10 เรื่องเม้าท์ของสาวแฟชั่น "พะเพื่อน ชุติมณฑน์ สกุลไทย"

10 เรื่องเม้าท์ของสาวแฟชั่น "พะเพื่อน ชุติมณฑน์ สกุลไทย"

10 เรื่องเม้าท์ของสาวแฟชั่น "พะเพื่อน ชุติมณฑน์ สกุลไทย"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากพูดถึงสาวเซเลบริตี้รุ่นใหม่ที่มีสไตล์เป็นที่น่าจับตามองแล้ว บอกเลยว่า "พะเพื่อน ชุติมณฑน์ สกุลไทย" ลูกสาวคนสวยของ "แม่อุ๊ มณฑ์ลัชชา สกุลไทย" คือสาวสายแฟชั่นนิสต้าที่แซบไม่เบา เพราะไม่ว่าจะไปไหนมาไหนแต่ละชุดของเธอนั้นทั้งชิคทั้งคูลเหมือนกับหลุดออกมาจากแมกกาซีนเป๊ะๆ วันนี้ HELLO! จึงขอเคลียร์คิวสาวสวยวัย 24 ที่เพิ่งแลนด์ดิ้งมาหมาดๆ นั่งคุยเม้ามอยเรื่องแฟชั่นๆ ฉบับ ‘พะเพื่อน’ กัน !

พะเพื่อน ชุติมณฑน์ สกุลไทย ในชุดจากแบรนด์ Nagara
1.อัพเดทชีวิตตอนนี้

พะเพื่อน : “เพิ่งจบปริญญาโท Master of Arts in Television ที่ University of Arts London (UAL) ค่ะ ก่อนหน้านี้จบปริญญาตรีที่ไทย จากคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคอินเตอร์ (BJM) ตอนนี้ทำธุรกิจเล็กๆ ขายรองเท้าออนไลน์กับเพื่อนๆ ชื่อแบรนด์ว่า femmestudio หลังจากนี้มีแพลนว่าจะทำรายการทีวี แล้วก็อาจจะมีเล่นละครปลายนี้ก็ฝากรอติดตามกันด้วยค่ะ”

 

2.น้ำหนักขึ้นมา 6 กิโล !!!

พะเพื่อน : “ตอนอยู่อังกฤษก็ปล่อยตัวเลย ก่อนจะไปอังกฤษเราคุมอาหาร มีวินัยกับตัวเองมาตลอด แต่พออยู่ที่นู่นเรากินทุกอย่างเลยค่ะ (หัวเราะ) น้ำหนักขึ้นมา 6 กิโล เพราะแม่ไปหาเดือนเว้นเดือนด้วยก็กินเยอะ ทั้งมันทั้งเนย ปกติที่ไทยกลับมาเราก็ออกกำลังกาย โยคะ ฟิตเนต แต่พอไปเรียนกลับมาก็เหนื่อยแล้ว แต่ตอนนี้ก็เอาลงมาหมดละค่ะ กำลังบิวท์ซิกแพคอยู่ด้วย”

Street Style แบบพะเพื่อน ชุติมณฑน์ สกุลไทย

3.ปกติแต่งตัวแนวไหน?

พะเพื่อน : เป็นแนวสตรีท ส่วนใหญ่จะเรียบ เน้นแอ็กเซสเซอรี่ส์มากกว่าพวกรองเท้ากระเป๋า เดรสก็จะไม่มีอะไรหวือหวาเลย ลายดอก ระยิบระยับ หรือเพชรอะไรแบบนี้ไม่มี จะเป็นเดรสเท่ๆ ไม่ก็ลายไปเลย แบรนด์ที่ใส่บ่อยๆ ลุควันธรรมดาก็มี off white หรือที่ชอบตอนนี้ก็มี jacqmus ส่วนชุดออกงานก็มี Nagara , Vatanika , Pichana ถ้าแนวเซ็กซี่ก็จะเปิดหลัง แต่จะไม่มีเพชร พลอย เลื่อมปักอะไรแบบนี้ หรือเป็นสูทก็จะโนบรา คือก็เราไม่ได้สตรีทหรือแมนซะทีเดียว ยังมีความเป็นผู้หญิงอยู่ด้วย”

เมื่อพูดถึงเรื่องของแฟชั่นการแต่งตัวของลูกสาว คุณแม่อุ๊เลยขอเสริมว่า

แม่อุ๊ : เขาเป็นคนที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง สูทนี่เป็นราวเลย มีทุกสีทุกแบบ เพราะเขาจะแต่งอะไรเรียบๆ ไปงานตรงข้ามกันกับแม่ (หัวเราะ)

คุณแม่อุ๊และพะเพื่อนกับสไตล์การแต่งตัวเมื่อไปงานสังคมต่างๆ

4.ความแตกต่างของสองแม่ลูก

แม่อุ๊ : ทุกคนถามว่าเคยทะเลาะกันไหมแม่ลูกคู่นี้ เราก็บอกเคยค่ะ ทีนี้คนเขาเริ่มตกใจ เขาก็ถามว่าทะเลาะเรื่องอะไรคะ เราก็บอกว่าทะเลาะกันเรื่องแต่งตัวนี่แหละค่ะ (หัวเราะ) คือแม่จะชอบซื้อเสื้อผ้าให้ แต่เขาไม่ใส่ เขาก็บอกว่ามี๊อย่าซื้อนะ เดี๋ยวไม่ใส่ก็จะน้อยใจ หลังๆ เราก็เลยไม่ซื้อแล้วให้เขาเป็นคนบอกแล้วเราก็มาช่วยดูมากกว่า เพราะแนวเขาตรงข้ามกับแม่มาก สไตล์แม่จริงๆ จะหวานก็ไม่หวานจะเน้นดีเทลเยอะๆ แบบสไตล์ของ comme des garcons เสื้อผ้า 90 เปอร์เซนต์ของแม่ก็จะเป็นสไตล์นี้

สไตล์ที่แตกต่างของสองแม่ลูก


พะเพื่อน : เสื้อผ้าคุณแม่บางทีดีเทลมันเยอะ บางทีหางไปหัว หัวไปหาง เราก็จะบอกแม่ว่า เราเก็ตแต่คนอื่นไม่เก็ต ก็จะมีเบรกกัน หรือบางทีหนูเรียบมากแม่ก็จะบอกว่าเรียบไปไหมเดี๋ยวมันจะไม่เด่น ก็จะปรึกษากันมากกว่า แต่ถามว่าเราได้อิทธิพลการแต่งตัวมาจากแม่บ้างไหม ก็เยอะค่ะ เพราะเราก็เห็นมาตลอดว่าแม่ชอบแต่งตัวชอบซื้อเสื้อผ้าชอบทุกอย่างที่เป็นความสวยความงาม แม่ก็จะไม่เคยห้าม มันเลยเหมือนซึมซับมาตลอด

แว่นตา อีกหนึ่งไอเท็มที่พะเพื่อนขาดไม่ได้
5.ไอเท็มที่ขาดไม่ได้ !

พะเพื่อน : “หลายอย่างค่ะ ขาดไม่ได้เลย แว่น ต่างหู แหวน นาฬิกา คือใส่แล้วรู้สึกว่ามันมีดีเทลเพราะชุดเราก็เรียบแล้ว”

แม่อุ๊ : “เขาจะไม่ค่อยเยอะ แอ็กเซสเซอรี่ส์ยืมใส่ตลอด ขนาดรองเท้ายังใส่ด้วยกันได้ ใส่เบอร์เดียวกัน แต่แค่ส้นสูงแม่สามนิ้วเขาห้านิ้ว แต่ถ้าแฟลตนี่ใส่ด้วยกันได้เลย”

 

6.ลุคนี้แม่ขอ !!!

แม่อุ๊ : “มีช่วงนึงตอนเขาเรียนไฮสคูล เขาเชยมากก คือเอารูปเก่าๆ มาดูละขำ เขาไม่แต่งตัวเลย จนแม่บอกต้องบอกว่าแต่งหน่อยเถอะลูก แม่ขอ”

พะเพื่อน : “พังมากค่ะ คือไม่แต่งตัวเลย บ้ากีฬา เตะฟุตบอล ว่ายน้ำ ออกแดดตัวดำ แบบตัดผมม้า ใส่เสื้อโปโล กระโปรงสั้นเหมือนไปตีเทนนิสตลอดเวลา แล้วอยู่ๆ ไปดัดผม ตัวดำปี๋หัวทอง มันคือยุคมืดค่ะ (หัวเราะ)

แม่อุ๊: “แม่ก็เตือนนะแต่หนูบอกก็ลูกชอบ แม่ก็เออตามใจ คือพวกเด็กอินเตอร์เขาไม่ค่อยแต่งตัวกัน ฝรั่งเขาไม่ค่อยได้สนใจ แค่รองเท้าผ้าใบ สะพายเป้ก็จบ แต่ตอนนั้นอาจจะเพราะเด็กด้วย พอเข้ามหาวิทยาลัยก็ดีขึ้นเยอะ”

พะเพื่อน : “แม่ก็บอกด้วยแหละว่าเริ่มแต่งตัวได้แล้วนะเข้ามหาลัยแล้ว เราก็เริ่มเห็นนู่นนี่เองมากขึ้นด้วยก็เลยเริ่มชอบแฟชั่น”

 Aimee Song บล็อกเกอร์ที่สาวพะเพื่อนชื่นชอบ


7.แฟชั่นไอคอน

พะเพื่อน : ถ้าเป็นคนไทยจะชอบสไตล์เท่ๆ แบบพี่เจนี่ เที่ยนโพธิ์สุวรรณ แต่ถ้าฝั่งต่างประเทศก็จะมีบล็อกเกอร์คนนึงที่ชอบมาก คือ Aimee Song เป็นคนเกาหลีที่ไปโตอยู่ที่อเมริกา สไตล์เขาไม่ได้เยอะ ไม่ได้หวาน ถึงแม้จะแต่งตัวหวานแต่กลับกลายเป็นว่าเขาเท่ เราก็เลียนแบบการแต่งตัวของเขาหลายอย่างเหมือนกัน อย่างเพิ่งสดๆ ร้อนๆ เลย รองเท้าคู่นึงพอเราเห็นเขาใส่ปุ๊ปเราบอกแม่เลยว่า แม่ขาต้องซื้อให้หนูแล้ว”

 

8.แอ็กเซสเซอรี่ส์ที่แพงที่สุด

พะเพื่อน : ส่วนใหญ่ถ้าเป็นของที่มีมูลค่าอย่างเช่น กระเป๋า นาฬิกา จะแชร์กันแม่ลูก ถ้าแพงมากเราก็จะคิดก่อน ดูว่าคุ้มไหม ราคาตกไหมในอนาคต”

โพสท่ากับรองเท้าคู่โปรด off white X Nike Air
9.ไอเท็มสุดหวง

พะเพื่อน : “รักทุกชิ้น (หัวเราะ) จริงๆ อาจจะเป็นรองเท้าที่รู้สึกภูมิใจที่ได้มา พวกสนีกเกอร์ที่คนต่อแถวกันเป็นวัน ข้ามคืน ตั้งเต้นท์กันที่อังกฤษ ล่าสุดที่ได้มาก็เป็น off white X Nike Air คือมันแรร์แล้วต้องใช้ความพยายามในการต่อแถวและเสี่ยงดวงด้วยว่าจะได้หรือไม่ได้ เพราะเขาจะเอาชื่อไปลงแล้วแรนดอมให้เป็นเหมือนรางวัล ซึ่งเราได้พอดี  ด้วยความที่มันยากมากแล้วคนอยากได้มากก็เลยรู้สึกสะใจที่ได้ เวลาเราใส่เดินที่นู่นคนก็จะมองตาม เพราะตอนนี้บางคนเขาเอาไปอัพราคาแล้วมันก็จะแพง อย่างเราซื้อได้คู่ละหกเจ็ดพัน แต่ไปอัพราคาเป็นหกหมื่นอะไรแบบนี้ค่ะ”

แฟชั่นิสต้าตัวจริง

street style คือตัวตนของสาวพะเพื่อน
10.โลกแฟชั่นในแบบพะเพื่อน

พะเพื่อน : “สำหรับหนูแฟชั่นเป็นอะไรที่เราชอบ เรามองอะไรแล้วเราคิดว่ามันสวย มันเหมาะกับเรา ไม่จำเป็นต้องคอลเลกชั่นใหม่ หรือไม่ต้องเป็นแบรนด์ ขอแค่เราชอบ อาจจะมีกระเป๋ากับรองเท้าที่เน้นแบรนด์หน่อยเพราะถ้ารองเท้าไม่ใช่แบรนด์บางทีมันใส่ไม่สบาย”

แม่อุ๊ : “เสื้อยืดขาดรุ่งริ่ง เป็นรู  ถ้าเขาชอบเขาก็ใส่ จนคนเขาแซวว่าแม่จนมากใช่ไหมลูก คือบางทีผู้ใหญ่เขาไม่รู้ไงว่ามันเป็นแฟชั่นก็มากระซิบบอกแม่ว่าเอ...สงสัยแมลงสาบมันกัด เราบอกไม่ใช่ค่ะๆ เป็นสไตล์ค่ะ”

บอกเลยว่าความเป็นสาวแฟชั่นนิสต้าที่ถ่ายทอดมาจากคุณแม่นั้นเป๊ะจริงๆ ! 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook