make over สวนสวยให้บ้านคุณดูสะดุดตา

เรื่องมีอยู่ว่า "นี่คุณเมธา ฉันมีเรื่องอยากจะปรึกษาหน่อยน่ะ พอดีว่า ที่บ้านมีบ้านนกอยู่สองหลัง ซึ่งซื้อมานานมากแล้ว แต่ก็ไม่รู้จะนำไปแต่งสวนยังไงดี เห็นคุณ เมธาชอบประดิษฐ์โน่นนี่ สวนที่บ้านก็สวย ฉันเองก็อยากได้สวนแนวป่าชื้นๆ เหมือนของคุณด้วยสิ (ยิ้ม) แล้วก็ นี่มีที่ว่างตรงระเบียงอยู่ด้วยนะ ได้ออกไปนั่งเล่นตอนค่ำๆก็ดีเหมือนกัน...เมธาจัดให้ฟ้าหน่อยนะ นะ นะ"

เจ้าของประโยคด้านบนคือสาวข้างบ้านเพื่อนผมเอง ไม่ใช่ Girl Next Door อะไรหรอกครับ เป็นเพื่อนบ้านซี้ปึ๊ก เล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆนี่แหละ ซึ่งหลังจากที่เมธาได้ฟังโจทย์จากเธอแล้ว ก็รู้สึกสนใจมาก อยากทำขึ้นมาทันทีเลย และบ้านนกเองก็ถือเป็นของแต่งสวนยอดนิยมเช่นกัน พบเห็นได้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน อยู่ในสวนได้แทบทุกสไตล์ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบของบ้านนกนะครับ งั้นวันนี้เราลองมาใช้บ้านนกของเพื่อนคุณเมธา จัดสวนระเบียงกันดีกว่า

เสริมสวยให้บ้านนก

บ้านนกที่แสนธรรมดาของเรา เริ่มปรับเปลี่ยนด้วยการนำมาติดกับไม้ก่อนเลยครับ เนื่องจากเป็นสไตล์สวนป่าเขตร้อน หากคุณมีบ้านนกอยู่อย่างเดียวเหมือนกับผม ลองเสาะหาซื้อตอไม้ขนาดสูงสัก 1.5 เมตรแล้วนำมาประกอบกับบ้านนกดูครับ จากนั้นก็ตกแต่งให้ดูเป็นบ้านนกที่ธรรมชาติเริ่มแทรกตัวกลายเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน โดยแปะมอสติดกับตัวบ้านบ้าง หาต้นเคราฤาษีมาพันสักหน่อยเท่านี้ก็ดูสดชื่นมากขึ้นแล้วครับ

 

 

 ตอกฐานรองบ้านนกเข้ากับตอไม้

 

 

นำบ้านนกวางทับไปที่ฐานรอง และใช้ตะปูตอกให้ติดกัน

 

 

พันเคราฤาษี ตกแต่งให้เลื้อยสร้างจังหวะให้ดูสวยงาม

 

 

พอกดินปลูกบัวที่หลังคาให้ทั่ว

 

 

แปะมอสลงไปให้แน่น

 

 

บ้านนกหลังคามอส เสร็จแล้วครับ

Tips

การพอกดินปลูกบัวที่แผ่นไม้ ควรพอกหนาอย่างน้อย 1 นิ้ว ควรให้ผิวสัมผัสสูงบ้างต่ำบ้าง สร้างลูกเล่นให้ตัวหลังคาดูเป็นธรรมชาติ และช่วงแรกที่ติด รากมอสจะยังไม่งอกเกาะดิน ให้นำไปเลี้ยงโดยวางทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์เพื่อให้รากติดกับดินดี

ควรวางบ้านมอส อยู่ในที่มีสภาพความชื้นเหมาะสม และ แสงรำไร เช่นแดดช่วงเช้า การฉีดพ่น รดน้ำบ่อยๆก็ช่วยรักษาระดับความชื้นให้มอสดูเขียวสดใสได้เช่นกัน
รูป Dicut บ้านนกกับกิ่งไม้ (จะเอามาเล่น บ้าน + ไม้ ไหมพี่ ถ้าไม่เวิร์คก็ไม่ต้องใส่)

 

เรียงให้ดี ทำให้งาม

การจัดสวนในวันนี้ จะจัดในสไตล์สวนป่าเมืองร้อนกันครับ ซึ่งเราจะต้องจินตนาการกันก่อนว่า สภาพป่านั้นเป็นอย่างไรหนอ ต้องมี ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ต้องมีไม้ใบใหญ่ๆ ตอไม้หรือ พวกเฟินเกาะต่างๆ ภาพในหัวเป็นแบบนี้ใช่ไหมครับ คราวนี้เราต้องวางแผนการจัดวางกันนิดหน่อย เนื่องจากพื้นที่จัดเป็นระเบียงครับ เราจะใช้วิธีวางกระถางกันอย่างเดียว แต่การวางของเรา ต้องวางอย่างมีชั้นเชิงครับ เริ่มต้นด้วยการกำหนดพระเอกของเรา วางบ้านนกที่ตำแหน่งโชว์โดยหนุนขึ้นให้สูงสักนิด

จากนั้นวางหมากแดง ไม้สูงเป็นฉากด้านหลัง ค่อยๆเติมทรีเฟิน เฟินไพโรเซียแขวนด้านข้าง จากนั้นเลือกบีโกเนียที่มีพุ่มกระจายตัววางลดหลั่นลงมา ปิดท้ายด้วยไม้คลุมดินที่ให้สีสว่างหน่อย เก็บขอบให้เรียบร้อยโดยอาจจะใช้อิฐกั้นขอบ หรือวางหินปิดก็ได้ครับ

 

 

บ้านนกที่เราติดมอสลงไป เพิ่มชีวิตชีวาโดยการวางนกสีสันสดใส

 

 

 บีโกเนียลำ - เป็นบีโกเนียที่สามารถปลูกบริเวณที่แดดส่อง 40-50 เปอร์เซ็นต์ วัสดุปลูกโปร่ง ระบายน้ำและอากาศได้ดี ควรวางไว้ในบริเวณที่ความชื้นในอากาศสูง เพื่อป้องกันเรื่องขอบใบไหม้ ขยายพันธุ์โดยการปักชำกิ่ง

หน้าวัวแคระ - ไม้พุ่มเตี้ย มีลักษณะเด่นที่ฐานรองดอกสีสด ทนนาน แต่หน้าวัวชนิดนี้ดอกจะเล็กกว่าชนิดทั่วไป เติบโตได้ดี ในสภาพที่มีความชื้นสูง แสงรำไรและมีลมพัดผ่านไม่แรงนัก

 

 

หมากแดง - ไม้ที่เราเลือกใช้เป็นแบคกราวนด์ของสวนระเบียงนี้ เป็นปาล์มแตกกอ ผิวลำต้นเรียบ กาบใบสีแดงสด ชอบดินร่วน แสงรำไร ความชื้นปานกลาง นิยมปลูกใกล้ศาลาในสวน สามารถทนน้ำขังได้

เฟินสกุลลูกไก่ทอง - เป็นเฟินดิน ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ส่วนมากมีลำต้นตั้งตรง ดูคล้ายไม้ยืนต้น ต้องการแสงแดดรำไรถึงแดดครึ่งวัน ความชื้นในอากาศสูง และดินระบายน้ำได้ดี ชอบใบไม้ผุ หรือมีฟาง หรือใบไม้ผุคลุมเหง้า แต่ไม่ควรฝังดินจนมิดยอดเหง้า

 

 

นกกระทา - ไม้คลุมดินอายุหลายปี มีลวดลายใบที่สวยงาม แสงรำไร เจริญเติบโตได้ในดินทั่วไป นิยมนำมาใช้จัดเป็นไม้คลุมดิน สวนในร่ม เช่นสวนป่า

 

 

ทิลแอนด์เซีย ไอโอนันทา - ไม้รากอากาศ โดยปกติใบจะเป็นสีเขียว แต่เมื่อถึงคราวออกดอกใบจะเปลี่ยนเป็นสีแดง และมีดอกสีม่วง นิยมวางไว้บนกระถาง หรือตามคบไม้ ไม่ต้องใช้เครื่องปลูก พรางแสงประมาณ 50% รดน้ำ วันละครั้ง