ฟอกสีฟัน โดยมืออาชีพ และเทคนิคฟันขาวที่ทำได้เอง แบบไหนให้ผลยังไงบ้าง

ฟอกสีฟัน โดยมืออาชีพ และเทคนิคฟันขาวที่ทำได้เอง แบบไหนให้ผลยังไงบ้าง

ฟอกสีฟัน โดยมืออาชีพ และเทคนิคฟันขาวที่ทำได้เอง แบบไหนให้ผลยังไงบ้าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สีขาว..เป็นสีที่ให้ความรู้สึกถึงความสะอาดสดใส และสำหรับฟันของเรา สีฟันที่ดูขาวสะอาดสดใส ก็เป็นที่ชื่นชอบมากกว่า แต่เนื่องจากฟันต้องเจอกับอาหารที่หลากหลาย จึงมีโอกาสที่จะเกิดคราบซึ่งทำให้สีฟันไม่ขาวสดใส ดังนั้น จึงได้เกิดนวัตกรรม ฟอกสีฟัน ที่ช่วยคืนความขาวสะอาดให้แก่สีของฟัน แต่การฟอกสีฟันก็มีหลากหลายวิธี ทั้งแบบที่ทำโดยมืออาชีพและแบบที่ทำด้วยตนเองที่บ้าน มาลองดูกันว่ามีวิธีการไหนบ้าง และวิธีการไหนได้ผลยังไงบ้าง

ฟอกสีฟัน โดยมืออาชีพ

การฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ เป็นการแก้ปัญหาฟันเหลืองจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การสูบบุหรี่เป็นเวลานาน การรับประทานยาบางชนิด หรือจากคราบน้ำชา กาแฟ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถแก้ไขด้วยการฟอกสีฟันได้ เพราะในบางครั้งโรคของฟันบางอย่างก็เป็นข้อจำกัดที่ทำให้ยากต่อการฟอกสีฟัน เช่นภาวะเหงือกร่น ฟันที่มีสีจากอุบัติเหตุ ฟันที่มีสีตามอายุการใช้งาน เป็นต้น การฟอกสีฟันซึ่งนิยมกันโดยทั่วไป มีอยู่สองวิธีดังนี้

1 การฟอกสีฟันในคลินิก

เป็นการใช้น้ำยาฟอกสีฟัน คือ ไฮโดรเจน เพอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) หรือ คาร์บาไมด์ เพอร์ออกไซด์ (Carbamide Peroxide) ไปทำปฏิกิริยากับสารภายในฟัน ทำให้สีที่สะสมอยู่บนผิวฟันและในเนื้อฟันแตกตัวออกมา จึงทำให้ฟันขาวสว่างขึ้น โดยไม่มีผลต่อเคลือบฟัน และโครงสร้างของฟันตามธรรมชาติ ในปัจจุบันมีการใช้แสงเลเซอร์หรือแสงสีฟ้า (Blue Light) มาช่วยกระตุ้นการทำงานของน้ำยาฟอกสีฟัน ให้มีประสิทธิภาพในการกำจัดคราบสีที่ติดอยู่บนผิวฟันและในเนื้อฟันได้ดียิ่งขึ้น โดยไม่ทำลายเคลือบฟัน ไม่กัดกร่อนเนื้อฟัน และโครงสร้างของฟันตามธรรมชาติ ใช้ระยะเวลาในการฟอกสีฟัน 45-60 นาที สามารถปรับระดับเฉดสีฟันให้ขาวขึ้นได้ 3-8 เฉดสี แต่เป็นวิธีการที่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

2 การฟอกสีฟันที่นำกลับไปทำเองที่บ้าน

วิธีการนี้ คุณจะต้องเข้ารับการตรวจฟันกับทันตแพทย์ก่อน เพื่อประเมินสภาพฟันและสีฟัน หากทันตแพทย์เห็นว่าพร้อมที่จะฟอกสีฟัน ก็จะพิมพ์ปากคนไข้เพื่อสร้างแบบจำลองฟัน และนำมาทำถาดฟอกสีฟัน เมื่อถาดฟอกสีฟันได้มีการปรับแต่งให้มีความพอดีกับช่องปากของคุณแล้ว ณจะได้รับน้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นต่ำ และถาดฟอกสีฟันที่จัดทำขึ้นมาเฉพาะสำหรับคุณ ให้นำกลับไปใช้ที่บ้าน วิธีการก็คือ คุณจะต้องใส่ถาดฟอกสีฟันวันละประมาณ 4 ชั่วโมง หรือใส่ตลอดทั้งคืนขณะนอนหลับ ระหว่างใส่ถาดฟอกสีฟันมีข้อห้ามคือ งดรับประทานอาหารทุกชนิด ในระหว่างการฟอกสีฟัน คนไข้อาจมีอาการเสียวฟัน มีอาการระคายเคืองเนื้อเยื่ออ่อน เช่น เหงือก เป็นต้น ทันตแพทย์จึงมีการนัดมาติดตามผลเป็นระยะเพื่อดูผลของการฟอกสีฟัน และดูแลแก้ไขอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น การฟอกสีฟันแบบทำด้วยตนเองที่บ้านต้องภายใต้การควบคุมของทันตแพทย์ โดยใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ สีของฟันจะค่อยๆ ขาวสว่างขึ้น

ผลข้างเคียงจากการฟอกสีฟัน

การฟอกสีฟัน ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อฟันของคุณ ไม่ทำลายเคลือบฟันและเนื้อฟัน แต่ในบางคนอาจจะมีอาการเสียวฟันขณะทำ หรือหลังทำได้ โดยอาการเสียวฟันนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 วันหลังจากหยุดฟอกสี หากมีอาการเสียวฟันแนะนำให้ใช้ยาสีฟันที่ช่วยลดอาการเสียวฟัน บีบใส่ในถาดฟอกสี แล้วใส่ไว้นานอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ในบางครั้งอาจมีอาการระคายเคืองที่เหงือก แก้ไขโดยใช้น้ำยาฟอกสีปริมาณน้อยลงและลดจำนวนชั่วโมงในการฟอกสีลงได้ หลังจากการฟอกสีฟันแล้วควรดูแลรักษาสุขภาพช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ โดยแปรงฟันให้ถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเช้า-เย็น การใช้ยาสีฟันที่มีส่วนประกอบของโพแทสเซียมไนเตรตจะช่วยลดอาการเสียวฟัน ใช้ไหมขัดฟันช่วยในการทำความสะอาดฟัน บ้วนปากด้วยน้ำยาผสมฟลูออไรด์ก่อนนอน หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม เช่น ชา กาแฟ ไวน์แดง น้ำอัดลม ลูกอม แกงที่มีสีต่างๆ ฯลฯ เนื่องจากก่อให้เกิดคราบสีบนผิวฟัน ทำให้ฟันดูคล้ำลงได้ หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีสีเข้มได้ ควรใช้หลอดดูดแทนการดื่มจากแก้วโดยตรง งดรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณสมบัติเป็นกรด อาหารรสจัด เช่น เปรี้ยวจัด เค็มจัด หวานจัด อาหารร้อนหรือเย็นจนเกินไป ภายหลังการฟอกสีฟัน 2 สัปดาห์ เพื่อลดอาการเสียวฟัน งดสูบบุรี่อย่างน้อย 1 สัปดาห์ ทานยาแก้ปวดเมื่อมีอาการ และควรกลับมารับการตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำทุก 6 เดือน ภายหลังการฟอกสีฟัน ความขาวของฟันจะไม่คงทนถาวร โดยความขาวใสของสีฟันจะค่อยๆ ลดลงตามลำดับ ทั้งนี้ สีฟันจะคงอยู่ได้นานแค่ไหนนั้นขึ้นกับการดูแลตนเองหลังทำ หากคนไข้ดูแลฟันเป็นอย่างดี ก็จะช่วยให้สีฟันคงอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี โดยทันตแพทย์จะแนะนำให้มีการทำซ้ำเป็นระยะ (touch up) ทุกปี เพื่อให้สีฟันที่ขาวขึ้นแล้ว อยู่ได้คงทนถาวรและยาวนานขึ้น

เราควรฟอกสีฟันหรือเปล่า

ถึงแม้ว่าการฟอกสีฟันจะช่วยปรับเฉดสีฟันให้ขาวขึ้นได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะฟอกสีฟันได้ เพราะโรคหรือภาวะบางอย่างก็เป็นข้อจำกัดที่ทำให้ยากต่อการฟอกสีฟัน เช่น ภาวะเหงือกร่น ที่เผยให้เห็นเนื้อฟันสีเหลืองบริเวณรากฟัน ฟันสีคล้ำที่เกิดจากการรับประทานยาเตตราไซคลีน ฟันที่มีสีคล้ำจากการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงฟันผุ สำหรับสตรีมีครรภ์และให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการฟอกสีฟัน ทั้งนี้ การฟอกสีฟันจะได้ผลในกรณีที่เป็นฟันธรรมชาติเท่านั้น ไม่มีผลต่อวัสดุอุดฟัน ครอบฟัน สะพานฟัน เคลือบผิวฟัน วีเนียร์ หรือฟันปลอม และไม่มีการฟอกสีฟันวิธีไหนที่สามารถทำปฏิกิริยากับฟันที่มีสีขาวมากๆ อยู่แล้ว

  • ฟันที่เหลืองจะตอบสนองได้ดีต่อการฟอกสีฟัน ฟันที่เป็นสีเทาหรือน้ำตาล หรือมีคราบจากยาจำพวกเตตราซัยคลีน (Tetracycline) หรือได้รับฟลูออไรด์มากเกินไป อาจจะไม่ขาวเมื่อใช้การฟอกสี
  • ผู้ที่มีปัญหาโรคเหงือกอักเสบ หรืออาการเสียวฟัน อาจต้องหลีกเลี่ยงการฟอกฟันขาวที่ใช้สารเคมีที่จะระคายเคืองต่อเหงือก
  • การฟอกสีฟันไม่เหมาะกับผู้ที่มีการอุดฟันแบบสีเหมือนฟัน การครอบฟัน การอุด/เติมฟันสีธรรมชาติ เพราะการฟอกสีฟันจะใช้ไม่ได้ผลกับวัสดุเหล่านั้น ยิ่งกว่านั้นจะทำให้สีดูชัดเจนยิ่งขึ้นท่ามกลางฟันที่ขาวของคุณ ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อหาทางเลือกอื่นๆ
  • ในบางกรณีที่มีปัญหาร้ายแรงเกี่ยวฟันและขากรรไกร การครอบฟันจะช่วยในการแก้ไขปัญหาเหล่านั้น และทำให้รอยยิ้มดูขาวสดใสยิ่งขึ้นอีกด้วย
  • ไม่แนะนำในเด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปี เนื่องมาจากโพรงในตัวฟัน (pulp chamber) หรือเส้นประสาทฟันยังไม่เติบเต็มที่ในวัยนี้ การฟอกสีฟันอาจทำให้ระคายเคืองเนื้อฟัน หรือทำให้รู้สึกเสียวฟันได้ง่ายขึ้น และไม่แนะนำในผู้หญิงตั้งครรภ์และกำลังให้นมบุตรด้วย
  • ฟันไวต่อความรู้สึกและอาการแพ้ คนที่มีฟันและเหงือกที่บอบบาง เหงือกร่น หรือฟันที่บูรณะมาแล้ว ควรปรึกษาแพทย์ก่อน คนที่แพ้เพอร์ออกไซด์ ก็ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน

ชุดฟอกสีฟันสำเร็จรูปได้ผลแค่ไหน

เดี๋ยวนี้มีผลิตภัณฑ์สำหรับฟอกสีฟันแบบสำเร็จรูป ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป โดยปกติในชุดฟอกสีฟันที่ซื้อใช้ได้เอง จะใช้สารฟอกสีฟัน คาร์บาไมลด์ เพอร์ออกไซด์ 10-22% ซึ่งเท่ากับไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ราว 3%เทียบกับที่ใช้โดยมืออาชีพ ความเข้มข้นจะอยู่ที่ 15%-43% และควรระวังชุดฟอกสีฟันที่มีขายกันทางออนไลน์ เพราะอาจมีส่วนผสมที่เป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ความเข้มข้นของสารฟอกสีฟันที่ต่างกันแล้ว ประสิทธิภาพของการฟอกสีฟัน ยังขึ้นอยู่ถาดฟันที่ใช้ด้วย ถาดฟันที่มืออาชีพเป็นผู้ทำให้แบบเฉพาะตัว จะทำให้มีการสัมผัสกับฟันมากกว่าถาดฟันจากชุดฟอกสีฟันที่ซื้อได้เองตามร้าน

ทางเลือกเพื่อฟันขาวอื่นๆ ได้ผลแค่ไหน

  • ยาสีฟันไวเทนนิ่ง

ยาสีฟันช่วยขจัดคราบที่พื้นผิวข้างบน เพราะมีสารฟอกสีที่ไม่รุนแรง บางอย่างอาจมีส่วนผสมที่ช่วยขัดฟัน และช่วยให้การขจัดคราบมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการขจัดคราบ ไม่ได้เป็นการฟอกสีฟัน และทำให้สีฟันดูขาวขึ้นได้หนึ่งเฉด เทียบกับที่ถ้าทำโดยทันตแพทย์จะขาวขึ้นได้สามถึงแปดเฉด แต่ถ้าคุณฟอกสีฟันมาโดยมืออาชีพแล้ว ก็อาจช่วยให้สีฟันที่ฟอกมาขาวได้นานขึ้น

  • เจลหรือแผ่นฟอกสีฟัน 

เป็นเจลที่มีส่วนผสมของเพอร์ออกไซด์ ใช้ทาลงบนฟันโดยตรง วิธีการใช้อาจแตกต่างกันไปตามความแรงของเพอร์ออกไซด์ที่มีอยู่ ทำตามคำแนะนำอย่างระมัดระวัง จะเห็นผลในสองสามวัน และผลอาจอยู่ได้นานราวสี่เดือน แถบฟอกสีฟันจะเป็นแถบบางๆ เคลือบไว้ด้วยเพอร์ออกไซด์เช่นกัน เอามาแปะลงบนฟัน เห็นผลได้ในสองสามครั้งที่ใช้ และอาจมีผลได้นานราวสี่เดือน

  • น้ำยาบ้วนปาก

เป็นเทรนด์ใหม่ของฟันขาว เช่นเดียวกับน้ำยาบ้วนปากอื่นๆ มันช่วยทำให้ลมหายใจสดชื่น ช่วยลดคราบพลัค และโรคเหงือก แต่มีการใส่ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์เข้าไป เพื่อช่วยให้ฟันขาว แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าไม่ได้ผลเท่ากับผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันที่ซื้อได้ตามร้าน เพราะน้ำยาบ้วนปากมีโอกาสสัมผัสกับฟันแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้นเอง เมื่อเทียบกับแถบฟอกสีฟันที่ต้องทาทิ้งไว้ 30 นาที Hello  Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook