แก้ไข 3 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก กับเทรนเนอร์หล่อบอกต่อด้วย

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน ขอเล่าย้อนไปนิดนึงก่อนนะคะว่า เมื่อก่อนจูนไม่เคยสนใจเรื่องของการออกกำลังกายมาก่อน เพราะรู้ว่าตัวเองเป็นคนหุ่นกำลังดี ก็เลยกินล้างกินผลาญ กินวัวตายควายล้ม เพราะประมาทคิดว่าตัวเองไม่อ้วน แต่แล้ววันหนึ่ง กรรมก็ตามสนอง You're what you eat  ที่แท้ทรูค่ะ จากน้ำหนัก 50 นิดๆ ทะยานสู่น้ำหนัก 65!!!!!!!!!!!! กรี๊ดดดดด รับไม่ได้ค่ะ จากเอวเคย 25 ก้าวหน้าไป 32 โอ้โห! แฟนตาซี ทำยังไงดีถึงจะกลับไปหุ่นดีแบบยั่งยืน ก็ชวนก๊วนเพื่อนสาวเข้าฟิตเนส และแน่นอนว่า การเข้าฟิตเนสครั้งนี้ ต้องมีเทรนเนอร์ เพราะต้องการลดอย่างถูกต้องและทำอย่างจริงจัง!! 

เริ่มแรก เลือกเทรนเนอร์ แต่ละคนมีหลักในการเลือกเทรนเนอร์แตกต่างกัน แต่สำหรับจูนเป็นคนมีจุดยืนค่ะ ถ้าอยากจะให้ตัวเองมายิมบ่อยๆ เทรนเนอร์ส่วนตัวหน้าตาดี คือ 1 ในปัจจัยพื้นฐานที่ต้องมีสำหรับจูน (พอดีเป็นคนมีจุดยืน) และในที่สุดก็ได้น้อง Mark มาเป็นเทรนเนอร์ เห็นหน้าหล่อใสไหลเย็นเห็นตัวปลาเยี่ยงนี้ บอกเลยเวลาเทรนดุมาก นึกว่าฝึกรด.!!! 

พอเริ่มออกกำลังกายไปได้ 3  วีคกว่าๆ จากเอว 32 เหลือ 29!! เสื้อผ้าไซส์ L เหลือ M!! ในส่วนนี้น้อง Mark เล่าถึงโปรแกรมที่วางไว้ให้จูนว่า

"แต่ละคนจะวางคนละโปรแกรมกัน ต้องดูไลฟ์สไตล์ และองค์ประกอบหลายๆ อย่าง อย่างของพี่จูน มีเวทเทรนนิ่ง เพิ่มกล้ามเนื้อเพื่อให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น ควบคู่ไปกับคาดิโอ เพื่อเป็นการเบิร์น แล้วก็งดน้ำหวานให้ดื่มน้อยลง พี่จูนเป็นคนติดหวาน จากที่เคยดื่มทุกวัน โค้กวันละ 3 ชาเขียวปั่นเพิ่มหวานวันละ 2 ให้ลดเหลือวันละ 1 โดยต้องเลือกระหว่างชาเขียวปั่นกับโค้ก และการดื่มชาเขียวปั่นต้องเป็นแบบหวานน้อย แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นวันเว้นวัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่างที่ผมได้บอกไปแล้ว โปรแกรมจะไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับมวลร่างกายในช่วงเวลานั้น และแต่ละบุคคลโปรแกรมก็แตกต่างกัน" 

 

และหลังจากที่ชอบโพสเรื่องราวการออกกำลังกาย เรื่องลดน้ำหนักในเฟซบุ๊กส่วนตัว ทำให้มีเพื่อนๆ เข้ามาถามเรื่องการลดน้ำหนักกันเยอะพอสมควร แล้วก็นำคำถามเหล่านี้ไปถามเทรนเนอร์ของจูน และต่อไปนี้คือคำตอบค่ะ

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการลดน้ำหนัก

1. งดอาหารเย็นจะได้ไม่อ้วน

ถามว่าผิดไหม มันไม่ผิด แต่คุณทำได้ตลอดไหม มันคือการใช้ชีวิตของคุณแบบนี้จริงๆ หรือเปล่า กินข้าววันละ 2 มื้อ ถ้าคุณทำแค่ 1 เดือน หลังจากนั้นคุณกลับมากินมากกว่าเดิม น้ำหนักก็จะขึ้นมากกว่าเดิม ถ้าอยากลดน้ำหนักคิดง่ายๆ คือ แคลอรี่ที่คุณได้รับในแต่ละวันต้องน้อยกว่าที่ใช้ออกไป ฉะนั้นถ้าอยากลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน คุณต้องออกกำลังกาย  พักผ่อนให้เพียงพอ ควบคู่ไปกับการเลือกกินอาหารที่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย ไม่ใช่อด เพราะถ้าอดมากเกินไป ระบบเผาผลาญของคุณจะพัง กว่าจะแก้ได้ต้องใช้เวลานาน

2. เป็นผู้หญิงยกดัมเบลบ่อย แขนจะล่ำ กล้ามจะใหญ่เหมือนนักเพาะกาย

"เป็นผู้หญิงไม่ต้องกลัวว่ากล้ามจะขึ้น เพราะผู้หญิงผลิตฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนได้น้อยกว่าผู้ชาย ที่เห็นนักเพาะกายหญิงกล้ามใหญ่เพราะเขาจัดสรรการกิน และมีองค์ประกอบอื่นหลายๆ อย่าง แต่ไม่ใช่แค่คุณยกดัมเบลแล้วกล้ามจะขึ้นแน่นอน"

3. ถ่ายบ่อยๆ จะทำให้ผอม

"คุณถ่ายไขมันออกมาเหรอ?"  (ข้อนี้สั้นๆ ง่ายๆ แต่ได้ใจความ เคลียร์นะคะ)

 

 

 ทริกพิเศษสำหรับผู้ที่อยากลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน

1. สำหรับคนที่ต้องทำงานดึกๆ แล้วหิว ให้กินกล้วยแทนขนมขบเคี้ยว เพราะการกินกล้วยแคลอรีไม่เยอะ ถ้ากินในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่อ้วนแน่นอน

2. อาหารสำหรับคนลดนน้ำหนักที่ดีที่สุดคือ กินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ และกินไขมันดีที่เป็นโอเมก้า 3 และต้องกินให้ได้ 3 มื้อ

3. การจะลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน ทั้งการออกกำลังกาย การพักผ่อน การกินอาหาร ต้องสัมพันธ์กัน ถ้ากินอาหารดี แต่ออกกำลังกายผิดก็เจ็บตัวฟรี หรือออกกำลังกายหนัก แต่พักผ่อนน้อย ก็ไม่เห็นผล อย่าโฟกัสที่จุดเดียว

 

ไปให้สุด แล้วหยุดที่เราต้องผอมค่ะ!!