ดื้อโบ ปัญหานี้ห้ามมองข้าม!

สวยจริง สวยจัง แต่อย่าให้พังเพราะ "ดื้อโบ"

สวยจริง สวยจัง แต่อย่าให้พังเพราะ "ดื้อโบ"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โบท็อกซ์ หรือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน นั้นเป็นการฉีดโปรตีนเพื่อรักษาผู้ป่วยในการแพทย์ และต่อมาได้มีการใช้เพื่อทำการลดเลือนริ้วรอย การปรับรูปหน้าให้กระชับเข้ารูป เพื่อเสริมความมั่นใจ ด้วยเหตุนี้ทำให้โบท็อกซ์เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายด้วยเวลาอันรวดเร็ว และยังคงมีแนวโน้มการฉีดโบทอกซ์ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้หญิงไทย 63% ใช้เพื่อปรับรูปหน้า 61% ใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอย อย่างเช่น รอยตีนกา ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก และ 47% ใช้เพื่อเสริมความมั่นใจให้ตนเอง แต่อย่างที่เห็นๆ ว่าหลายครั้งก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์แล้วกลับไม่เห็นผล หรือฉีดโบท็อกซ์แล้วความเต่งตึงกลับอยู่ได้เพียงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งนั่นอาจหมายถึงการเข้าสู่อาการ "ดื้อโบ" ที่โบท็อกซ์ให้ผลไม่เท่ากับครั้งแรกที่ฉีด ว่าแต่แท้จริงแล้ว "ดื้อโบ" คืออะไร สาเหตุของการดื้อโบคืออะไร อาการและลักษณะเป็นแบบไหน พร้อมต้องแก้ไขอย่างไร Sanook! Women หาข้อมูลมาให้แล้ว

 

การดื้อโบ

โบท็อกซ์เป็นเทคนิคที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ในเวลาในอันรวดเร็ว แต่ไม่ได้มีประสิทธิภาพที่จะคงอยู่อย่างถาวร จะเห็นผลเพียง 4-6 เดือนเท่านั้น ทำให้ผู้ใช้ต้องฉีดโบท็อกซ์อยู่เรื่อยๆ แต่หากผู้ใช้บางคนฉีดโบท็อกซ์บ่อยเกินไป และสารที่ฉีดนั้นมีความบริสุทธิ์ไม่เพียงพอ ซึ่งหมายความว่าสารนั้นมีโปรตีนที่เป็นตัวกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ผลิตแอนติบอดี้ที่จะไปยับยั้งท็อกซิน หรือยับยั้งประสิทธิภาพการทำงานของโบท็อกซ์ นั่นเอง

สาเหตุการดื้อโบ

  1. การตอบสนองต่อโบท็อกซ์ของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน บางคนอาจจะต่อต้านการทำงานของโบท็อกซ์ ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้
  2. การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ทำให้ยิ่งมีโอกาสดื้อโบสูงขึ้น
  3. การฉีดโบท็อกซ์เกินปีละ 2 ครั้ง และโดสสูงกว่า 100 ยูนิต ต่อครั้ง จะยิ่งทำให้มีโอกาสดื้อโบสูงขึ้น

ผลประทบอาการดื้อโบ

  • ในระยะสั้น เมื่อต้องเสียเงินและการรักษาไม่เป็นไปตามผลที่หวังไว้ ทำให้ต้องสิ้นเปลืองยา และต้องเสียเงินมากขึ้น
  • ในระยะยาว เมื่ออายุมากขึ้นและเกิดป่วยเป็นโรคบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อซึ่งจำเป็นจะต้องใช้ท็อกซินชนิดนี้ในการรักษาจะไม่สามารถรักษาได้ ส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว

วิธีแก้ไข

ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการแก้ไขการดื้อโบที่เห็นผลในทันที แต่เมื่อรู้ตัวว่าเราเริ่มมีอาการดื้อโบแล้ว แนะนำว่าให้หยุดฉีดโบทอกซ์เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งแปลว่าทางเดียวที่สามารถทำได้ในตอนนี้คือการป้องกันไม่ให้เกิดอาการดื้อโบนั่นเอง

 

3 เคล็ดลับการฉีดโบท็อกซ์อย่างเหมาะสม

  1. รับบริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
  2. เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีขนาดโมเลกุลเล็กและบริสุทธิ์
  3. ฉีดโบท็อกซ์เพียงปีละ 2 ครั้ง และในแต่ละครั้งต้องไม่เกิน 100 ยูนิต

หากสาวๆ ต้องการเข้ารับบริการฉีดโบท็อกซ์เพื่อที่จะได้มีใบหน้าที่ตึง เป๊ะ และกระชับไปตลอดเวลา ก็อย่าลืมคำนึงถึงผลเสียที่จะตามมาหากฉีดโบท็อกซ์เยอะเกินไปด้วยนะคะ ยังไงป้องกันไว้ก่อนก็ดีเสมอ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook