จูบ...ใครว่าไม่สำคัญ
ไม่ว่าจะเป็นจุมพิตที่ปลุกเจ้าหญิงนิทรา หรือจูบในตำนานของโรมิโอ-จูเลียต การจูบเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่คู่รักอยากจะทำมันให้ดีที่สุดเสมอ
แต่การจูบเป็นเรื่องสำคัญขนาดไหนกันเชียว? สำคัญสิ งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่ามันสามารถสร้างหรือทำลายชีวิตรักได้ ต่อไปนี้คือคู่มือ 3 ขั้นตอนของรอยจูบที่ไม่มีวันลืมเลือน
“ฟัง” ริมฝีปากของคุณ
จากการศึกษาของนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยอัลบานีในสหรัฐฯ ชี้ว่า ผู้หญิงถึง 66 เปอร์เซ็นต์จะยุติสัมพันธภาพของเธอกับหนุ่มที่มีจูบแรกแสนจะไม่ได้เรื่อง และนั่นไม่ใช่ความคิดโง่ๆ หรือตื้นเขินแต่อย่างใดเลย “การจูบเป็นตัวทดสอบทางธรรมชาติที่สำคัญอย่างมาก” เชอริล เคิร์เช่นโบม ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Science of Kissing บอกเช่นนั้น “บางทีคุณอาจจูบกับใครสักคนที่รู้สึกเหมือนเป็นหนุ่มในฝัน แล้วก็กลับรู้สึกแตกต่างออกไปได้ในทันที ผู้หญิงมักถูกดึงดูดจากกลิ่นของผู้ชายที่มีชุดของพันธุกรรมแตกต่างกันมากกว่า”
ฝึกเอาไว้เถิดจะเกิดผล
มีสถิติระบุไว้ว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ จูบแบบแสนพิศวาสกับคนที่ไม่ซ้ำกันมากกว่า 20 คน แต่ถึงคุณลงเอยกับใครสักคนแล้ว ก็จูบต่อไปเรื่อยๆ ก็ได้นะ การศึกษาของวิทยาลัยลาฟาแยตต์ในเมืองอีสตัน รัฐเพนซิลวาเนียในสหรัฐฯ พบว่า การจูบทำให้มีการหลั่งสารเคมีที่ช่วยลดฮอร์โมนความเครียดที่ชื่อคอร์ติซอล แต่การจูบมักจะเป็นอะไรบางอย่างที่เรามักปล่อยปละละเลย เวลาที่เราอยู่กับใครสักคนเป็นเวลานานๆ ฉะนั้น เมื่อคุณมีใครสักคนหนึ่งแล้ว ก็จูบเขาไปเรื่อยๆ เพราะมันเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมมากในการสร้างความผูกพันกัน
ให้ทุกครั้งเป็นเหมือนครั้งแรก
ในหนังสือบันทึกความทรงจำของ คริสติน่า ฮาก Come to the Edge ที่พูดถึงเรื่องสัมพันสวาทของเธอกับ จอห์น เอฟ. เคเนดี้ จูเนียร์ หลังจากที่ฝึกจูบกันหลอกๆ สำหรับการเล่นละครมาหลายครั้ง คู่รักทีแสดงคู่กันบนจอ ก็มาจูบกันจริงๆ นอกจอในที่สุด ฮากเขียนเล่าว่า “เรานั่งลงภายใต้ดวงดาว และรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกัน แต่แล้วเขาก็บอกว่า “ผมจูบจริงๆ เลยได้มั้ย” เขาไม่ได้รอคำตอบ แต่โน้มตัวเข้ามาหาฉัน มันอ่อนโยนและแสนวิเศษมาก ฉันลืมตาขึ้นชั่วเสี้ยววินาที แล้วเห็นจากรอยที่หางตาของเขาว่าเขากำลังยิ้มอยู่” นั่นล่ะคือความทรงจำแสนวิเศษของจูบแรก