด้วยการใช้เลเซอร์ เป็นการกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวขึ้นใหม่ ซึ่งวิธีนี้ค่อนข้างเจ็บและทำให้เกิดรอยแดงช้ำหลังทำ

และนี่ก็คือ สาเหตุของการเกิดหลุมสิว วิธีลดการเกิดหลุมสิวและวิธีรักษาอย่างได้ผล ซึ่งมีด้วยกันหลากหลายวิธี สาวๆ สะดวกวิธีไหนก็ไปลองรักษาด้วยวิธีนั้นๆ ดูได้เลย โดยอาจจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นโดยตรงก่อนก็ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook