สตรีสมัยนิยม
ผู้หญิงทำหน้าที่ดำรงเผ่าพันธุ์มาแต่อดีตกาล ผ่านพิธีการแต่งงาน สร้างบทบาทแม่ ถ้าผู้หญิงสมัยก่อนไม่สามารถแต่งงานหรือไม่สามารถมีลูกสืบสกุลได้อาจมีปัญหาต่อการดำรงชีวิต แต่การมอบหน้าที่เหล่านี้ให้กับผู้หญิงมาเนิ่นนาน ยังซ่อนนัยยะของการเป็นภรรยาที่ดี รวมถึงการเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จ ทั้ง 2 บทบาทนี้ คือคุณค่าที่ถูกมอบหมายผ่านบทบาทและหน้าที่ในเวลาเดียวกัน
แต่ในปัจจุบันผู้หญิงมีบทบาทมากมายนอกเหนือการสืบสกุล ผู้หญิงเริ่มผูกสภาพตนเองหรือสรีระของผู้หญิงด้วยคุณค่าทางรูปลักษณ์มากขึ้น เพราะสามารถดึงดูดเพศตรงข้ามให้สนใจ และนำไปสู่บทบาทหนึ่ง ผู้หญิงถูกกลืนกับแนวความคิดเรื่องการสนใจรูปลักษณ์ตัวเอง โดยใช้สภาวะความเป็นผู้หญิง ผ่านพฤติกรรมการแสดงออก ในการได้มาซึ่งอะไรบางอย่าง สังเกตได้ว่าสังคมมักใช้ผู้หญิงเพื่อการโฆษณา หรือใช้ในกิจกรรมที่ต้องเรียกร้องความสนใจมากขึ้น
ผู้หญิงควรเปลี่ยนแปลง
1. ผู้หญิงต้อง...เข้าใจคุณค่าของตนเอง ผู้หญิงมีความสามารถ ความดีไม่แตกต่างจากผู้ชาย ถ้ายิ่งบุคลิกหน้าตาดีด้วยก็ยิ่งเสริมให้ดูมีศักยภาพมากขึ้น แต่ทุกวันนี้ผู้หญิงมักติดในเรื่องของรูปแบบ ความสวยต้องมาก่อน แต่คงต้องเพิ่มองค์ประกอบจากหลายส่วน ผู้หญิงต้องเก่ง ต้องขยัน มีความสามารถ เพราะหน้าตาเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งเท่านั้น ผู้หญิงต้องนำเอาแก่นแท้ออกมาก่อนเปลือกนอก ถึงจะสวยสมบูรณ์ตามแบบสตรีอย่างแท้จริง
2. ผู้หญิงต้อง...หลุดออกจากกรอบเดิม กรอบที่สังคมเป็นตัวกำหนดกฎเกณฑ์ ในอดีตผู้หญิงถูกตีกรอบให้สนใจแต่เรื่องของตนเอง ถูกบังคับให้มองกรอบเล็กๆ ภายในบ้าน แต่ผู้ชายมีโอกาสออกไปทำงานนอกบ้าน มีมุมมองทางสังคมเป็นภาพใหญ่ เพราะฉะนั้นการมองกรอบเล็กเป็นตัวทำให้ผู้หญิงจุกจิก ใช้อารมณ์ กลายเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดว่ามันคือธรรมชาติของผู้หญิง แต่แท้จริงแล้วมันคือธรรมชาติทั้งของชายและหญิง เพียงแต่ถูกบ่มเพาะมาแตกต่างกัน ถ้าผู้หญิงมีโอกาสออกไปทำงานนอกบ้าน ผู้หญิงจะสามารถปรับวิสัยทัศน์ได้ดีขึ้น เมื่อผู้หญิงมีมุมมองที่มากขึ้นแล้ว เขาจะสามารถเปลี่ยนบทบาทได้ในหลายๆ เรื่อง ทั้งการใช้ชีวิตคู่อย่างมีวิสัยทัศน์ ที่ไม่ได้เปลี่ยนเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น แต่ผู้ชายก็จะเข้าใจบทบาทของผู้หญิงมากขึ้นด้วย
อ.ฐิรชัย หงษ์ยันตรชัย มีมุมมองการเปลี่ยนแปลงของผู้หญิงว่า "ในปัจจุบันภาวะการณ์เป็นผู้นำของผู้ชาย ก็มีโอกาสล้มเหลวเยอะ บริหารงานผิดพลาดก็มาก ผู้หญิงส่วนใหญ่จึงเริ่มคิดว่าถ้าเขามีโอกาสได้ทำ เขาเชื่อมั่นว่าทำได้ดีกว่าผู้ชาย ในเรื่องของการมองเห็นโลกกว้างขึ้น ศึกษาอะไรได้มากขึ้นแล้วก็มีศักยภาพใกล้เคียงผู้ชายมากขึ้น ความรู้สึกที่จะเกรงกลัวผู้ชายที่เก่งกว่าจะลดน้อยลงเรื่อยๆ"
3. ผู้หญิงต้อง...รู้จักเปิดโลกทัศน์ให้กับตัวเอง เพราะโลกของผู้หญิงแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนไม่เคยมองเห็นโลกในมุมกว้างก็จะไม่กล้าออกไปเผชิญโลกภายนอก ไม่กล้าไปไหนคนเดียว เพราะเขาอยู่ในโลกแคบเสียจนไม่รู้ว่า ถ้าออกจากตรงนี้แล้วจะเจอกับอะไรบ้าง เพราะฉะนั้นการศึกษา และการติดตามข่าวสารเป็นส่วนหนึ่งของการออกไปพบกับโลกภายนอก เราควรลองขยับผู้หญิงกลุ่มนี้ให้เผชิญกับโลกภายนอก แต่ต้องขึ้นอยู่กับบุคลิกภาพด้วย บางคนกล้าได้กล้าเสีย แต่ผู้หญิงบางคนมิได้เป็นเช่นนั้น การที่ใครสักคนจะพึ่งพาตัวเองได้ ควรต้องเริ่มหัดก้าวเท้าออกจากบ้านก่อน
สังคมควรเปลี่ยนแปลง
1. ผู้หญิงต้องการคนเข้าใจ ผู้หญิงมีธรรมชาติภายในของตัวเอง อยากได้การยอมรับเรื่องความเข้าใจ ทั้งทางด้านอารมณ์ และความรู้สึก เพราะผู้หญิงให้ความสำคัญในเรื่องของความสัมพันธ์ มีความคาดหวังอยากให้สังคมใส่ใจกับอารมณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งบางครั้งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แล้วบางขณะอยากให้เข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้คือธรรมชาติของผู้หญิง อาจเป็นเรื่องเล็กที่สังคมมอง แต่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้หญิงมาก
2. การปรับทัศนคติจากสังคม ค่านิยมหลายๆ อย่างในสังคม อาจทำให้การใช้ชีวิตของผู้หญิงไม่ราบรื่น ผลักดันผู้หญิงไปสู่บางอย่างที่ไม่ให้ความต้องการแท้จริงกับตัวเอง เพียงเพราะสังคมเป็นผู้กำหนดให้ผู้หญิงต้องทำ ซึ่งข้อกำหนดกฎเกณฑ์บางตัวไม่เป็นตัวสร้างสุขให้กับความรู้สึก เพราะฉะนั้นการปรับทัศนคติของสังคม อาจเริ่มต้นจากสังคมใกล้ตัว เช่น คนภายในครอบครัว เราควรให้ความช่วยเหลือผู้หญิงทุกคนที่ถูกทำร้าย ไม่ควรมองเป็นเรื่องไกลตัว เมื่อทุกคนมองเช่นเดียวกันแล้ว ทุกอย่างจะส่งผลถึงพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงทัศนคติของสังคม ไปสู่ผู้หญิงคนอื่นที่ถูกกดขี่ด้วย
3. การเลือกปฏิบัติ ต้องมองผู้หญิงผู้ชายจากพื้นฐานความเป็นคนเหมือนกัน ก่อนมองว่าเป็นเพศอะไร เพราะฉะนั้นเมื่อมองเป็นมนุษย์เหมือนกัน เราต้องปฏิบัติแบบเดียวกัน คุณปฏิบัติต่อชายคนนั้นอย่างไร คุณจงปฏิบัติต่อหญิงคนนี้เหมือนกัน ถ้าผู้หญิงคนนี้สามารถทำในแบบที่ชายคนนั้นทำได้ ควรปฏิบัติตามศักยภาพที่เท่ากัน บนพื้นฐานความเหมาะสมของมนุษย์คนหนึ่งมากกว่า
แม้ปัจจุบันสังคมผู้หญิงไทยมีการบูรณาการที่หลุดพ้นออกจากภาวะความไม่เท่าเทียมของสังคมแล้ว แต่เรื่องการถูกกดขี่ทางเพศยังคงมีความสำคัญสำหรับผู้หญิงสังคมปิด ที่ยังต้องการกลุ่มเรียกร้องสิทธิสตรี เพื่อทำหน้าที่ 2 ประเด็นหลักสำหรับผู้หญิง คือ
1. เปิดโอกาสสำหรับกลุ่มสตรีปิด มองเห็นกลุ่มผู้หญิงกลุ่มเล็กๆ ในสังคมปิดที่ยังขาดโอกาส กลุ่มสตรีจะเข้าไปดูแลผู้หญิงชายขอบที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ หรือเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมเปิดเผยแล้ว
2. เป็นกระบอกเสียงแทนผู้หญิง กลุ่มสิทธิสตรีจะไวต่อสถานการณ์ เมื่อเกิดปรากฏการณ์ทางสังคมในเรื่องของผู้หญิง กลุ่มสิทธิสตรีจะเป็นกระบอกเสียง เพื่อให้คนทำความเข้าใจและหันมามองสิ่งที่สตรีเรียกร้อง อาจจะไม่ได้รับการแก้ไขในทันที แต่พวกเขาเชื่อว่าถ้าพูดชัดเจนไปเรื่อยๆ ก็จะมีผลถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมสำหรับเขา
คาดการณ์ว่าในอนาคตเรื่องระหว่างหญิงชาย อาจมีการเปลี่ยนสมดุลแบบใหม่ในการใช้ชีวิต เหมือนยุคหิน ยุคอดีต ยุคปัจจุบัน ไปสู่อนาคตที่มีเพียงมนุษย์เข้าใจกัน แต่คงหนีไม่พ้นเรื่องของความรู้สึกภายในที่ยังคงอยู่เพื่อเป็นไปตามธรรมชาติ เนื่องจากการหล่อหลอมในครอบครัวมีการลดกรอบลง ลดข้อกำหนดกฎเกณฑ์ทางเพศลง จะเหลือเพียงแค่ควรทำอะไร ใช้ชีวิตกับคนอื่นอย่างไร และคำที่เป็นตัวกำหนดว่า ‘ผู้หญิงควรทำแบบไหน' จะลดน้อยลงตามเวลา
ขอบคุณข้อมูล
พญ.พรรพิมล วิปุลากร ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล
อ.ฐิรชัย หงษ์ยันตรชัย หัวหน้าภาควิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยรามคำแหง