ผลไม้ลดน้ำหนัก แคลอรี่ต่ำ ที่กินแล้วไม่ต้องกังวลว่าจะอ้วน
สาวๆต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่า ไม่ใช่ผลไม้ทุกชนิดนะที่กินแล้วไม่อ้วน ที่ถูกต้องคือจะมีแค่เพียงบางชนิดเท่านั้นที่กินแล้วเป็นผลไม้ลดน้ำหนัก ที่ช่วยได้จริงๆ อีกทั้งหากไม่มีเวลาไปเดินหาตามตลาด ก็ยังสามารถซื้อได้ตามรถเข็นที่เราขาย เพียงเลือกให้ถูกต้องรับรองไม่อ้วนแน่ๆ ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1.สัปปะรด เป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่มี “น้ำ“เป็นส่วนประกอบ กินแล้วจะช่วยขับปัสสาวะ มีเส้นใยอาหารสูง เส้นใยนี้จะช่วยทำให้กระเพาะย่อยได้ดี ท้องไม่อืด ขับถ่ายง่าย ข้อดีของสัปปะรดอักข้อหนึ่งคือมีเอนไซม์ ที่ช่วยย่อยโปรตีนที่เรียกว่า บรอมีเลน ที่คุณสมบัติในการช่วยเผาผลาญอาหารไขมันได้ดี ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่ากินแล้วไม่อ้วนอย่างแน่นอน
2.มะละกอ ขึ้นชื่อเป็นอันดับหนึ่งในเรื่องของการช่วยระบายท้อง เพราะมีจำนวนใยอาหารที่สูงมาก มีเอนไซด์ที่ทำให้ช่วยย่อยโปรตีนที่ค้างในร่างกายที่ย่อยไม่หมดได้ด้วย ทำให้ร่างหายสามารถดูดซึมสารอาหารที่กินเข้าได้ดีขึ้น มี สารต้านอนุมูลอิสระ มีฟลาโวนอยด์ แคโรทีนและ วิตามินซี ที่ชะลอความเสื่อมให้ร่างกาย หากกินมะละกอสุก 8 ชิ้นที่พอดีคำจะได้ปริมาณแคลอรี่พียงแค่ 60 กิโลแคลลอรีเท่านั้น นับว่าเป็นผลไม้ลดน้ำหนักและบำรุงให้ผิวสวยได้ในคราวเดียวกันเลย
3.แก้วมังกร ผลไม้ชนิดนี้หากนำมากินมื้อเย็นเพื่อช่วยลดอาหารมื้อหลักจะดีมาก เนื่องจากมีแคลอรีต่ำและมีกากใยสูง มีสารมิซิเลจ (Mucilage) ที่จะช่วยให้อิ่มท้องได้นาน ลดการกินอาหารชนิดอื่นที่ให้แคลอรีสูงได้ อีกทั้งแก้วมังกรมีรสชาติหวาน สามารถดัดแปลงไปใส่ในอาหารชนิดอื่นเช่น สลัด ก็เข้ากันได้ดีและยังคงความอร่อยได้อย่างลงตัว
4.สาลี่ สาลี่มีหลายสายพันธุ์ เรียกว่ามีให้เลือกได้ตามใจชอบ ในสาลี่ 1 ผลให้พลังงานและน้ำตาลน้อยมาก อีกทั้งเป็นผลไม้ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบมาก กินแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น แก้กระหาย คลายร้อน มีวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายหลากชนิดจะมีส่วนช่วยให้ กระตุ้นการทำงานในระบบคุ้มกัน ไฟเบอร์และวิตามินจะช่วยในเรื่องผิวพรรณ จึงไม่ใช่แค่กินแล้วไม่อ้วนเท่านั้นยังเป็นผลไม้ที่ให้ประโยชน์ครบด้านจริงๆ
ผลไม้ลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนักได้นั้น ควรกินแต่พอสมควร ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป เพื่อให้ร่างกายได้สารอาหารครบหมวดหมู่ การเลือกซื้อก็ต้องดูในเรื่องของความสะอาดของร้านหรือรถเข็นที่ซื้อด้วย เพื่อป้องกันผลไม้สกปรก กินแล้วท้องเสียแทนที่จะได้สุขภาพที่ดี มีน้ำหนักเหมาะสมก็กลายเป็นเสียสุขภาพแทน ไม่คุ้มกับสุขภาพและเงินที่เสียไป