เคล็ดลับแก้ปัญหานอนไม่หลับ ฉบับสาวออฟฟิศ
โรคนอนไม่หลับเป็นโรคที่มักเกิดขึ้นได้กับผู้คนโดยทั่วๆ ไปและมักพบได้มากที่สุดในกลุ่มสาวออฟฟิศ ที่ต้องทำงานหนัก พักผ่อนน้อย แถมยังต้องเจอความกดดันและความเครียดซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากมากๆ ส่งผลทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติ นอนหลับไปเต็มอิ่ม หรืออาจรุนแรงถึงขั้นนอนไม่หลับทั้งคืนเลยก็ได้ แต่ถ้าหากเราปล่อยทิ้งไว้นานก็คงไม่ดีต่อสุขภาพ เป็นตัวการของโรคเรื้อรังที่จะตามมาในอนาคต ดังนั้นลองมาดูเคล็ดเหล่านี้ที่จะช่วยแก้ปัญหาอาการนอนไม่หลับให้ดีขึ้น เพื่อภาพชีวิตดีๆ ของผู้วัยทำงานนั่นเอง
ปิดโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์สื่อสาร
อุปกรณ์พวกนี้นอกจากจะรบกวนการนอนหลับเพราะมัวแต่เลื่อนหน้าจอเล่น อย่าคิดว่านี่เป็นการพักผ่อนหลังเลิกงาน เนื่องจากแสงสีฟ้าที่ปล่อยออกมาจากมือถือ โดยที่เรามองไม่เห็นนั้น ขก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สาวๆ นอนไม่หลับ หรือบางครั้งอาจจะเพลินกับการนอนดูซีรี่ย์จนเลยเวลา เป็นเหตุทำให้การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นควรปิดอุปกรณ์เหล่านี้ก่อนที่จะนอนทุกครั้ง ลองฝึกวินัยตัวเองให้ชิน แล้วจะรู้ว่าการหลีกหนีจากอุปกรณ์เหล่านี้ก่อนเวลานอน เป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก
พักสมองจากงานบ้างก็ดีไม่น้อย
สำหรับสาวออฟฟิศแล้วคงหนีไม่พ้นความเครียดที่มาจากงานในแต่ละวันจนเป็นสาเหตุที่ทำให้นอนไม่หลับได้ การพักสมองจากงานที่ควรทำ คือพักหลังเลิกงาน ควรเอางานทุกอย่างออกจากหัวไปซะ อย่าปล่อยให้มันวนเวียนอยู่ แม้งานพรุ่งนี้จะยังไม่เสร็จ แต่หากสาวๆ ต้องกังวลอยู่ในคืนนี้ ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ดังนั้นควรหยุดคิดเรื่องเครียดๆ ก่อนที่จะนอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพื่อให้สมองได้ผ่อนคลาย
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
เป็นเครื่องดื่มที่สาวๆ ออฟฟิศแทบจะขาดไม่ได้ แต่แนะนำว่า ตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นต้นไปนั้นไม่ควรที่จะดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ถึงแม้จะช่วยให้หายง่วงในเวลาบ่ายได้แต่ก็อาจส่งผลทำให้ไม่รู้สึกง่วงในเวลากลางคืน จนเป็นสาเหตุให้นอนไม่ได้หลับ หรือหลับไม่ลึก นำไปสู่ความเครียดแบบไม่รู้ตัว
สาวๆ ออฟฟิศท่านใดที่กำลังเจอปัญหานอนไม่หลับอยู่ละก็ลองนำเคล็ดลับนี้ไปใช้เป็นแนวทาง ประยุกต์กับชีวิตประจำวันของตัวเองกันดู หากนอนไม่หลับ อย่าพยายามพึ่งยานอนหลับโดยเด็ดขาด ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ตามคำสั่งของแพทย์แล้วล่ะก็ เพราะแม้จะช่วยให้หลับสนิทได้แต่ถ้าหากร่างกายได้รับยาชนิดนี้เป็นประจำก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในภายหลังได้เช่นกัน